โลกเรากำลังเผชิญปัญหามากมาย จึงไม่แปลกที่บนเวทีระดับโลกนี้จะมีการพูดคุย แลกเปลี่ยน และระดมสมองช่วยแก้ปัญหา จนถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่นั่งฟังการประชุม (ออนไลน์) ครั้งนี้ หรือเข้าไปในเว็บไซต์ของ WEF ในหัวของคุณจะเต็มไปด้วยประเด็น ปัญหา และแนวทางการหาทางออกจนรู้สึกท่วมท้นไปหมด
นี่คือ 10 ประเด็นและทางออกที่เป็นรูปธรรม ที่ทางภาค WEF ได้ร่วมกัน ‘ลงมือทำ’ พร้อมเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดีกว่าที่เป็นอยู่ได้
- COVID Action Platform : แน่นอนว่าปัญหาที่ทุกประเทศเจอเหมือนกันทั่วโลกคือการแพร่ระบาดของ COVID-19 WEF จึงสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาให้แต่ละภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน มาแชร์ข้อมูลความรู้ เครื่องมือ และตัวอย่างการลงมือทำ รวมถึงหาพาร์ตเนอร์ที่จะทำร่วมกัน เพื่อที่จะได้ช่วยเร่งความเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพของการแก้ปัญหาโรคระบาดนี้ ซึ่งปีที่ผ่านมา ก็ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว 40 โปรเจ็กต์ (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Racial Justice in Business Practice : ในงาน Davos ครั้งนี้ 55 บริษัทยักษ์ใหญ่จาก 13 อุตสาหกรรม ที่มีพนักงานกว่า 6.5 ล้านคนทั่วโลก ได้จับมือและออกแถลงการณ์ร่วมกันในการออกนโยบายและแนวปฏิบัติสำหรับองค์กร เพื่อสร้างมาตรฐานระดับสากลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเชื้อชาติและชาติพันธุ์ในที่ทำงาน ซึ่งเป็นแนวทางให้กับภาคีหรือองค์กรที่สนใจ สามารถนำไปปรับใช้ต่อในองค์กรตนเองได้ (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Carbon Tracing Platform : ตัวแทนจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเชื้อเพลิง-เหมืองแร่ ซึ่งรวมตัวกันในนามกลุ่ม Mining and Metals Blockchain Initiative (MMBI) ได้เผยผลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (Proof Of Concept) ในการใช้ Blockchain สำหรับติดตามเส้นทางและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ของแต่ละธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและเร่งความเร็วในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ โดยหวังว่าจะนำไปสู่การใช้จริงต่อไปได้ในเร็ววัน (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Growing with Age Platform : โลกกำลังเข้าสู่โครงสร้างประชากรแบบใหม่ ที่ผู้คนมีชีวิตอยู่ยาวนานขึ้น แข็งแรงมากขึ้น และทำงานได้นานขึ้น แต่องค์กรจะทำอย่างไรให้มีนโยบายสำหรับการทำงานกับคนหลายเจเนอเรชั่น (Multi-generational Workforce) ทั้งในการอยู่ร่วมกันและดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมา 50 องค์กรระดับนานาชาติที่มีพนักงานกว่า 2 ล้านคน จึงร่วมมือกันศึกษาวิจัยและทดลอง แล้วนำเอาข้อมูล สถิติ องค์ความรู้ งานวิจัย และกรณีศึกษา จึงได้ถูกนำมารวมกันที่แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า ‘Growing with Age’ นี้ เพื่อให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกนำไปปรับใช้ได้ต่อไป (ดูเพิ่มที่ aarpinternational.org)
- Healthy City Knowledge : ภาคี Healthy Cities and Communities ได้รวมตัวกันตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2019 เพื่อคิดหาวิธีพัฒนาสุขภาพร่างกายและจิตใจของประชากรโลกที่อาศัยอยู่ในเมือง ปีนี้ภาคีได้นำโมเดลตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ อย่าง AeroFarm การปลูกผักแนวตั้งในตัวอาคาร Health Bus หน่วยดูแลสุขภาพเคลื่อนที่ และ SkillsBuild แพลตฟอร์มพัฒนาทักษะและหางานให้กับคนในท้องที่ พร้อมผลลัพธ์จากการนำไปใช้ในเมืองต่างๆ ซึ่งองค์ความรู้และนวัตกรรมเหล่านี้ เปิดกว้างให้เมืองอื่นๆ สามารถขอลองเอามาปรับใช้ในเมืองของตัวเองได้ (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Waste Picker Case Study : ในเวทีปีนี้ WEF ได้ยกกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับความพยายามในการลดปัญหามลภาวะเป็นพิษจากขยะพลาสติกที่ทำร่วมกับ SAP ในประเทศกานา ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้าไปในกระบวนการทำงานของกลุ่มแรงงานเก็บขยะ แล้วเก็บข้อมูลปริมาณและประเภทของขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมถึงเส้นทางการรีไซเคิล จากนั้นก็นำไปวิเคราะห์เพื่อประเมินทั้งในด้านมูลค่าในห่วงโซ่คุณค่า ความรับผิดชอบของผู้ผลิต ความเป็นธรรมของค่าแรงที่กลุ่มแรงงานเก็บขยะได้รับ รวมไปถึงนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานในการกำจัดขยะและรีไซเคิลของประเทศ ซึ่งองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมานี้ สามารถนำไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์กับ Social Enterprise หรือองค์กรภาครัฐที่ทำงานเกี่ยวกับขยะในแต่ละประเทศต่อได้ (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Cybercrime 2025 Program : ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ เข้ามาในชีวิตเราทุกคนในวันเดียวกันกับที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และจะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต WEF จึงระดมผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 ชีวิตจากทั่วโลก ทั้งในมุมองค์กร สถาบันวิจัย ผู้บังคับใช้กฎหมายและนโยบาย มาทำงานร่วมกับ University of Oxford – Oxford Martin School เพื่อค้นหาภัยคุกคามและวิธีการรับมือ ซึ่งแน่นอนว่าจะเข้ามามีส่วนกับสิทธิและวิถีชีวิตของเราในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Net Zero Carbon City Framework : 70 องค์กรจาก 9 เมืองในหลายประเทศ ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาชน ได้ใช้เวลาหลายปีร่วมมือกันค้นคว้าและทดลองหาวิธีการเปลี่ยนเมืองให้เป็นเมืองที่ใช้พลังงานสะอาด-หมุนเวียน รวมถึงประชากรทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้แม้ว่าทุกอย่างจะกลายเป็น ‘สมาร์ท’ หมดแล้ว ในงานนี้ พวกเขาก็ได้สรุปสิ่งที่พวกเขาทดลองและเรียนรู้ออกมาเป็น Framework ที่เมืองอื่นๆ สามารถนำไปเริ่มต้นลองปรับใช้ได้ (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- Valuable 500 : กว่า 400 องค์กรได้ทำงานร่วมกันกับ WEF ในประเด็นของการสร้างความหลากหลายและความเท่าเทียมของกลุ่มผู้พิการในสถานที่ทำงาน โดยช่วยเหลือองค์กรที่ต้องการสนับสนุนประเด็นนี้ ด้วยเครื่องมือและวิธีการปฏิบัติต่างๆ รวมถึงมีการจัดทำรายงาน Global Disability Trend Reports ขึ้นมาเป็นเล่มแรกของโลก เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการทำความเข้าใจและพัฒนาให้ประเด็นนี้ก้าวหน้าต่อไปในระดับโลก (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
- EDISON Alliance : ในขณะที่เรากำลังเดินหน้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล ยังมีประชากรอีกราว 3.6 พันล้านคนบนโลกที่เข้าไม่ถึงโลกออนไลน์ ในงานปีนี้ WEF จึงจัดตั้ง ‘EDISON Alliance’ ขึ้น เพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ดำเนินการสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยประชากรทั่วโลกต้องสามารถเข้าถึงการศึกษา ระบบสุขภาพ และระบบการเงินได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในวันที่โลกกำลังจะก้าวไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัล (ดูเพิ่มที่ weforum.org)
อย่างน้อย จาก 10 ข้อที่ยกมานี้ เราน่าจะเห็นแล้วว่าเรื่องอะไรบ้างที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ และอาจนำมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในมุมขององค์กรหรือประเทศของเรา อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องจับตาดูความคืบหน้าต่อไป ว่าความร่วมมือระดับโลกนี้จะพาเราไปสู่โลกอนาคตในแบบไหนกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก