อีกไม่กี่วันก็จะถึงสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ สัปดาห์ที่เป็นเหมือนสวรรค์ของนักอ่าน เด็กเล็กอาจชอบเข้าร้านขนมเพื่อซื้อลูกกวาด สาวๆ อาจชอบเข้าร้านเครื่องสำอางเพื่อเลือกซื้อลิปสติกสีที่ถูกใจ ชายหนุ่มอาจจะใช้เวลาเป็นวันๆ ให้หมดไปกับการเลือกซื้อเกม
แต่สำหรับนักอ่าน (และนักชอบซื้อหนังสือไปแล้วคิดว่าจะอ่าน) สัปดาห์หนังสือแห่งชาติเป็นเหมือนดินแดนแห่งความสนุกที่มีหนังสือให้เลือกซื้อมากมายไม่รู้จบ ครบทุกรสที่คุณอยากจะเสพ ทั้งหนังสือนิยายรักโรแมนติก หนังสือสารคดี หนังสือชีวประวัติ หนังสือธุรกิจ หนังสือแบบฝึกหัด หรือจะเป็นหนังสือธรรมะก็ยังมี
หนอนหนังสือทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่อไปเดืนเลือกซื้อ เดินเลือกอ่าน พลิกหนังสือดูทีละเล่ม ทีละหน้าไปเรื่อยๆ ทั้งบริเวณงานจนกว่าจะพอใจ และทุกครั้งเราคงต้องเห็นคนขนเอาหนังสือกลับบ้านไปโดยใช้รถเข็น เพราะใครจะอดใจไหวเมื่อได้เห็นหนังสือที่ถูกใจกองอยู่ตรงหน้า แถมส่วนใหญ่ราคาก็น่ารักซะด้วย
อาจจะถือเป็นเสน่ห์และความดีงามของการได้สัมผัสกระดาษทีละแผ่น ได้กลิ่นกระดาษทีลอยมาตีหน้า เมื่อได้พลิกหนังสือไปมาทีละเล่มๆ
แต่ในความดีงามนั้น การแบกหิ้วหนังสือเป็นเล่มๆ ไปไหนต่อไหน อาจจะไม่สะดวกเสมอไป โดยเฉพาะกับคนที่เป็นคนรักการอ่านหนังสือและต้องเดินทางไปไหนต่อไหนบ่อยๆ ครั้นจะหิ้วหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในใจไปด้วยทุกที่ ก็อาจจะทำได้ ถ้าคุณมีรถ มีพาหนะส่วนตัว แต่หากคุณต้องขึ้นรถ ขึ้นเรือ ขึ้นเครื่องบิน หรือหนังสือที่คุณอยากจะขนไปด้วยที่ไหนต่อไหน มันมีมากมายเป็นนับสิบเล่ม การเอาหนังสือเป็นเล่มๆ ติดตัวไปด้วยทุกที่ก็คงจะไม่สะดวกอีกต่อไป
เทคโนโลยีจึงนำพาให้เราได้มารู้จักกับ e-Reader และ e-Book พูดแบบเข้าใจง่ายๆ e-Reader คือแท็บเล็ตที่เราสามารถดาวน์โหลดหรือซื้อ e-Book (หนังสือในรูปแบบของไฟล์) มาเก็บไว้ในเครื่องหรือใน cloud ซึ่งมันจะอนุญาตให้เราสามารถเปิดอ่านได้ทุกเมื่อ ขอเพียงแต่เรามี e-Reader และเรามีแบตเตอรีเพียงพอ เราก็จะสามารถแบกหนังสือเป็นสิบเป็นร้อยเล่มไปกับเราได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยน้ำหนักอันเบาหวิวเปรียบเพียงแค่แท็บเล็ตเครื่องเดียวเท่านั้น
แท็บเล็ตที่เป็น e-Reader อาจมีหลายยี่ห้อ แต่วันนี้เราขอพูดถึง Boox แบรนด์ที่ออกเสียงว่า ‘บุ๊คส์’ หรือที่แปลว่า หนังสือหลายเล่ม
แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 ด้วยความหมายมั่นปั้นมือว่า จะทำยังไงดี ให้คนสามารถเรียนรู้และอ่านหนังสือได้โดยไม่ปวดตาเพราะจ้องจอนานๆ และนั่นเองจึงเป็นที่มาของการพัฒนานวติกรรมใหม่ๆ ให้ออกมาเป็นรูปแบบของ e-Reader หรือเครื่องมือการอ่านแบบอิเล็กทรอนิกส์
แรกเริ่มเดิมที Boox ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Linux ต่อมาก็เปลี่ยนเป็น Android ในปี 2011 เนื่องด้วยความเป็น Andriod ระบบของ Boox จึงอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆ มาไว้ในเครื่องได้ ผู้อ่านสามารถใช้ดินสอสไตลัสเพื่อขีดเขียน ขีดฆ่า วงกลม ไฮไลท์ข้อความที่สำคัญเอาไว้ เหมือนตอนที่อ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ได้
