1.
“คุณนายครับ เราจำเป็นต้องขอให้ทุกคนในบ้าน ไปอยู่ที่อื่นก่อนชั่วคราว เราจำต้องตรวจสอบทุกอย่างในบ้านหลังนี้นะครับ”
เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.2018 ตำรวจ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา เดินทางไปที่บ้านหญิงสาวคนหนึ่ง พร้อมหมายค้น โดยขอให้ทุกคนในบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่นก่อนชั่วคราว การตรวจค้นมุ่งไปที่สนามหญ้าหลังบ้าน กินเวลาไม่นาน พวกเขาพบชิ้นส่วนมนุษย์ แยกได้เป็น 8 ร่างด้วยกัน มันถูกฝังซ่อนในกระถางต้นไม้อัดด้วยดิน ในสนามหญ้าดังกล่าว
หญิงสาวตกใจ บ้านของเธอมีศพคนอื่นฝังอยู่ด้วย เธอให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ได้ให้สวนหลังบ้านเป็นที่เก็บของแก่คนจัดสวนรายหนึ่ง ซึ่งนิสัยดี จิตใจสะอาด ชอบเข้าโบสถ์ นักสืบมองหน้าเจ้าของบ้าน ก่อนพูดว่า
“ชายที่คุณกำลังพูดถึงนั้น เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องครับ”
2.
ที่เมืองโตรอนโต มีชุมชนชาวเกย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นที่พบปะสังสรรค์ ของผู้มีรสนิยมเดียวกัน หลายคนเปิดตัวอย่างชัดเจน แต่บางคนต้องเก็บตัวไว้ เพราะครอบครัว ที่ทำงานรับไม่ได้กับพฤติกรรมทางเพศ ไม่ว่าอย่างไร ชุมชนแห่งนี้ถือเป็นชุมชนชาวเกย์ที่ใหญ่สุดในแคนาดา ไม่เพียงแต่คนขาวเท่านั้น ยังมีผู้อพยพ คนเอเชียทั้งตะวันออกกลางและเอเชียใต้อาศัยอยู่ด้วย
ปัญหาของชุมชนแห่งนี้มี 2 อย่าง ข้อแรก ตำรวจชอบก่อกวน บางคนมีรสนิยมทางเพศที่ไม่อยากเปิดเผยตัวเอง จึงนำไปสู่การนัดพบมั่วสุม ผู้ชายบางคนมีอะไรกับผู้ชายโดยที่ไม่อยากระบุว่าตัวเองเป็นเกย์ ชุมชนแห่งนี้จึงเป็นที่รองรับความเริงรมย์และความสุขทางเพศ ที่ทุกคนจะได้เปิดเผยตัวเอง
อย่างไรก็ดีวันดีคืนดี ตำรวจก็บุกจับกุม คล้ายเหมือนรังแก แอบอ้างข้อหามั่วสุม มีอยู่ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่จับเกย์กว่า 250 คนดำเนินคดี กลายเป็นข่าวโด่งดัง ทำให้ผู้ถูกจับหลายคนตกงาน ถูกครอบครัวขับไล่ ชีวิตอีกใบถูกเปิดโปง นำไปสู่ความเสียหายในสังคมอย่างมาก
แม้ตำรวจจะก่อกวนบ่อย ด้วยอคติทางเพศ แต่สิ่งหนึ่งที่ตำรวจละเลย นั่นก็คือ ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.2010-2017 คนในชุมชนตระหนักถึงภัยอันตรายบางอย่าง เพราะมีคนหายตัวไปอย่างต่อเนื่อง หายไปอย่างไร้ร่องรอย หลายคนเป็นเกย์ และเป็นคนเอเชีย เป็นตะวันออกกลาง ผู้อพยพมาสู่แคนาดาเพื่อชีวิตที่ดีงามกว่าบ้านเกิดเดิม แต่พวกเขาหายตัวไปติดต่อไม่ได้
เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกอย่างก็ไหลเวียนไปตามระบบ
ไม่มีการสืบสวนคดีอะไรมากมาย
กว่าตำรวจจะสำนึกรู้ตัว พวกเขาก็ปล่อยให้ปีศาจรายหนึ่งก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่อที่เป็นเกย์ไปกว่า 8 ราย ซึ่งเป็นเพียงตัวเลขที่ทางการสรุปได้ แต่ความจริงอาจมีการสังหารมากกว่านั้น
ตำรวจเกียร์ว่างกับการหายตัวไปของเกย์ นั่นทำให้ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งก่อเหตุได้อย่างสบายๆ กลายเป็นความหวาดกลัวที่ชุมชนเกย์แห่งนี้ต้องระวังตัวกันเอง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สนใจจะปกป้องใดๆ ทั้งสิ้น
“ตำรวจมีอคติกับพวกเรา”
3.
