หลายคนอาจจะไม่ชินกับราคาของที่พุ่งสูงหลายเท่าตัว ห้าร้อยเปอร์เซ็นต์ พันเปอร์เซ็นต์ ของสินค้าที่ลิมิเตทอิดิชั่น และถูกนำมารีเซล หรือขายต่อ ด้วยราคากระฉูดจากราคาแรก แต่เอาล่ะ… มันคือเรื่องปกติของวงการสตรีทแฟชั่น ที่ผู้คนให้คุณค่าในฐานะไอเท็มหายาก ข้าวของแสดงตัวตน และของสะสมที่มีคุณค่าทางใจ
ล่าสุดประเด็นการรีเซล อาจจะเป็นกระแสกระเด็นมาไกลจากวงการชาวสตรีทประมาณหนึ่ง เมื่อเซิร์ฟสเก็ตกลายเป็นกิจกรรมสุดฮิต ใกล้คำว่าแมส ของเหล่าวัยรุ่น ตรงไหนก็ตามหากมีพื้นที่โล่ง ชาวเซิร์ฟก็มักจะเข้าไปจับจองฝึกซ้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่า ราคาเซิร์ฟสเก็ตบอร์ด ซึ่งก็ซื้อ-ขาย อยู่ในเรทปกติมาตลอด ก็ราคาขึ้นตามความต้องการไปด้วย เพราะว่าบางรุ่นขาดตลาด หรือบางรุ่นก็เป็นลิมิเตทอิดิชั่น ออกมาในจำนวนน้อย
เพจ CITY BOY ได้ทำรีเสิร์ชราคาที่รีเซลขึ้นแบบปรี๊ดปร๊าดของเซิร์ฟสเก็ต พบว่าบางรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ถูกรีเซลไปกว่า 500% อย่าง Smoothstar Filipino Toledo #77 PRO MODEL ที่รีเซลปัจจุบันที่ 45,000 บาทในประเทศไทย ถือว่าสูงกว่าราคาที่แบรนด์ตั้งไว้ ประมาณห้าเท่าได้
เพราะอะไรกัน ทำไมไอเท็มสตรีทแฟชั่น มันถึงถูกให้มูลค่าผ่านความต้องการมากมายขนาดนี้
ชาวสตรีท กับวงการรีเซล ‘สินค้าที่ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อได้’
อันที่จริงแล้ว ถ้าพูดถึงการรีเซล มีวงการหนึ่ง ที่การรีเซลเป็นหัวใจในการรันวงการเลยก็ว่าได้ ก็คือวงการ ‘สนีกเกอร์เฮด’ หรือเหล่าบรรดาผู้ชื่นชอบและสะสมสนีกเกอร์รุ่นลิมิเตด หายากพลิกแผ่นดิน บางคู่จากหลักพัน ราคาพุ่งไปแสน จนถึงล้าน
ด้วยเพราะ #ของมันต้องมี ดังนั้นหลายแบรนด์ก็เอาด้วยกับตลาด ด้วยการออกรุ่นพิเศษที่ไม่ใช่ว่ามีเงินจะซื้อได้ รุ่นคอลแล็บส์กับนครดังต่างๆ นานา และเพราะมาด้วยจำนวนจำกัด จึงเกิดปรากฏการณ์คนต่อคิว จับสลากคิวซื้อรองเท้า และแน่นอนว่าพ่อค้าคนกลางหลายคนก็หัวใส ไปกางเตนท์รอร้านเปิดขาย ไปช่วงชิงแย่งซื้อมาด้วยราคาในวันเปิดตัว และนำมาขายต่อ ซึ่งคนที่อยากได้จริงๆ กดจองไม่ทัน ต่อคิวก็ไม่ได้ ไม่มีทางเลือกนอกจากซื้อในราคา Re-Selling นี่เอง
ซึ่งก็ได้เห็นการรีเซลกันแบบบ้าคลั่งมาแล้วในหลายๆ รุ่น ทั้ง Adidas Yeezy ที่ออกมาในปี ค.ศ.2015 หรือบรรดา Air Jordan ที่ขึ้นหิ้งในใจชาวสนีกเกอร์เฮด
ซึ่งวงการรีเซลสนีกเกอร์ก็ไม่ได้ว่าทำกันขำๆ เสียที่ไหน เพราะมันเป็นล่ำเป็นสัน ระดับที่มีการเปิดเว็บตัวกลางที่ทำการรีเซล หรือให้คนเข้ามาเช็กราคากลางของรองเท้าหลายรุ่นเลยทีเดียว อย่าง stockx ที่ปัจจุบันเจ้าของเว็บก็รวยจนนับเงินไม่ไหวไปแล้ว
และการรีเซลสนีกเกอร์ ก็ไม่ได้เพิ่งมาเกิดขึ้นในหลายปีนี้เท่านั้น เพราะมันมีมานานแล้วล่ะ รองเท้าผ้าใบปีลึก หายาก รุ่นตำนานต่างๆ ถูกหลายคนทุ่มเทเพื่อครอบครองมาหลายยุคสมัย แต่ในยุคอินเทอร์เน็ตที่สรรพสิ่งซื้อขายบนออนไลน์ได้ การรีเซลจึงถูกตีกระแสขึ้นมาเป็นวัฒนธรรมระดับโลกในที่สุด และตลาดรีเซลสนีกเกอร์ มีโอกาสแตะ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ.2030 เลยทีเดียว
นอกจากสมฐานะแล้ว ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางใจ
นอกจาก ‘ความจำกัด’ ที่บอกถึงความ exclusive ในการถือครองแล้ว ‘คุณค่าทางจิตใจ’ ก็เป็นตัวแปรสำคัญในดีมานด์ของวงการรีเซลเหมือนกัน
