‘ปฎิบัติการพิเศษ’ ที่รัสเซียทุ่มกองทัพอันดับสองของโลกจู่โจมยูเครนจากทิศเหนือ ใต้ ตะวันออกด้วยกำลังทางบกและอากาศ บัดนี้ได้กลายเป็นสงครามนานกว่าเดือนครึ่ง ที่ยังไม่มีทีท่าจะจบด้วยชัยชนะเด็ดขาดของรัสเซียได้เลย
นอกจากวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ประกาศไว้แต่ต้นว่าจะ ‘ปลดอาวุธยูเครน’ และ ‘กวาดล้างรัฐบาลนาซี’ ได้แล้ว1 ยังต้องพบกับความอัปยศขายหน้าครั้งใหญ่ เมื่อกองทัพรัสเซียต้องเสียทหารไปในเวลาเดือนกว่าพอๆ กับตอนสหภาพโซเวียตรบในอัฟกานิสถานนานถึง 10 ปี (ระหว่างปี ค.ศ.1979-1989) รถถังถูกทำลายไปมากกว่ารถถังในกองทัพบกอังกฤษกับฝรั่งเศสทั้งหมดรวมกัน2 กระทั่งเมืองอย่างมาริยูโปล (Mariupol) รัสเซียก็ยังกำราบไม่ลงสักทีแม้จะปิดล้อมและพยายามตีมานานกว่าเดือนแล้วก็ตาม
เพราะอะไร ชาติมหาอำนาจที่มั่นใจว่าจะปราบยูเครนได้เร็วแบบสายฟ้าเเลบ ถึงขนาดหนังสือพิมพ์รัฐบาลกล้าประกาศชัยชนะล่วงหน้าตั้งแต่ 48 ชั่วโมงแรกที่บุก3 จึงถูกอดีตอาณานิคมของตนเองถล่มยับจนภาพมหาอำนาจทางทหารเละไม่เป็นท่า? รัสเซียยังหวังชัยชนะแบบไหนได้อีกในสงครามครั้งนี้? และเป็นไปได้หรือไม่ว่า โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดีและนานาชาติประชาธิปไตย อาจทำให้แผ่นดินยูเครนกลายเป็นสมรภูมิสุดท้ายของ ‘หมีกระดาษ’ ตัวนี้?
‘War is the continuation of politics by other means
คาร์ล วอน เคลาเซวิตซ์ (Carl von Clausewitz) บิดาแห่งวิชาการยุทธสมัยใหม่ เคยกล่าวไว้ว่า “สงครามคือการใช้กำลังทหารเพื่อช่วยบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมือง”
ผู้ทำสงครามต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนว่าสภาพการเมืองของฝั่งตรงข้ามคืออะไร และการใช้กำลังทหารสามารถเปลี่ยนภูมิศาสตร์การเมืองของข้าศึกให้ตรงกับความต้องการของเราได้อย่างไร
แต่เพราะปูตินมีอคติผิดๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเป็นตัวตั้ง แผนการทางทหารทั้งหลายจึงผิดพลาดตั้งแต่ก่อนเริ่มบุกด้วยซ้ำ
ปูตินจินตนาการว่ายูเครนเป็นแค่ประเทศสมมติ ชาวยูเครนนั้นไม่มีจริง พวกเขาเป็นชาวสลาฟเหมือนรัสเซียที่แค่ลืมรากเหง้าไปหลงไหลตะวันตก จึงแสดงอาการอกตัญญูต่อ ‘โลกรัสเซีย’ ส่วนเซเลนสกี้เป็นหุ่นเชิดสหรัฐอเมริกาที่คะแนนความนิยมต่ำเตี้้ย แค่จรวดลูกแรกตกลงในกรุงคีฟ (Kyiv) ตัวตลกคนนี้ก็คงเผ่นหนีไปโปแลนด์ทันที จินตภาพที่บิดเบี้ยวทำให้รัสเซียวางแผนรุกเข้ายูเครนในลักษณะของการ ‘ปราบแคว้นนอกคอก’ แบบเดียวกับที่สหภาพโซเวียตเคยทำกับประเทศเชโกสโลวาเกียในปี ค.ศ.1968 แทนที่จะต้องประจัญบานกับชาวยูเครนที่พร้อมทำมหาสงครามแห่งความรักชาติเพื่อรักษาเอกราชของตนไว้
เราไม่รู้ว่าข่าวกรองของรัสเซียทักท้วงปูตินบ้างไหมว่า ความจริงแล้วยูเครนมองรัสเซียเป็นมหันตภัยต่อการดำรงอยู่ของชาติมาตลอด 8 ปี นับตั้งแต่ถูกยึดครองไครเมีย (Crimea) และต้องรบกับร่างทรงของรัสเซียในดอนบาส (Donbas) ในปี ค.ศ.2014
หรือรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ต้องหยักหน้าหงึกๆ “ได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน”
รัสเซียบุกยูเครน ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของปีนี้ ตามสูตรเชโกสโลวาเกียเป๊ะๆ เปิดฉากด้วยการโปรยหน่วยพลร่ม VDV (Vozdushno-desantnye voyska Rossii) ซึ่งถือว่าเก่งและโหดที่สุดในกองทัพรัสเซียลงสนามบินติดเมืองหลวงก่อน ตามด้วยเครื่องบินขนส่งลงจอดเป็นระลอกเพื่อเสริมกำลัง จากนั้นใช้พลร่มร่วมกับรถถังเบาซิ่งเข้ายึดสถานที่สำคัญเพื่อปลิดหัวรัฐบาลฝ่ายตรงข้าม ส่วนกองทัพรถถังหนัก ทหารราบที่บุกตามเข้ามาจากหลายทิศทางก็มีหน้าที่ปิดจ๊อบ แค่คุมฝูงชนในเมืองยุทธศาสตร์และเก็บกวาดกองทหารยูเครนที่ยังไม่วางอาวุธตามรัฐบาลหุ่นเชิดใหม่ที่ตั้งขึ้นก็พอ4