ต่างกันตรงที่ว่าด้วยความเป็นแท็บเล็ต ดังนั้น Boox จะสามารถช่วยคุณจัดเก็บและรวบรวมคำพูดหรือโควตต่างๆ ที่คุณไฮไลต์เน้นย้ำเอาไว้อย่างเป็นระบบ โดยที่คุณไม่ต้องพลิกหน้ากลับไป กลับมา เพื่อหามัน เหมือนตอนที่จดบันทึกเอาไว้ในหนังสือ
สำหรับหนอนหนังสือคงทราบดีว่า สัมผัสที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตธรรมดาทั่วไปให้ไม่ได้ คือความสบายตาและสัมผัสที่เหมือนกับกระดาษหนังสือ
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า Boox เองก็ยังคงให้สัมผัสความสากของกระดาษผ่านมือเรายังไม่ได้ แต่สิ่งที่ Boox พัฒนาขึ้นมาและทำได้ดี คือการทำหน้าจอให้อ่านแล้วรู้สึกสบายสายตา ไม่ทรมานเหมือนการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ปกติเป็นเวลานานๆ ส่วนหนึ่งเพราะเทคโนโลยี E-ink มีความคล้ายคลึงกับการพิมพ์ที่ปรากฏบนกระดาษ และยังเป็นมิตรต่อสายตามากกว่าหน้าจอชนิดอื่น
นอกจากความสบาย ไม่ปวดตาเวลาอ่านหนังสือบนหน้าจอ Boox ได้พัฒนาให้ e-Reader ของ Boox มีหน้าจอที่มีสีสัน ฉะนั้นคุณสามารถทั้งอ่านทั้งเขียน ทั้งเอนจอยไปกับภาพสีต่างๆ เสมือนว่าได้อ่านหนังสือจริงๆ ที่พิมพ์ 4 สีได้ยังไงอย่างนั้นเลย
อีกเรื่องที่เป็นข้อได้เปรียบของ e-Reader คือ คุณสามารถใช้ระบบ audiobook หรือหนังสือเสียงได้ พูดสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายคือ หนังสือที่คุณดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่อง แล้วเกิดไม่อยากจะใช้สายตาในการอ่านมัน ระบบปฏิบัติการของ Boox จะทำการอ่านออกเสียงให้คุณได้ คุณสามารถไปใช้ชีวิตทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตและเปิด Boox ให้อ่านหนังสือให้คุณฟังไปด้วยได้อย่างสบายใจ!
และหากสิ่งที่ดีงามที่สุดของการใช้ e-Reader คือการทุ่นแรงคุณ คุณสามารถมีหนังสือนับสิบนับร้อยเล่มติดตัวไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องแบกน้ำหนักเป็นสิบกิโลจากหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษ ถ้าอย่างนั้นคุณคงต้องถูกใจน้ำหนักที่เบาสบายสะดวกต่อการพกพาของ Boox โดย Boox ผลิต e-Reader ออกมาหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีน้ำหนักและความเบาที่แตกต่างกันออกไป เช่น รุ่น Boox Tab Mini C น้ำหนักเพียงแค่ประมาณ 2 ขีดเท่านั้น! ถือว่าเบามากๆ เลยทีเดียว
ใครที่ชอบอ่านหนังสือ และไม่อยากพกพาหนังสือเป็นเล่มๆ ไปไหนต่อไหนคุณคงถูกใจ e-Reader อย่าง Boox มากๆ เลยทีเดียวล่ะ แต่ยังไงก็ตาม หากคุณยังหลงใหลกับบรรยากาศการเดินเล่นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หากคุณยังรักการได้พบปะเพื่อนนักเขียน นักอ่านแบบตัวเป็นๆ เราหวังว่าเราจะได้พบกับคุณในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2567 – 8 เมษายน 2567 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิตต์นะ เราเขียนหนังสือและหนังสือของเราก็วางขายในงานด้วย ชื่อ Bon appetit ธุรกิจรอบครัว!
แล้วเจอกันนักอ่าน และนักชอบซื้อหนังสือไปแล้วคิดว่าจะอ่าน!
อ้างอิงจาก