นอกจากรองเท้าแล้ว เหล่า Art Toy หรือบรรดาของเล่นจากศิลปินนักออกแบบ ที่ไม่ได้เพื่อมีไว้เล่น แต่เพื่อมีไว้โชว์สะสม ก็เป็นส่วนหนึ่งของวงการสตรีทเหมือนกัน เราขอยกประเด็นคุณค่าทางใจจากมุมของเหล่า Art Toy บ้างแล้วกัน เพราะแม้จะชื่อว่า Art Toy แต่คนเก็บสะสมมองมันเป็นระดับงานศิลปะชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว
และก็มีศิลปินหลายคนที่ทำอาชีพเป็น Toy Creator ที่ทุกปีที่ในหลายประเทศจัดงาน Toy Expo กันเหล่าศิลปินก็จะออกผลงานใหม่ๆ มาเปิดขายในจำนวนจำกัด เป็น Edition ของปีนั้นปีนี้ หมดงานไป ขายหมด ก็ไม่มีให้ซื้อแล้ว อ่ะนี่แหละ ความ exclusive แล้วหนึ่ง
แต่เรื่องคุณค่าทางจิตใจก็ในฐานะของสะสม อันนี้ The MATTER เคยไปคุยกับผู้จัดงาน Thailand Toy Expo สุภนิตย์ สุรชัยกุลวัฒนา มา เขาบอกว่า เรื่องคุณค่าทางใจ เหมือนเป็นอีกเส้นเลือดหล่อเลี้ยงวงการเลยก็ว่าได้ เพราะหากคนในวงการไม่มองเห็นคุณค่าร่วม มูลค่าก็คงไม่เติบโตได้ขนาดนี้
สุภนิตย์บอกทว่า คุณค่าของอาร์ททอย มันคือดีไซน์ ความคิดสร้างสรรค์ และประเด็นการเสียดสีสังคมที่ศิลปินแฝงซ่อนในชิ้นงาน ดันให้ของเล่นเป็นมากกว่าของเล่น หลายชิ้นที่กระแสปังๆ ก็ถูกนำมารีเซลในมูลค่าหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ หลักพันเปอร์เซ็นต์ ไม่ต่างจากสนีกเกอร์
“ตอนนี้ทั้งโลกสตรีทคัลเจอร์มันโต อาร์ททอยมันก็โตคู่ขนานไปด้วย” สุภนิตย์บอก
ราคาแห่งความขบถ
อีกข้อที่เราว่า เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาไอเท็มโลกสตรีทมันพุ่งสูง คือเรื่องนี้เลย ‘ความขบถ’
หนึ่งในแบรนด์สตรีท ที่สินค้าถูกนำมารีเซลแบบบ้าคลั่งมากๆ คือ ‘Supreme’ กับนิยามของแบรนด์ที่ไม่ได้อยากแมส ไม่ทำการตลาด และนอกกรอบเสมอ เลยขายสินค้าจำนวนจำกัดมาตลอด เอาล่ะ มาแย่งกันสิ ไม่สนใจอยู่แล้ว
บางครั้งสิ่งที่ไอเท็มสตรีทนั้นโดดเด่น ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์หรือเทรนด์ แต่คือเบื้องหลังความเป็นแบรนด์นั้นๆ ด้วย เมื่อแบรนด์มีวิธีคิดที่กล้าแหกขนบทั้งดีไซน์ ทั้งการตลาด ผู้คนที่สวมใส่แบรนด์นั้น ก็สวมใส่ตัวตนของแบรนด์ไปด้วย การสวมแบรนด์บางแบรนด์ เหมือนเป็นการตะโกนบอกตัวตนไปด้วย ว่าฉันมองสังคมด้วยมายด์เซ็ตแบบไหน ฉันเป็นใคร และฉันไม่อยากเหมือนใครอย่างไรบ้าง
Supreme อาจจะเป็นแบรนด์ระดับตำนาน และมีหลายสินค้าที่อยู่ในคัมภีร์ต้องสะสมของชาวสตรีทเลยก็ว่าได้ อย่างเสื้อยืดเบสิก สกรีนโลโก้ซูพรีม ก็ถูกรีเซลจาก 30$ ไปที่ 900$ มาแล้ว และแน่นอน มีคนซื้อ เพราะของมันต้องมีอยู่แล้วน่ะสิ
แน่นอนว่านอกจากสามประเด็นข้างต้นที่กล่าวมา อีกข้อสำคัญที่จะลืมไม่ได้เลย ว่าทำไมราคารีเซลมันถึงพุ่งทะยานแบบนี้ เพราะนักสะสมหลายคนก็มองว่า ไอเท็มต่างๆ มันคือการลงทุนนั่นเอง ซื้อมาวันนี้ เก็บไว้ ใครจะรู้มูลค่าความตำนานจะเพิ่มขึ้นอีกสักกี่เท่าในอีกสิบปีข้างหน้า เม็ดเงินมันช่างหอมหวาน ซึ่งถ้าราคาไม่ตก แถมยังขึ้นอีก ก็มีแต่วินกับวิน
ได้สะสม ได้คุณค่าทางใจ แถมใครจะเป็นเศรษฐี ก็ฉันน่ะสิ!
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็เป็นเรื่องราวของวงการสตรีทและวงการรีเซล ที่เราหยิบมาเล่าให้ฟังถึงเหตุผลเบื้องหลังตัวเลขสุดตกตะลึง สำหรับใครหลายคน แต่แน่ล่ะถ้าไปถามชาวสตรีท พวกเขาก็คงเคยชินสุดๆ กับการรีเซลอะไรแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ
อ้างอิงข้อมูลจาก