แต่เพราะยูเครนไม่เหมือนเชโกสโลวาเกียที่ยอมวางอาวุธอย่างง่ายดาย แผนของรัสเซียเลยตกรางตั้งแต่วินาทีแรก เฮลิคอปเตอร์ที่ขน VDV มาหย่อนสนามบิน Hostomel ถูกยูเครนสอยร่วงหลายลำ หน่วยพลร่มที่ว่าเขี้ยวอันดับต้นๆ ของโลกถูกล้อมตีตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่แตะพื้นจนแทบละลายคาสนามบินโดยไม่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศ ถึงสนามบินจะถูกยึดได้ในวันที่สองแต่รัสเซียก็ไม่สามารถส่งเครื่องบินขนส่งลงจอดได้ตามแผนเพราะระบบต่อต้านอากาศยานในกรุงคีฟยังทำลายเครื่องบินรบและจรวดของรัสเซียอยู่ตลอด5 แสดงถึงความล้มเหลวของทัพอากาศรัสเซียเมื่อต้องปฏิบัติการในน่านฟ้าที่มี ปตอ. สมัยใหม่ ต่างจากกองกำลังกบฏในซีเรียและเชชเนีย ที่รัสเซียทิ้งระเบิดใส่ได้สบายๆ แบบไร้ผู้ต่อต้าน
ความผิดพลาดของรัสเซียในวันแรกกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ยูเครนยืนหยัดได้ถึงวันนี้ เพราะเมื่อชาวยูเครนเห็นว่าเมืองหลวงและเซเลนสกี้ปักหลักสู้ บวกกับการเล่าตำนานความกล้าหาญของ ‘ผีแห่งคีฟ’ ‘เรือรัสเซีย ไปเ-ดแม่มไป’ ของฝั่งยูเครนอย่างถูกจังหวะ คนทั้งชาติจึงมีกำลังใจที่จะต่อต้านรัสเซียอย่างสุดกำลัง
ในตอนใต้กองทัพรถถังรัสเซียถูกดักโจมตีต้องหยุดก่อนถึงโอเดซ่า (Odessa) ทางตะวันออกก็ไม่สามารถเจาะเข้าเมืองที่ก่อนสงครามถือว่า ‘โปรรัสเซีย’ อย่างคาร์คีฟ (Kharkiv) สำเร็จ กระทั่งในเขตดอนบาสที่ตอนนี้รัสเซียอ้างว่าเป็นเป้าหมายหลัก กองทัพก็ยังคืบไปข้างหน้าได้อย่างช้าๆ เพราะยูเครนใช้เวลา 8 ปีที่ผ่านมาแปลงพื้นที่เป็นแนวป้องกันแน่นหนา
การรวมใจกันของชาวยูเครน ไม่ว่าจะเป็นการจับอาวุธร่วมกับกองกำลังรักษาดินแดน หรือส่งน้ำ อาหาร ช่วยสร้างแนวป้องกันของพลเรือนอาสา ยิ่งทำให้แผนการของรัสเซียที่ผิดพลาดอยู่แล้วไถลไปเป็นหายนะ เพราะกองกำลังทหารที่รัสเซียจัดมาสำหรับการรุกราน มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบต่อจำนวนประชากรยูเครน
นักยุทธศาสตร์มีสูตรง่ายๆ ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองอยู่ นั่นคือการยึดครองประเทศให้สำเร็จต้องใช้ทหารอย่างน้อย 1 นาย ต่อประชากร 40 คนเป็นอย่างน้อย ถ้าต้องสู้กับประชาชนด้วยอัตราส่วนทหารก็ต้องสูงขึ้นอีก6
หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพสหรัฐใช้กำลังทหาร 400,000 นายเพื่อปกครองชาวเยอรมัน 16 ล้านคนในเขตสัมพันธมิตร คิดตามสูตรคือ 1:40
ในปฏิบัติการดานูบเพื่อปราบเชโกสโลวาเกียในปี ค.ศ.1968 โซเวียตและพันธมิตรใช้ทหาร 500,000 คนเพื่อคุมประชากรเชโกฯ 10 ล้านคน หรือ 1:20 ขนาดอัตราส่วนดีกว่าสูตร 2 เท่ายังถูกพลเรือนเชโกฯ ต่อต้านอย่างหนัก กองทัพแดงเล่นบทโหดยิงชาวบ้านตายไปเป็นร้อยคน
ในการบุกอิรักปี ค.ศ.2003 สหรัฐใช้อัตราส่วน 1:160 ถึงสหรัฐฯ มีเทคโนโลยีเป็นต่อทุกด้าน แต่ก็ยังปราบกลุ่มติดอาวุธไม่ลงสร้างความสงบในประเทศสำเร็จ ก่อให้เกิดปัญหา ISIS ในเวลาต่อมา
สำหรับการบุกยูเครน รัสเซียใช้กำลังทหารเพียง 200,000 นายต่อประชากร 44 ล้านคนหรือ 1:220 เท่านั้น! ทั้งที่กองทัพรัสเซียไม่ได้ไฮเทคใกล้สหรัฐฯ ชาวยูเครนพร้อมสู้ยิ่งกว่าชาวอิรัก และอาวุธที่ได้รับจากตะวันตกก็ทันสมัยกว่ายุทโธปกรณ์ยุคโซเวียตที่ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักสมัยนั้นมี
การใช้เลขอัตราส่วนทหารต่อประชากร 1:220 บุกยูเครนจึงไม่สมเหตุสมผลอะไรทั้งสิ้น
นอกเสียจากปูตินและเสนาธิการทหารที่วางแผนอวยกันเองครื้นเครงอยู่ในถ้วยวอดกาและเชื่อในสมมติฐานว่า
- ความเข้าใจทางการเมืองยูเครนว่า ‘ชาวยูเครนจะยอมรัสเซียทันทีที่เซเลนสกี้ถูกจัดการ’ และยุทธศาสตร์ ‘การปราบแคว้นนอกคอก’ ถูกต้องแล้ว
- คิดว่ากองทัพรัสเซียที่มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 รบเก่งกว่าสหรัฐฯ มากๆ เพราะรัสเซีย รบจอร์เจีย (ค.ศ.2008), บุกยูเครน (ค.ศ.2014), ช่วยอัซซาดถล่มกบฏในซีเรีส (ค.ศ.2015) ก็ชนะมาตลอด ส่วนอเมริกันต้องถอยออกจากอิรัก อพยพออกจากอัฟกานิสถาน รัสเซียเองมีความคิดว่าวัฒนธรรมตะวันตกเต็มไปด้วยความเสื่อมทราม อ่อนแอ มีการรับพวกรักร่วมเพศเข้าเป็นทหาร ขณะที่ความอนุรักษ์นิยมของรัสเซีย สามารถสร้างทหารที่เเข็งเเกร่ง เป็นชายแท้และโหดเหี้ยมได้
หลักฐานอีกชิ้นว่าปูตินชะล่าใจมาก คือการเห็นหน่วย Rosgvardia หรือกองกำลังพิทักษ์ชาติจากเมืองต่างๆ ของรัสเซียร่วมขบวนมะงุมมะงาหราเข้ามาในยูเครนในช่วงต้นสงคราม หน่วยนี้ดูเผินๆ จะดูคล้ายรบพิเศษ มีอาวุธครบมือ ใส่เกราะน่ากลัว แต่หน้าที่ปกติคือควบคุมผู้ประท้วง เมื่อเจอของแข็ง ต้องสู้กับทหารยูเครนที่มีปืนมีจรวดสวนกลับเลยถูกสังหารเละไม่เป็นท่า Rosgvardia ของบางเมืองถึงขั้นตายหมดทั้งชุดบัญชาการเลยก็มี7
เราอาจได้ยินกองเชียร์รัสเซียอ้างว่า การมุ่งไปคีฟเป็นเพียงแผนดึงดูดความสนใจ, 2-3 สัปดาห์แรกแค่การทดสอบขีดจำกัดของแสนยานุภาพรัสเซีย, ท่านปูตินจอมพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินวางแผนทุกอย่าง ฯลฯ แต่ความจริงก็คือไม่มีกุนซืออัจฉริยะคนไหนในประวัติศาสตร์ส่งทหารที่เก่ง ชื่อเสียงน่าเกรงขามที่สุดของตัวเองอย่างรบพิเศษ VDV, GRU Spetsnaz,นาวิกโยธิน ไปจนถึงกองทัพรถถังขึ้นชื่อจากสงครามโลก พร้อมรถถังรุ่น T-90A, T-80 ที่ทันสมัยที่สุดอย่าง 2nd Guards, 4th Guards ไปละลายเล่นในบ้านคนอื่นโดยไม่ได้ดินแดนเขามาสักตารางนิ้วแน่นอน
Potemkin Wunderwaffe
เมื่อวางแผนการรบมาผิดจนเจอตอเบอร์นี้แล้ว อาจมีคนสงสัยว่า ทำไมรัสเซียไม่งัดอาวุธไฮเทคที่เคยเอามาโชว์ในงานสวนสนาม อย่างรถถังไฮเทค เครื่องบินรบล่องหน จรวด Hypersonic หรือชุดเกราะทหารแบบ ironman ออกมาถล่มกองทัพยูเครนให้แหลกไปเลยล่ะ
..รัสเซียออมมือรึเปล่า? หรือเก็บของดีไว้ใช้กับ NATO?
เราต้อง fact check กันก่อนว่าประเทศที่มี GDP เกือบเท่าเกาหลีใต้แต่อันดับดัชนีภาพลักษณ์ความโปร่งใส (CPI – Corruption Perception Index) ที่ใช้ชี้วัดความรุนแรงของปัญหาคอร์รัปชั่นอยู่ที่ 136 ของโลก8 (เกาหลีใต้อยู่ที่ 32) และบริหารกองทัพโดย เซอร์ไก ชอยกู (Sergei Shoigu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่พัวพันข้อครหาเรื่องคอรัปชั่นมากสุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์รัสเซีย (นั่งเกาะเก้าอี้มาสิบปีจนมีบ้านราคา 600 ล้านบาทสร้างแบบวังมองโกเลีย ลูกสาวเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่น เคยโยนงาน 3,000 ล้านบาทให้คนรัก และแน่นอน ความร่ำรวยทั้งหมดสร้างขึ้นจากเงินเดือนข้าราชการประจำ)9
ประเทศซึ่งมีปัญหาเรื่องคอรัปชั่นแบบนี้ จะมีเงินที่ไหนไปเลี้ยงดูกองทัพบกที่ใหญ่กว่าเกาหลีใต้ถึง 2 เท่า คงกำลังรถถังที่มีมากกว่าเกาหลีใต้ 5 เท่า เครื่องบินรบมากกว่า 3 เท่า ขณะเดียวกันก็ยังมีงบเจียดไปวิจัยพัฒนาอาวุธทั้งทางบก ทางน้ำ และอากาศให้เหนือกว่ากองทัพสหรัฐฯ ไปพร้อมๆ กันได้?
