ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นใครสักคนสร้างผลงานดังระดับข้ามแพลตฟอร์มสื่อ แต่ยังได้รับการตอบรับอันท่วมท้นเสมอ หนึ่งในคนที่เราต้องยอมรับโดยทั่วกันว่าเขาทำได้ และทำได้ดีจริงๆ คือ ‘Joji’
ตอนเป็นยูทูบเบอร์ในนาม ‘Filthy Frank’ หรือ Pink Guy เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างดัง
ตอนเป็นศิลปินออกอัลบั้ม เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างปัง
เราขอพาคุณย้อนรอบสักนิดว่าก่อน Joji จะกลายมาเป็นศิลปินลุคเท่ เศร้า เหงา ลึกลับ เขาทำอะไรมาบ้าง สร้างดิจิตอลฟุตปริ้นบนโลกออนไลน์ระดับปรากฏการณ์อะไรไว้บ้างในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้
“ถ้าเป็นยูทูบเบอร์แล้วไม่ดัง ผมก็คงเริ่มทำเพลงเร็วกว่านี้” 7 ปีที่แล้ว Joji เคยให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนั้นกับ Pigeons & Plane
เราคงจะเรียก Joji หรือ George Kusunoki Miller (จอร์จ คูซูโนกิ มิลเลอร์) ว่าเป็นคนครีเอทีฟมีความคิดสร้างสรรตั้งแต่เด็กคงจะไม่ผิดนัก เด็กทั่วไปอาจจะแค่จับกลุ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ส่วน Joji กับเพื่อนกลับมีวิธีการนินทาคนอื่นที่ต่างออกไป นั่นคือ เขาเอาเรื่องที่เขาเจอรอบๆ ตัวมาแต่งเป็นเพลงแบบเอาสนุกตั้งแต่เด็ก
หมายความว่าเขาคิดทำนองเอง และเอาเรื่องราวรอบๆตัวมาเขียนเป็นเนื้อร้อง ประกอบให้มันเป็นเพลงขึ้นมาตั้งแต่ยังอยู่ชั้นประถม ซึ่งในสายตาของ Joji นี่คือความสนุกวัยเด็กของเขา ซึ่งเขาช่างไม่รู้เลยว่า นี่ไม่ใช่กิจกรรมที่เด็กทั่วไปทุกคนเขาจะทำกันเพื่อความบันเทิง จนกระทั่งมีคนมาบอกเขาตอน ป.6 ว่า
“เฮ้ เจ้าหนู สิ่งที่เธอทำนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
Joji จึงเริ่มทำเพลงเก็บสะสมไว้เรื่อยๆ มากมาย แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า การเป็นยูทูบเบอร์ของเขามันดันดังซะก่อนน่ะสิ
Joji ทำรายการ The Filthy Frank Show ในยูทูบในปี 2011 ในนามคาแร็กเตอร์ที่เขาสร้างขึ้นมาว่า Filthy Frank และ Pink Guy ทั้งสองคาแร็กเตอร์นี้คือตัว Joji เองนั่นแหละที่เป็นนำแสดง (เพราะเขาเป็นตัวละครหลักอยู่คนเดียว) คาแร็กเตอร์ Pink Guy ก็ง่ายๆ ตรงตัว คือ Joji จะใส่ชุดรัดรูปสีชมพู ทำอะไรแผลงๆ บ้าๆ บอๆ แต่หนึ่งในสิ่งที่ดูบ้าบอไม่มีเหตุผลที่ Pink Guy เคยทำแล้วสร้างปรากฏการณ์ระดับไวรัลไปทั้งโลกคือการเต้น Harlem shake นี่แหละ ในขณะที่คาแร็กเตอร์ Filthy frank มักจะใส่เสื้อเชิต ลุคหนุ่มเนิร์ด ใส่แว่น พูดจาเสียงแผดร้องกึ่งตะโกนกึ่งตะคอกตลอดเวลา และดูหัวเสีย หงุดหงิด ไม่พอใจกับทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ก็มีความซึมเศร้าด้วยในทุกครั้งที่ปรากฏตัวในคลิปวิดีโอ
ไม่ว่าจะเป็น Filthy Frank หรือ Pink Guy ทั้งสองคาแร็กเตอร์และแทบทุกคอนเทนต์จะออกมาในลักษณะของความตลกแบบสุดโต่ง แกล้งคนแบบแผลงๆ บ้าง ทำอะไรที่ชวนดูไม่น่ามองบ้าง เช่น กินอะไรมูมมาม เลื้อยตัวไปมา ทำท่าเหมือนกำลังจะบ้าคลั่ง เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ในคลิปทุกคลิปถ้าไม่ใช้เสียงพากย์พูดจาโทนตะคอกตะโกน ก็จะใช้เพลงแบคกราวด์ที่ใช้ภาษาหยาบๆ ทั้งนั้น
ถามว่าแล้วคอนเทนต์แบบนี้มีคนดูเหรอ? ก็ตอบเลยว่า มี และป็อปปูลามาก หากเรารวมทุกช่องยูทูบที่ Joji เคยเปิดไว้ไม่ว่าจะเป็นในนาม TVFilthyFrank (7.81 ล้าน subscribe), TooDamnFilthy (2.31 ล้าน subscribe) หรือ DizastaMusic (1 ล้าน subscribe) ก็คือรวมกันได้มากกว่า 10 ล้าน subscribe!!
เมื่อคอนเทนต์ในช่องยูทูบเขาดังขนาดนี้ การทำเพลงและเป็นศิลปินของ Joji จึงถูกดันให้ไกลออกไป จนกระทั่งปี 2017 ที่ชื่อ Joji ได้ถูกปล่อยออกมาใช้ในนามศิลปิน คราวนี้โลกไม่ได้รู้จักเขาในนามยูทูบเบอร์ตลกอย่างเดียวอีกแล้ว แต่เขามาในนามศิลปินที่ทำเพลงเองได้ ร้องเพลงได้ แต่งเพลงเองก้ได้ และอัลบั้มแรกของเขาก็ปล่อยออกมาในปี 2017

และต่อมาโลกก็ได้รู้จักเพลงเศร้า เหงา ดิ่ง เสียใจ มูฟออนไม่ได้ จนมีคนในเน็ตเรียกเขาว่า “เจ้าพ่อเพลงดีเพรส” เพราะไม่ว่าจะเป็น Slow dancing in the dark (2018), Die for you (2022) หรือ Glimpse of us (2022) แต่ละเพลงที่โด่งดังไม่มีเพลงรักสมหวังเลย แถม Joji ก็เป็นคนเขียนเนื้อเพลง ทำนอง และเรียบเรียงเพลงในแทบทุกเพลง
หากเปิดฟังแค่เพลง โดยไม่ดูภาพ เราจะได้ยินเสียงร้องที่แผดออกมาคล้ายกับจะขาดใจให้ได้ตรงนั้นจากความเสียใจในแต่ละเพลงที่ Joji ร้อง ทั้งเนื้อหา ทำนอง และดนตรียิ่งส่งให้ดูเศร้าหนักขึ้นไปอีกด้วยซาวด์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่ดูวังเวงด้วย แต่ก็ดูซึ้งด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เพลงช้าของ Joji จะออกมาดังเปรี้ยงเสมอ
และถ้าหากเปิด MV ดูคู่กันไป เราคิดว่าคุณคงไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นี่คือบุคคลที่เคยเป็นมีม เคยเป็นคาแร็กเตอร์ตลกแบบ Pink guy หรือ Filthy Frank จริงหรอ?
ภาพของ Joji ใน MV คือชายหนุ่มหน้าตาโศกเศร้า ที่ไม่เคยมีใบหน้ายิ้มเลยใน MV หากไม่เป็นฉากเดินเศร้า เหงา เสียใจ ก็อาจจะเป็นฉากนอนร้องไห้คล้ายจะขาดใจตายจากความทุกข์เพราะรักให้ได้
![]()
เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2025 กระแสอินเทอร์เน็ตบนโลกฮือฮาอีกครั้งเมื่อ Joji เคลื่อนไหวในไอจีส่วนตัวด้วยภาพสายไฟพันระโยงระยาง (ที่ใครๆ ในบ้านเราว่าเป็นสายไฟในเมืองไทยแน่นอน) พร้อมข้อความว่า “See you soon” และไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็ปล่อยเพลงใหม่ออกมาจริงๆ นั่นคือ Pixelated Kisses
ตามฟอร์มที่ทุกคนคาดหวัง และไว้ใจได้ ว่าน่าจะเป็นเพลงไม่สมหวังอีกแน่นอน ซึ่งเพลงนี้ก็มีเนื้อหาเป็นอย่างนั้นจริงๆ
Pixelated Kisses หรือจูบพิกเซล เพลงมีความยาวเพียงแค่ 1.50 นาที และมีเนื้อร้องอยู่แค่ 8 บรรทัดเท่านั้น แม้ความหมายยังคงนามธรรมมากๆ ก็คือแล้วแต่คนจะตีความเอาจากตัวอักษรทั้ง 8 บรรทัดนี้ แต่สำหรับเรา ทั้ง 8 บรรทัดนี้ของ Joji คือความแตกละเอียดเป็นระดับพิกเซล ภาวะอาการพร้อมจะร่วงหล่น ภาวะไกลออกไป และการอยู่ห่างกันโดยอาจไม่ได้ยินสัญญาณของกันและกัน
ทั้งหมดนั่นคือก้าวแรกของการกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าพ่อเพลงดีเพรสจากผู้ชายสีชมพูที่เราทุกคนต่างรู้จักเขาดีในนาม Joji
อ้างอิงจาก