แท้จริงแล้ว ตำรวจไม่ถึงกับมีอคติกับเกย์ไปทั้งหมด ดูเหมือนลึกๆ แล้วพวกเขาจะมีอคติกับคนที่ไม่ใช่คนผิวขาวมากกว่า เพราะเมื่อมีเหยื่อรายหนึ่งหายตัวไป พวกเขาก็ออกสืบสวนหลังพบว่าผู้สูญหายเป็นคนผิวขาว เจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านของชายคนนี้ โดยที่ปฏิทิน มีการเขียนระบุนัดหมายในวันสุดท้ายที่มีคนพบตัวผู้สูญหาย มันเขียนไว้ว่า “บรูซ นัดบ่ายสามโมง”
ตำรวจตรวจวงจรปิดละแวกบ้าน พบเหยื่อเดินไปขึ้นรถแวนสีแดงคันหนึ่งออกไป เจ้าหน้าที่ให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถดู เพื่อระบุยี่ห้อ รุ่น ก่อนจะตรวจสอบว่ารถแวนสีแดงรุ่นนี้มีใครใช้ในโตรอนโตบ้าง ผลออกมามีคนขับรถรุ่นนี้กว่า 6 พันราย
แต่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลล้ำค่า พวกเขารู้ว่า บรูซน่าจะเป็นชื่อเจ้าของรถดังกล่าว จากฐานข้อมูลกว่า 6 พันราย จึงเหลืออยู่เพียง 5 รายเท่านั้น เมื่อสืบค้นต่อ บรูซ 4 ราย มีข้อมูลปกติไม่เคยก่อเหตุอาชญากรรมใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นบรูซ 1 รายที่น่าสงสัยสุด เพราะมีประวัติอาชญากรรมเคยใช้ท่อตีหัวเกย์จนติดคุกมาแล้ว เขาคือ บรูซ แมคอาเธอร์ (Bruce McArthur)
บรูซ ไม่ใช่ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่เป็นคนแก่อายุ 66 ปี รูปร่างอ้วนท้วม ท่าทางใจดี จากประวัติเขาเคยแต่งเป็นซานตา คลอสในวันคริสต์มาส ให้ความสุขกับเด็กๆ เคยทำงานอาสาให้กับโบสถ์ที่อยู่ใกล้กับชุมชนเกย์แห่งนี้ อาชีพเขาคือคนจัดสวนให้กับไฮโซในโตรอนโต ชายชราท่าทางปกติ ลักษณะดูเรียบร้อย ไม่น่าจะก่อเหตุรุนแรงอะไร
ตำรวจเฝ้าตรวจสอบบรูซ เหล่าชุดสืบสวนพบว่า บรูซเคยถูกสอบปากคำในฐานะพยานที่เกี่ยวข้องกับเกย์ที่หายตัวไปหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เคยแจ้งข้อหาใดๆ หรือสงสัยชายคนนี้เลย บรูซอ้างว่าได้เจอเกย์ที่หายตัวไปหลายคนจริง แต่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็เชื่อและปล่อยตัวไป
แม้จะมีการแจ้งเรื่องความรุนแรงที่บรูซก่อกับเกย์แค่ไหน ตำรวจก็ไม่เชื่อ เหยื่อรายหนึ่งเผยว่า เขาเคยถูกบรูซพาขึ้นรถแวน เมื่อขึ้นไป ก็ต้องสะดุ้งสยองสุดใจ เพราะในรถมีการเอาพลาสติกมาห่อหุ้มไว้ เพื่อทำอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมาก
“นี่คุณจะทำอะไรกับผมนะ”
เหยื่อหนีจากรถ ไปแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบ แต่ก็ไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ ตามเคย สัญญาณเตือนดังชัดเจนโจ่งแจ้งขนาดนั้นว่า ชายคนนี้มีอะไรผิดปกติ แต่ตำรวจกลับไม่ทำอะไรเลย
จวบจนชายผิวขาวสูญหายไป เจ้าหน้าที่จึงเริ่มสนใจบรูซมากขึ้น พวกเขาพบว่าบรูซซึ่งขับรถแวนไปรับเหยื่อ แต่หลังจากนั้น กลับซื้อรถคันใหม่มาแทน เจ้าหน้าที่จึงเริ่มตามหารถแวนสีแดง ก่อนจะพบรถคันดังกล่าว หลังตระเวนไปที่จุดรับทำลายรถ เมื่อตรวจสอบในรถ ก็พบคราบดีเอ็นเอและเลือดของเกย์ผิวขาวที่หายตัวไป เจ้าหน้าที่ทำการสอดแนมบรูซ บุกเข้าค้นอพาร์ตเมนท์ ตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทันที
ที่ห้องของบรูซ พวกเขาพบท่อเหล็ก เชือก ทุกอย่างดูน่ากลัวสยดสยอง แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะจับชายคนนี้ได้
ทีมนักสืบทำงานแข่งกับเวลา พวกเขาพบภาพผู้สูญหายหลายรายในคอมพิวเตอร์ ที่บรูซลบภาพออกไป แต่เจ้าหน้าที่ได้กู้คืนกลับมา เหยื่อถูกจัดวางท่าให้ถ่ายภาพ ขณะไร้ลมหายใจไปแล้ว บางคนใส่เสื้อคลุมขนสัตว์ เจ้าหน้าที่อ้าปากค้าง พวกเขาพบหลักฐานสำคัญว่าบรูซอาจจะเป็นฆาตกรสุดสยอง
การวางแผนจับกุมเกิดขึ้นทันที
4.
บรูซเคยแต่งงานกับหญิงสาว มีลูกด้วยกัน 2 คน หญิงราย ชายคน ตอนนี้เขามีหลานแล้วด้วย มีชีวิตปกติสุข จนมีปัญหาการเงินต้องหย่าขาดกับครอบครัว จากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่พบว่า ช่วงที่แต่งงานนั้น บรูซเป็นเกย์ เขาแอบมีอะไรกับผู้ชาย ซ่อนโลก 2 ใบปกปิดไว้เสมออย่างมิดชิด
อย่างไรก็ดีเขาไม่ชอบพฤติกรรมอีกด้านของตัวเอง
เขาเป็นเกย์ที่รังเกียจเกย์สุดๆ
เมื่อหย่าขาดกับภรรยาในปี ค.ศ.1997 เขาเริ่มหมกมุ่นกับการมีอะไรกับเกย์ และเริ่มเข้าเว็บจัดหาคู่ ตอนเป็นเด็ก บรูซถูกเลี้ยงมาในฟาร์ม ในครอบครัวเคร่งศาสนา ที่เน้นย้ำว่ามนุษย์มี 2 เพศเท่านั้น คือชายและหญิง นอกเหนือจากนั้น ไม่มีในนิยามของพระเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อโตมา เขาก็ทำงานในร้านค้า ซึ่งอยู่ใกล้ชุมชนเกย์แห่งหนึ่งในแคนาดา บรูซน่าจะรู้ตัวเองมานานแล้วว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศแบบใด แต่เพราะการกดขี่ทางคำสอน ทำให้เขาหาทางปฏิเสธตัวเอง แต่เราไม่อาจละทิ้งตัวเองได้ และการเป็นเกย์นั้น ไม่ใช่โรค แต่คือชีวิตและตัวตนปกติ
ชุมชนเกย์ใกล้ที่ทำงานบรูซ ทำให้เขาสบโอกาสมีอะไรกับผู้ชาย แต่ชุมชนแห่งนั้น ไม่มีอะไรเทียบได้กับชุมชนเกย์ในโตรอนโต ที่ใหญ่โตโอฬารและมีสีสันกว่าอย่างมาก นั่นทำให้เขาย้ายมาทำงานจัดสวนที่เมืองแห่งนี้แทน
การหมกมุ่นเรื่องมีอะไรกับเกย์ ถูกพัฒนาต่อไปเป็นการฆ่า อย่างที่บอกว่าเขาคือชายที่รังเกียจกลุ่มรักร่วมเพศกันเอง บรูซรับจ้างจัดสวน เวลาหลักทำงาน เวลาว่างอาสาทำงานในชุมชน เป็นที่รักของผู้คนอย่างมากมาย แต่ยามลับตาคน เขาเผยโลกอีกใบขึ้นมา ไม่ใช่ความเป็นเกย์เท่านั้น แต่เขายกระดับความหลงใหลไปสู่การฆ่าในที่สุด
บรูซมักจะมีอะไรกับเหยื่อที่อพาร์ตเมนท์ของตัวเอง หลังจากนั้น เขาจะใช้เชือกรัดคอ กระหน่ำตีอีกฝ่ายจนตาย จากนั้นจะนำศพไปซ่อนตามสนามหญ้าที่ลูกค้าจ้างเขาไปทำงาน บางทีก็เก็บของที่ระลึกจากตัวศพเก็บไว้ ประหนึ่งถ้วยรางวัล
กว่าจะค้นพบความจริง กว่าจะปิดคดี
ก็มีหลายชีวิตจากไปโดยไม่จำเป็น
เดิมตำรวจเตรียมขอหมายจับจากศาล แต่ชุดสอดแนมแจ้งว่าบรูซขับรถแวนรับชายคนหนึ่งกลับที่พักของตัวเอง เจ้าหน้าที่รุดไปทันที พวกเขารอลิฟต์ซึ่งวันนั้นใช้การได้ตัวเดียวจากทั้งหมด 4 ตัวอย่างเนิ่นนาน
ทุกคนร้อนรนใจ กว่าจะไปถึงห้องพักของบรูซได้ ตำรวจเคาะประตูอย่างรุนแรง นานหลายวินาที แต่ยาวนานราวกับหลายชั่วโมง จนมีเสียงคนในห้องพักพูดออกมาเบาๆ ว่า
“ใครครับ”
“ตำรวจ เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
เมื่อประตูเปิด เจ้าหน้าที่กรูเข้าจับบรูซใส่กุญแจมือ แจ้งข้อหาฆาตกรรมทันที เมื่อเดินเข้าไปที่ห้องนอน พวกเขาก็ตื่นตะลึง
ชายคนหนึ่งถูกจับปิดตา ใส่กุญแจมือมัดไว้ในห้อง เตรียมถูกเชือด แม้ตำรวจจะละเลยให้เกิดการก่อเหตุอย่างยาวนาน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จับบรูซทัน ก่อนที่เขาจะสังหารเหยื่อรายที่ 9 มาประดับเกียรติยศอื้อฉาวของเขาได้สำเร็จ
5.
บรูซถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่อายุมากสุดในแคนาดา ด้วยภาพลักษณ์เหมือนชายชราแสนดี กว่าจะรู้ว่ามันคือเครื่องกำบังตนของปีศาจ ก็ต้องมีผู้จากไปหลายราย เจ้าหน้าที่พบอาวุธสังหาร เสื้อขนสัตว์ในรถแวนของบรูซ หลังสอบปากคำยาวนาน บรูซก็เปิดปากรับสารภาพทั้งหมด
แต่แม้จะจับคนร้ายได้ สังคมก็ยังออกมาโจมตีการทำงานของตำรวจว่า ปล่อยปละละเลยให้มีคนตายได้อย่างไรตั้ง 8 คน ทางการได้ตั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริง 2 ปีครึ่งผ่านไป ก็ได้ข้อสรุปว่าตำรวจละเลยหลักฐานหลายอย่างที่น่าจะหยุดบรูซได้ แต่พวกเขาก็ไม่ทำ เพราะอคติทั้งสีผิวและพฤติกรรมทางเพศ และน่าจะจับบรูซได้ตั้งแต่แรก แต่กลับละเลยจนเกิดมีคนตายตามมาอีกหลายศพ
เมื่อขึ้นศาล การกระทำของบรูซและคำรับสารภาพอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่คำพิพากษาจำคุกชายคนนี้ตลอดชีวิต โดยไม่มีการลดโทษ หรือมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น กว่าเขาจะได้สิทธิ์นี้ ก็จะอายุประมาณ 91 ปี คำพิพากษานี้สร้างความโล่งใจให้กับครอบครัวเหยื่อ และชุมชนเกย์ แต่มันยังไม่อาจสิ้นสุดข้อสงสัยได้
เป็นไปได้ว่า บรูซอาจฆ่าคนมาหลายปีแล้ว คาดว่าชีวิตเขาน่าจะสังหารเกย์ไปกว่า 25 รายเป็นอย่างต่ำ แต่ตำรวจล้มเหลวที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงตรงนี้
หรือบางทีอาจมีฆาตกรต่อเนื่องรายอื่นสังหารเกย์ในชุมชนแห่งนี้ ถึงวันนี้ตำรวจก็ได้แต่สงสัย แต่ไม่อาจหาข้อเท็จจริงได้
ปัจจุบันชุมชนเกย์โตรอนโตกับตำรวจ ยังมีความตึงเครียดกันอยู่จนถึงปัจจุบัน คนในชุมชนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ เพราะความเลินเล่อในคดีของบรูซ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ชุมชนไม่เคยให้ตำรวจเข้าไปตรวจตรา นับเป็นความบาดหมางที่ขัดแย้งกันอย่างยาวนาน ยากจะประสานหวนคืนได้
สำหรับตัวบรูซนั้น สิ่งที่เขากระทำนั้นเลวร้ายมาก นี่คือชายที่ฆ่าคนอื่น เพราะเกลียดชังความเป็นตัวเอง สับสน หมกมุ่น หลายชีวิตที่ถูกพรากไป เพียงเพราะสิ่งที่เหยื่อเป็นนั้น ดันเป็นสิ่งที่บรูซเกลียด
ผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีนี้ได้ให้คำจำกัดความบรูซสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า “คุณคือปีศาจดีๆ นี่เอง”
ข้อมูลอ้างอิง