คำตอบคือมันเป็นไปไม่ได้ ตัวเลขงบทางทหาร 6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (เกาหลีใต้ 4.6 หมื่นล้านสหรัฐฯ, สหรัฐฯ 7.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ) มันไม่เคยสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับสิ่งที่รัสเซียโม้ว่าทำได้อยู่แล้ว
สงครามบุกยูเครนยิ่งเปิดโปงให้เราเห็นความเน่าเฟะของระบบจัดหายุทโธปกรณ์ของรัสเซียอย่างชัดเจน
รถถังไฮเทคอย่าง T-14 Armata เปิดตัวปี ค.ศ.2015 ประกาศว่าจะส่งมอบได้ 2,300 คันภายในปี ค.ศ.2020 จนถึงวันนี้มีแค่ 20 คันแค่พอใช้สวนสนาม หรือ SU-57 สุดยอดเครื่องบินรบล่องหนทุกวันนี้ประจำการจริงได้แค่ 4 ลำ อาวุธทั้งสองอย่างนี้ไม่รู้รบจริงจะเจ๋งหรือเจ๊ง แต่รัสเซียก็เอาไปลงที่ซีเรียก่อนเพื่อเรียกเสียงฮือฮา แต่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือผลการปฏิบัติการเป็นรูปธรรมแทบจะไม่มีเลย
รัสเซียชอบเข็น ‘อาวุธวิเศษ’ ออกมาในลักษณะ tech demo ทั้งที่มีปัญหาแก้ไม่ตกอีกเยอะ ยังทำงานไม่ได้จริงตามราคาคุย ต้นทุนสูงเกินกว่าจะผลิตจำนวนมากได้ แต่เป้าหมายคือเชิญชวนกลุ่มประเทศที่เชื่อถือชื่อเสียงของยุทโธปกรณ์รัสเซียเป็นทุนเดิม หรือแฟนคลับซึ่งว้าวไปกับสรรพคุณต่างๆ ใน spec sheet ให้มาร่วมผลิตล็อตแรกด้วยกัน คล้ายๆ crowdfunding
ฉะนั้นเราแทบไม่มีโอกาสเห็นอาวุธพวกนี้ในสงครามยูเครนเลย เพราะนอกจากมันมีไม่พอมาใช้งานจริงแล้ว ถ้าเอาของโชว์มารบแล้วถูกยึดหรือโดนสอย รัสเซียก็จะยิ่งขายขี้หน้ากลายเป็นไม่มีคนร่วมลงขันเข้าไปอีก จะว่าไปหลังสงครามนี้ รัสเซียจะเหลือลูกค้าซื้ออาวุธกี่รายก็ไม่รู้
แล้วของที่ว่าเจ๋งๆ นั้น เอาที่จริงก็ไม่เด็ดสักเท่าไหร่ รถถัง T-14 เคยจอดตายกลางงานสวนสนาม อินเดียเคยร่วมโครงการพัฒนา SU-57 อยู่ 4 ปีก็ถอนตัวเพราะคุณสมบัติเครื่องบินไม่ได้อย่างที่คุยสุดท้ายต้องไปซื้อเครื่องบินขับไล่ฝรั่งเศส กระทั่งจรวด hypersonic คินซาล ที่สำนักข่าวทั้งหลายว้าวววู้ววววกัน ในความเป็นจริงมันคือการเอาจรวดนำวิถีพื้นสู่พื้นรุ่นอายุ 30 ปีมาโมติดเครื่องบินเท่านั้น ห่างไกลจากจรวด hypersonic ที่สหรัฐและจีนกำลังพัฒนาอยู่มาก10 11 12
แต่การโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้ก็เหมือน ‘ดาบสองคม’ เพราะนอกจากแฟนๆ จะอวยแล้ว ฝั่งกลาโหมรัสเซียเองก็เหมือนจะเชื่อน้ำลายตนเองจนละเลยพัฒนาขีดความสามารถที่จำเป็นในสงครามสมัยใหม่ เช่น การส่งกำลังบำรุง ระบบสื่อสารระหว่างเหล่าทัพ รวมถึงการสร้างอุตสาหกรรมไฮเทคในประเทศ
ปัญหาเล็กแต่ไม่เล็กอันนึงของรัสเซียคือผลิตชิพเองไม่ได้ ชิพค่ายจีนยังไม่ดีพอ การคว่ำบาตรของตะวันตกในปี ค.ศ.2014 ทำให้ไม่สามารถนำเข้าชิพตัวท็อปๆ ได้ แล้วอาวุธสมัยใหม่อย่าง ระบบเล็งเป้าในรถถัง จรวดนำวิถี โดรน เครื่องบินรบต่างต้องพึ่งระบบอิเล็กโทรนิคส์ซับซ้อนทั้งนั้น โดยเฉพาะตอนนี้ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้สงครามในยูเครน รัสเซียอาจไม่มีความสามารถผลิตอาวุธหลายชนิดมาทดแทนที่ถูกทำลายไปด้วยซ้ำ13
เราเลยแทบไม่เห็นทหารรัสเซียมีอุปกรณ์ทันสมัยอย่างแว่นมองกลางคืน, ศูนย์เล็งอิเล็กโทรนิคส์ติดปืน, วิทยุเข้ารหัสสักเท่าไหร่แม้ในหน่วยชั้นนำอย่าง VDV ก็ตาม การขาดแคลนระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ที่ปล่อยได้จากเพดานบินสูงๆ ทำให้รัสเซียต้องส่งเครื่องบิน SU-34 ราคาพันล้านบาท บินลงมาทิ้งระเบิดต่ำๆ แล้วถูกจรวดประทับบ่าของยูเครนสอยร่วง กระทั่งโดรนขนาดใหญ่ติดอาวุธที่สามารถทิ้งระเบิดหรือชี้เป้าปืนใหญ่ได้อย่าง Krondstadt Orion กองทัพรัสเซียยังจำนวนมีในประจำการน้อยกว่า Bayraktar tb2 รุ่นคล้ายคลึงกันที่ยูเครนซื้อจากตุรกี14 15
ในขณะเดียวกัน หน่วยรบพิเศษยูเครนมีแว่นมองกลางคืนรุ่นเดียวกับรบพิเศษสหรัฐฯ ราคาชุดละล้านกว่าบาท กองทหารรักษาดินแดนพรั่งพร้อมด้วยจรวดต่อต้านรถถังเช่น NLAW, Javelin รวมถึง Stugna-P ผลิตเองในยูเครนซึ่งถูกออกแบบมาปราบยานเกราะรัสเซียโดยเฉพาะ สายบังคับบัญชากองทัพยูเครนเริ่มเป็นไปตาม NATO จึงมีความยืดหยุ่นกว่า ทำให้ในหลายมิติยูเครนถึงเสียเปรียบด้านปริมาณ แต่ด้านคุณภาพและขวัญกำลังใจต่อทหารหนึ่งนายถือว่าได้เปรียบรัสเซีย
ความล้าหลังทางเทคโนโลยีของรัสเซีย ประกอบกับคอรัปชั่นในระบบ ทำให้กองทัพรัสเซียไม่ได้เป็นมีดผ่าตัดคมกริบอย่างโฆษณา แต่เป็นเหมือนค้อนปอนด์ที่อาศัยพลกำลังตะลุยไปข้างหน้าด้วยอาวุธค่อนข้างล้าสมัย มีความแม่นยำต่ำแต่มีจำนวนมหาศาล นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลเรือนต้องเสียชีวิตจำนวนมาก เพราะคิดด้วยเหตุผลยังไงอาวุธที่นำวิถีไม่ได้ ย่อมอันตรายต่อชาวบ้านชาวช่องมากกว่าอาวุธที่นำวิถีได้อยู่แล้ว
แต่ในความเป็นจริง ทหารรัสเซียที่อยู่เบื้องหลังอาวุธเหล่านั้นกลับเป็นอันตรายต่อชาวยูเครนยิ่งกว่าเสียอีก
Never send slaves to liberate free people
ในทุกสมรภูมิย่อมมีอาชญากรรมสงคราม แต่ก็ไม่มีกองทัพไหนในประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกที่ก่ออาชญากรรมสงครามอย่างเป็นระบบเท่ากองทัพรัสเซียเหมือนกัน เพราะระบบถูกออกแบบมาให้ผลิตทหารที่มีความโหดร้าย ไร้ระเบียบวินัย และปราศจากความเป็นมืออาชีพ
กองทัพรัสเซียประกอบด้วยทหารเกณฑ์จากครอบครัวยากจนกับทหารอาสาสมัครเซ็นสัญญา แต่เงินเดือนทหารรัสเซียไม่สูง คนชั้นกลางส่วนใหญ่หาทางเลี่ยงเกณฑ์ได้ตลอดด้วยเงินและเส้นสาย สุดท้ายคนเข้าสู่ระบบจึงมาจากพื้นฐานยากจน ถ้าใครเคยไปที่กรุงมอสโกหรือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอาจจะรู้สึกว่ารัสเซียก็คงรวยไม่แพ้ยุโรปตะวันตกบางประเทศ แต่ในความเป็นจริงรัสเซียมีความเหลื่อมล้ำสูงมาก รายได้ขั้นต่ำรัสเซียอยู่ที่ $190/เดือน ส่วนยูเครนอยู่ที่ $245/เดือน คนรัสเซีย 23% ไม่มีน้ำประปาใช้ คนชนบท 66.5% ยังไม่มีส้วมในบ้าน ยกตัวอย่างหน่วยทหาร 36th Combined Arms Army ที่ต้องสงสัยว่าสังหารหมู่ในเมืองบูชา มาจากเขตปกครองตนเองบูเรียเทีย (Buryatia) ที่ประชากรชายอายุเฉลี่ยแค่ 65 ไม่ต่างจากประเทศในแอฟริกาเลย16 17
การฝึกทหารของรัสเซียก็โหดร้าย ใช้ระบบรับน้องที่ดัดแปลงมาจากนักโทษในคุก การตบเงินเดือนผู้น้อย ซ้อมทำร้ายร่างกาย ลวนลามทางเพศ ถึงขั้นเอาทหารเกณฑ์ไปขายเป็นโสเภณีชาย เป็นเรื่องปกติและเป็นปัญหาที่รัสเซียไม่เคยแก้ได้เพราะคอรัปชั่นผสมกับวัฒนธรรมองค์กรที่ใช้ความรุนแรงเป็นหลักเพื่อให้ผู้น้อยเชื่อฟังผู้ใหญ่ ยิ่งฝึกโหดยิ่งได้ทหารที่แมน18
แน่นอน เมื่อผู้รับเคราะห์จากระบบเหล่านี้เป็นคนจน สังคมจึงไม่ใส่ใจกับการแก้ปัญหา เมื่อคนด้อยโอกาสที่ถูกทั้งมือทั้งเท้าหล่อหลอมในระบบอำมหิตออกสู่สนามรบ นอกจากกำลังใจในการรบจะต่ำแล้ว โอกาสทำร้ายประชาชนในพื้นที่ปฎิบัติการก็ยิ่งสูงตาม เพราะขาดความเป็นมืออาชีพของทหาร ว่าตนกำลังสุ้เพื่ออะไร หรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
ทหารรัสเซียมีชื่อเสียมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกจนชาวยุโรปตะวันออกและบัลติกมักขนานนามทหารรัสเซียว่า ‘Orc’ (ออร์กใน Lord of the Rings นี่แหละ) ด้วยความเกลียดและกลัว
ในเชชเนีย ทหารรัสเซียขึ้นชื่อเรื่องขโมยของกองทัพตัวเองไปขายให้พวกบฎเอากลับมาใช้กับตัวเอง ในยูเครนก่อนการบุก มีรายงานว่าทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ในเบลารุสขโมยน้ำมันรถบรรทุกตัวเองออกมาขาย19
ในเบอร์ลิน ทหารรัสเซียฉลองชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สองด้วยการข่มขืนเด็กและผู้หญิงกว่า 2 ล้านคน บางคนถูกข่มขืนซ้ำ 60-70 ครั้ง ในยูเครนก็มี VDO หลุดทหารรัสเซียข้มขืนกระทั่งทารก20
