เขาดินอยู่กับเรามา 80 ปี สิ้นเดือนสิงหานี้เขาดินที่เรารู้จักกำลังจะเปิดบริการเป็นวันสุดท้ายแล้ว
สวนสัตว์ดุสิตเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำ เรายังคงจำความรู้สึกที่จูงมือพ่อแม่ไปดูฮิปโป—แม่มะลิที่คนไทยรัก—จนหลายสิบปีผ่านไป ได้มีโอกาสจูงลูกไปยืนดูฮิปโปตัวเดิมอีกครั้ง
คงด้วยสวนสัตว์เป็นพื้นที่ของเด็กๆ ของครอบครัว เราจึงมักมีความทรงจำที่สวยงาม มีภาพตัวเราเองกับครอบครัว กับเพื่อนฝูง ในขณะเดียวกันเขาดินก็ถือเป็นดินแดนแรกๆ ที่เด็กตัวน้อยได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นๆ เขาดินจึงเป็นพื้นที่ที่ให้แรงบันดาลใจ เป็นพื้นที่ที่ทำให้เด็กๆ หลงใหลและกลายเป็นคนที่สนอกสนใจความน่าตื่นเต้นของธรรมชาติและโลกใบนี้
ด้วยอายุที่ยาวนานถึง 80 ปี และเขาดินเองก็เป็นสวนสัตว์สำคัญประจำชาติที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เขาดินจึงเป็นพื้นที่แสนพิเศษ ในฐานะพื้นที่สำคัญที่ครอบครัวจะเลือกไปใช้เวลาว่าง เป็นที่ที่โรงเรียนจะพาเด็กๆ ไปเรียนรู้ธรรมชาติ บางคนก็ใช้เขาดินเพื่อไปเดท ไปขี่จักรยาน ถีบเรือปั่น ใช้เป็นที่หลบฉากออกจากเมืองอันแสนวุ่นวาย
เด็กๆ กับสวนสัตว์
หลังจากมีข่าวว่าเขาดินจะปิดตัว ผู้คนก็พากันหอบลูกจูงหลานกลับไปเที่ยวเขาดินกันอย่างคึกคักอีกครั้ง คุณปู่คุณย่าจูงหลานตัวเล็กๆ มาบอกและคุยกับเราว่า “เมื่อก่อนก็พาลูกมา นี่รุ่นหลานแล้ว พอรู้ว่าจะปิดก็รีบมา ที่นี่มาสะดวก ไม่มีรถก็มารถเมล์ได้”
สวนสัตว์เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวลำดับต้นๆ ที่เราจะพาเด็กๆ มา อย่างน้อยเด็กๆ ก็ได้มาเห็น มาเรียนรู้เข้าใจสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ถือกันว่าการมาสวนสัตว์เป็นการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นในสวนสัตว์จึงเต็มไปด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ประเภทต่างๆ มีการจำลองพื้นที่ทางธรรมชาติเอาไว้ในขนาดกะทัดรัดพอให้เด็กๆ ได้เห็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่ต่างกับพื้นที่เมืองที่ใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ
ดังนั้นพลังสำคัญของสวนสัตว์คือการที่เด็กๆ ได้เห็นสัตว์ตัวเป็นๆ จากที่เคยเห็นแค่จากสิ่งจำลอง จากของเล่นจิ๋วๆ หรือจากการ์ตูนในจอโทรทัศน์ เราได้เห็นกวางตัวจริงว่าต่างจากแบมบี้ขนาดไหน เจ้าดัมโบ้ของจริงเป็นอย่างไร ได้เห็นเลียงผา แพะภูเขาที่ยืนเคี้ยวหญ้าอยู่ที่หน้าผาจำลอง ประสบการณ์ที่ว่าสำหรับเด็กห้าขวบเป็นอะไรที่ย่อมติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน
การได้มาเห็นของจริง—และในสวนสัตว์หลายแห่งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สัมผัส—จึงถือเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญผ่านผัสสะทุกด้านของร่างกาย แถมการเดินเล่นในสวนท่ามกลางธรรมชาติยังเป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายอีกด้วย
เมื่อเด็กๆ ได้เห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในระยะสายตา สิ่งหนึ่งอาจเป็นไปได้ คือการรับรู้ เข้าอกเข้าใจและอาจนำไปสู่การเคารพสิ่งมีชีวิตอื่นและธรรมชาติ นึกภาพเมื่อเราได้เห็นสิงโตนอนอยู่บนโขดหิน เส้นขนและท่าทางอันน่ายำเกรงของมันย่อมกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างภายในใจของเด็กๆ
สิ่งมีชีวิตในกรง
เมื่อพูดถึงความรู้สึกและความทรงจำ บางคนก็บอกว่าไม่ได้มีความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับสวนสัตว์เท่าไหร่ เด็กหลายคนกลับรู้สึกสงสารและสงสัยในการที่เราเอาสัตว์ทั้งหลายมากักขังเอาไว้
ตรงนี้เองก็ดูจะเป็นข้อถกเถียงตั้งแต่ระดับภาคปฏิบัติที่มองว่าสวนสัตว์เป็นพื้นที่ของการศึกษาเรียนรู้ กับอีกด้านคือประเด็นเรื่องสวัสดิภาพและการดูแลสัตว์ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ยังต้องถกเถียงต่อไป ไปจนถึงข้อครุ่นคิดทางประวัติศาสตร์และปรัชญาว่าการที่มนุษย์สร้างสวนสัตว์ขึ้นดูจะเกี่ยวข้องกับการล่าอาณานิคมรึเปล่า เป็นจุดที่มนุษย์มองว่าตัวเองอยู่บนห่วงโซ่ของสายพันธุ์อื่นๆ และนำสายพันธุ์อื่นมาจัดแสดงเพื่อผลประโยชน์ของเราเอง เราไปดูสัตว์ในกรงมันจะนำไปสู่การเรียนรู้ นำไปสู่ความเข้าใจโลก เข้าใจสายพันธุ์อื่นได้จริงไหม หรือยิ่งทำให้เรารู้สึกว่ามนุษย์เรายิ่งใหญ่และมีสิทธิในการจัดการคุมขังสปีชีส์อื่นๆ ต่อไป
ถ้ามองในด้านการใช้พื้นที่ และมองว่าสวนสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เมือง ในฐานะพื้นที่เรียนรู้ธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ที่จำลองธรรมชาติให้ผู้คนได้เข้าไปใช้ ตัวสวนสัตว์ที่เข้าถึงได้ก็ดูจะเป็นสิ่งที่เราควรจะมีเนอะ ส่วนภายในสวนสัตว์ การจัดการทั้งตัวพื้นที่ที่เหมาะสมปลอดภัยกับเด็กๆ ไปจนถึงการจัดเลี้ยงจัดหาสวัสดิภาพสัตว์อย่างถูกต้องเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ควรจะให้ความสำคัญต่อไป
สวนสัตว์เขาดินเปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 30 กันยายน 2561 นี้ อย่าลืมไปเยี่ยมแม่มะลิและเพื่อนๆ ในสมัยเด็กของเรากัน
อ้างอิงข้อมูลจาก