ทหารรัสเซียตั้งแต่พลทหารถึงนายพลปล้นชิงทรัพย์แล้วส่งเป็นพัสดุกลับบ้าน นายพลเกออร์กี้ ชูคอฟ (Georgy Zhukov) วีรบุรุษสงครามโลก ขโมยข้าวของจากยุโรปกลับบ้านกว่า 7 คันรถไฟ ในยูเครนสำนักข่าวอิสระ Meduza ตามสืบได้ว่าทหารรัสเซียปล้นทุกอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วส่งกลับบ้านตัวเองผ่านไปรษณีย์ในเบลารุสเป็นร้อยๆ กิโล บางส่วนก็แยกมาขาย21
บางคนอาจบอกว่า ทหารชาติอื่นอย่างสหรัฐฯ หรือฝั่งยูเครนเองก็มีการก่ออาชญากรรมสงคราม แต่ในกรณีทหารอเมริกันที่มักมีฐานะดีกว่าชาวบ้านของประเทศที่ตัวเองบุกนั้น เหตุการณ์แย่งอาหารพลเรือนเรียกว่าแทบเหลือศูนย์ การขโมยทีวี เครื่องซักผ้า มือถือ หูฟัง Macbook แบบรัสเซียก็ไม่รู้จะทำไปทำไม เมื่ออาชญากรรมขนาดเล็กไม่เกิด วงจรอบุาทว์ที่นำไปสู่อาชญากรรมสงครามเต็มขั้นและต่อเนื่องเหมือนทหารรัสเซียจึงเกิดยากกว่า22
เมื่อมีการปล้นชิงก็นำไปสู่การฆ่าเจ้าทรัพย์ เมื่อข่มขืนก็ตามด้วยการฆ่าพยาน เมื่อการฆ่าทำได้อย่างไร้บทลงโทษโดยมีบังคับบัญชาเพิกเฉยหรือมีส่วนร่วมด้วย ปัญหาจึงยิ่งลุกลามใหญ่โต การได้เห็นศพชาวบ้านในเมืองบูชาถูกปล่อยไว้บนถนนโดยทหารรัสเซียไม่ทำการฝัง ทั้งๆที่ครองเมืองอยู่หลายสัปดาห์ ในจุดยุทธศาสตร์ซึ่งต้องมีทหารระดับบังคับบัญชาลงพื้นที่แน่นอน ก็เป็นการสะท้อนแล้วว่าความป่าเถื่อนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ระดับพลทหารเท่านั้น แต่เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามอัฟกานิสถานและเชชเนีย23
เราอาจยังฟันธงไม่ได้ว่าการสังหารหมู่ชาวบ้านของทหารรัสเซียถือเป็นตั้งใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รึเปล่า แต่การก่ออาชญากรรมอย่างไร้ความควบคุมในวงกว้างโดยมีผู้บังคับบัญชารู้เห็นเป็นใจ โดยมีสื่อรัฐเชียร์ให้ท้าย ก็มีสิทธิ์ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสูงมาก อย่างที่สหรัฐคาดการณ์ไว้ก่อนสงครามว่าอาจสูงถึง 50,000 ราย
ยิ่งความโหดร้ายของทหารรัสเซียทวีขึ้นมากเท่าไหร่ชาวยูเครนก็ยิ่งฮึดสู้เท่านั้น โอกาสจะชนะด้วยอัตราส่วนทหารต่อประชาชนเพียง 1:220 จะยิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆ ช่องว่างให้เซเลนสกี้หรือฝ่ายรัสเซียเองสามารถหาทางออกจากสงครามที่โต๊ะเจรจาได้ก็ริบหรี่ลง เพราะฝั่งยูเครนเองคงไม่ยอมสงบศึกจนกว่าทหารที่ก่ออาชญากรรมสงครามจะต้องมารับโทษ ซึ่งในประวัติศาสตร์รัสเซียแทบไม่เคยยอมรับ หรือขอโทษใดๆ กับอาชญากรรมสงครามที่เคยก่อนเลย
What is Putin’s victory
รัสเซียตั้งเป้าหมายสงครามไว้สูงล้นจากความเข้าใจการเมืองที่ผิดพลาด แล้วก้าวเข้าสู่การศึกอย่างชะล่าใจด้วยอาวุธ ยุทธวิธีล้าสมัย การทหารที่เน่าเฟะ จนต้องเสียกำลังพลระดับหัวกะทิไปเป็นจำนวนมาก ชื่อเสียงของยุทโธปกรณ์ที่สร้างมาหลายสิบปีก็พังทลายไปกับตา ซ้ำด้วยความโหดร้ายทารุณของกองทัพรัสเซียสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวโลก
ปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นในโลกจึงให้ผลตรงข้ามกับที่ ‘เทพพยากรณ์’ ปูตินวางแผนไว้ทุกอย่าง สหรัฐฯ และยุโรปกลับมาเป็นปึกแผ่น ชายแดน NATO ที่ติดกับรัสเซียกำลังจะขยายเพิ่มอีกกว่า 1,340 กิโลเมตร ถ้าฟินแลนด์กับสวีเดนเข้าร่วม และรัสเซียก็ได้ชาวยูเครนเป็นศัตรูผูกใจเจ็บไปอีกร้อยปีมาที่เป็นเพื่อนบ้านทางใต้ ทุกอย่างที่รัสเซียทำจึงกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน สร้างศัตรูรายล้อมมากกว่าครั้งไหนๆ ในประวัติศาสตร์24
แต่ปูตินก็ยังมีโอกาสชนะในบางมิติอยู่ เพราะแม้อาวุธไฮเทครัสเซียจะเป็นภาพลวงตา ก็ไม่ได้หมายความว่ากองทัพรัสเซียจะกระจอกงอกง่อย รัสเซียยังเหลืออาวุธหนักผลิตตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียตเช่นรถถัง ปืนใหญ่จรวด ในจำนวนและคุณภาพที่มากกว่ายูเครนอยู่หลายขุม การย่อพื้นที่ปฏิบัติการลงเหลือเพียงแค่ดอนบาสน่าจะทำให้การส่งกำลังบำรุงทำได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ทุ่มจำนวนทหารและอาวุธในพื้นที่ปฎิบัติการได้สูสีหรือมากกว่าของยูเครน
การแต่งตั้ง อเล็กซานเดอร์ ดวอร์นิคอฟ (Alexander Dvornikov) มาเป็นผู้บัญชาการทหารจัดการสงครามยูเครนโดยเฉพาะ บวกกับการเร่งเป้าหมายเวลาว่าวันที่ 9 พฤษภาคม (Victory Day ของรัสเซีย เพราะเป็นวันที่สงครามโลกครั้งที่สองยุติลง) ต้องได้ชัยชนะอะไรบางอย่าง ก็อาจทำให้รัสเซียใช้ข้อได้เปรียบอย่างปืนใหญ่ รถถัง และกำลังทางอากาศอย่างเต็มที่ มีโอกาสทำลายกองกำลังทหารของยูเครนที่อยู่ในดอนบาสได้สำเร็จเหมือนกัน ช่วงเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนี้จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของสงคราม
คำถามคือชัยชนะนั้นเพียงพอหรือไม่นั้น เป็นคำถามที่แม้แต่ปูตินก็ยังตอบไม่ได้
กองทัพรัสเซียต่อให้ได้รับชัยชนะในดอนบาสก็น่าจะบอบช้ำเกินกว่าจะยึดเมืองอื่นๆ ของยูเครนไหว (ซุนวู บอกว่าการรบเพื่อยึดเมืองควรเป็นทางเลือกสุดท้าย คู่มือทหารอังกฤษสมัยใหม่บอกว่าต้องใช้อัตราส่วนทหาร 5:1 ถ้าต้องรบในเมือง) ขนาดมาริยูโปล ประชากร 500,000 คน รัสเซียยังหืดขึ้นคอกว่าจะใกล้ยึดได้ ยูเครนยังมีเมืองประชากรหลักล้านขวางไม่ให้รัสเซียแบ่งประเทศเป็นสองส่วนอยู่อีก 3 เมืองคือคาร์คีฟ ดนิโปร (Dnipro) และซาปอริสเซีย (Zaporizhzhia) ที่มีเวลาเป็นเดือนเพื่อเตรียมรับมือรัสเซีย25
ถ้าปูตินประกาศระดมพลทั่วไป (general mobilization) เพื่อเพิ่มกำลังทหารอีก 300,000 นายให้อัตราส่วน 1:220 กลายเป็น 1:80 ก็เท่ากับว่าต้องละทิ้งคำโกหกว่านี่คือ ‘ปฎิบัติการพิเศษ’ และเปลี่ยนเป็น ‘การประกาศสงคราม’ แทน
ดูเหมือนทำง่าย แต่การระดมพลทั่วไปจะต้องแลกมากับการยอมรับว่าสงครามครั้งนี้รัสเซียสูญเสียทหารไปเป็นหลักหมื่น ในขณะที่สื่อรัสเซียทุกวันนี้ยังให้ตัวเลขทหารเสียชีวิตแค่พันกว่านายอยู่เลย และการเกณฑ์ทหารจะยิ่งสร้างความตึงเครียดให้สังคมที่ลำบากจากการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว ทางเลือก general mobilization เสี่ยงเพิ่มความไม่สงบในสังคมและอาจทวีปัญหาสมองไหลจากประเทศของคนหนุ่มสาวให้รุนแรงขึ้นเพราะถึงทุกคนชอบเชียร์ทหารในทีวี แต่คงไม่มีใครถูกบังคับต้องจับปืนไปรบไกลบ้าน26
ถ้าปูตินพอใจกับชัยชนะเหนือดอนบาสและสร้างทางเชื่อมถึงแหลมไครเมียได้หลังจากยึดมาริยูโปลสำเร็จล่ะ? มันจะพอที่จะขายชาวรัสเซียไหม เมื่อเทียบราคาที่ต้องจ่ายกับเป้าหมายที่สูงลิ่วว่าจะ “ปลดอาวุธยูเครน” “กวาดล้างรัฐบาลนาซี” “ลบความเป็นยูเครนออกจากแผนที่”?
ถ้าต้องการแค่ดอนบาส ทำไมถึงส่งลูกหลานชาวรัสเซียไปตายเป็นหมื่นคนแทนที่จะเน้นบุกทางตะวันออกเเต่แรก? ต้องอย่าลืมว่าทุกตารางนิ้วที่รัสเซียยึดได้ จะถูกก่อกวนด้วยอารยขัดขืนในเมืองและหน่วยจารชนในเส้นทางคมนาคมต่างๆ ที่คอยระเบิดขบวนรถทหาร ลอบสังหารผู้ให้ความร่วมมือกับรัสเซียอยู่ตลอดเลา ปูตินอาจทุ่มกำลังทหารปราบปรามกบฏแต่มันก็จะกลายเป็นอัฟกานิสถานหรืออิรักภาคสองที่ดูดชีวิต และทรัพยากรอย่างไม่สิ้นสุด ในขณะที่ยูเครนสามารถสนับสนุนนักรบในพื้นที่ด้วยอาวุธจากตะวันตกตลอดเวลา
นักวิเคราะห์การเมืองโลกผ่านข้อมูลประชากร อย่างปีเตอร์ ไซฮัน (Peter Zeihan) เชื่อว่านี่อาจเป็นสมรภูมิสุดท้ายของหมีกระดาษตัวนี้แล้ว เพราะรัสเซียมีปัญหาประชากรอย่างหนัก คนอายุรุ่นมีลูกวัย 20-24 ปีมีเพียง 6.6 ล้านคนจากทั้งหมด 144 ล้านคน หรือประมาณ 4.5% เท่านั้น ขณะที่ประเทศกำลังชราอย่างไทยยังอยู่ที่ 6% ในอีกไม่กี่ปีประชากรรัสเซียจะลดลงอีกฮวบฮาบจากคุณภาพชีวิตต่ำทำให้อายุสั้น ปัญหาสมองไหล และคนเกิดน้อย27
กองทัพรัสเซียที่เคยมีกำลังพลไม่จำกัดซึ่งสามารถไหลมากวาดนาซีเยอรมันราวกับคลื่นสีแดงกำลังจะกลายเป็นอดีต ปูตินเองยังเคยสารภาพว่าสิ่งที่ทำให้เขานอนไม่หลับ คือประชากรรัสเซียที่หดลงอย่างน่าตกใจ จนมีบางคนตั้งข้อสงสัยว่าที่บุกกวาดล้างความเป็นยูเครน เป็นเพราะอยากแปลงคนที่รอดจากสงครามให้เป็น ‘ชาวรัสเซีย’ เพื่อแก้ปัญหาประชากรด้วยหรือเปล่า?
และในแง่หนึ่ง รัสเซียได้สูญเสียกองทัพที่มีความสำคัญยิ่งกว่าทหารในสนามรบไปแล้วด้วย เพราะหนุ่มสาวที่มีกำลังทรัพย์และการศึกษาต่างเลือกจะหนีออกจากประเทศไปกว่า 200,000 คนตั้งแต่เริ่มมีการบุกยูเครนและรัสเซียถูกคว่ำบาตร คนกลุ่มนี้มีการศึกษาดีที่สุด เป็นความหวังสุดท้ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไฮเทคให้รัสเซียก้าวพ้นจากการเป็นประเทศที่ถูกสาปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นถุงเงินของปูตินและพรรคพวกไป28
พวกเขาหลายคนคงตั้งรกรากประสบความสำเร็จในต่างประเทศ เหมือนผู้ก่อตั้ง Google, Telegram ที่ไม่คิดจะย้ายกลับมาตุภูมิ ปูตินซึ่งบัดนี้อายุ 70 ปีแล้วยังไม่มีผู้สานต่อที่ชัดเจน ในระบอบเผด็จการที่ไม่เอื้อต่อการมีผู้สืบทอด และกำลังพาประเทศเข้าสู่สงครามและวิกฤติที่ไม่มีทางออก
ถ้าเรามองย้อนไปในประวัติศาสตร์รัสเซีย จะเห็นว่าเกิดความโกลาหลวุ่นวายถึงขั้นประเทศแตกเป็นเสี่ยงๆ ทุกครั้งที่ผู้นำรบแพ้ หรือรบแล้วสูญเสียอย่างหนักกับชาติที่รัสเซียมองว่าอ่อนแอกว่าไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นในต้นศตวรรษที่ 20, อัฟกานิสถานตอนจบสงครามเย็น แต่ทุกวันนี้รัสเซียที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ในโลกไร้พรมแดนล่ะ หากแตกขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น
บางทีเหตุการณ์ที่เป็นตัวกำหนดประวัติศาสตร์ศตวรรษที่ 21 อาจไม่ใช่การที่จีนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลก ไม่ใช่การถดถอยของอเมริกา แต่เป็นสิ่งที่เกิดกับรัสเซียในอีกสิบปีข้างหน้าก็เป็นได้
Content by Don Plooksawasdi
Proofread by Pongpiphat Banchanont
อ้างอิงข้อมูล
(1) Putin’s speech : https://www.nytimes.com/2022/02/24/world/europe/putin-ukraine-speech.html
(2) tank stats : https://www.oryxspioenkop.com/2022/02/attack-on-europe-documenting-equipment.html?m=1
(3) Russia’s victory : https://web.archive.org/web/20220226051154/https://ria.ru/20220226/rossiya-1775162336.html
(4) Operation Danube : https://www.helion.co.uk/military-history-books/operation-danube-soviet-and-warsaw-pact-intervention-in-czechoslovakia-1968.php
(5) Melted VDV : https://www.dailymail.co.uk/news/article-10606279/Russian-paratroopers-doomed-raid-airport-Video-shows-elite-troops-Hostomel.html
(6) Troop ratio : https://www.washingtonpost.com/archive/opinions/2004/05/09/a-proven-formula-for-how-many-troops-we-need/5c6dbfc9-33f8-4648-bd07-40d244a1daa4/
(7) Dead rosgard : https://twitter.com/TheDeadDistrict/status/1497598094107545601
(8) Corruption : https://www.transparency.org/en/cpi/2021
(9) Shoigu : https://www.rferl.org/a/russian-dm-shoigu-accused-owning-mansion/27330203.html
(10) Armata : http://www.newsweek.com/russias-hot-new-tank-breaks-down-during-victory-day-rehearsals-329540
(11) SU-57 : https://www.thedrive.com/the-war-zone/20347/its-no-surprise-india-finally-ditched-its-stealth-fighter-program-with-russia
(12) Kinzhal : https://www.thedrive.com/the-war-zone/18943/putins-air-launched-hypersonic-weapon-appears-to-be-a-modified-iskander-ballistic-missile
(13) Chip : https://www.reuters.com/technology/chip-challenge-keeping-western-semiconductors-out-russian-weapons-2022-04-01/
(14) SU : https://theaviationgeekclub.com/against-ukraine-russia-is-deploying-its-sukhoi-su-34-attack-aircraft-armed-with-dumb-bombs-because-it-lacks-pgms-and-poland-wont-donate-its-mig-29s-to-kyiv/
(15) Optics : https://euromaidanpress.com/2022/04/09/how-western-sanctions-cripple-the-russian-war-machine/
(16) Russia poor : https://visasam.ru/emigration/vybor/srednyaya-zarplata-v-rossii-i-ukraine.html
(17) no toilet : https://novayagazeta.ru/news/2019/04/02/150519-rosstat-okolo-22-6-naseleniya-rossii-zhivet-bez-dostupa-k-kanalizatsii
(18) Dedovshchina: https://www.hrw.org/reports/2004/russia1004/5.htm
(19) theft : https://www.rferl.org/a/russian-troops-belarus-exercises-ukraine/31711282.html
(20) rape baby : https://www.thesun.co.uk/news/18222506/russian-soldier-rapes-baby-ukraine-war-arrested/
(21) steal : https://meduza.io/en/feature/2022/04/06/new-footage-shows-russian-troops-sending-stolen-ukrainian-items-home-through-belarus
(22) iphone : https://www.forbes.com/sites/zakdoffman/2022/04/09/warning-for-russian-soldiers-with-stolen-ukrainian-iphones-you-are-being-tracked/
(23) orcs : https://www.youtube.com/watch?v=50sQd5duZ48
(24) soumi nato : https://edition.cnn.com/2022/04/08/politics/finland-sweden-nato-membership/index.html
(25) urban ops : https://www.army.mod.uk/umbraco/Surface/Download/Get/11771
(26) what’s next : https://warontherocks.com/category/podcasts/horns-of-a-dilemma/
(27) demo boom : https://www.speakers.ca/2022/03/heres-how-geopolitical-strategist-predicted-todays-russia-ukraine-conflict-in-2014/
(28) leave russia : https://time.com/6158946/russian-actors-tv-film-ukraine-invasion/