เรื่องคือ เมื่อเห็นความหนาของหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก ผมแทบจะพุ่งตัวไปหายาดมในทันที A Little Life ที่อาจแปลได้ง่ายๆ ว่า ‘ชีวิตน้อยๆ’ นั้น ขนาดของมันไม่ได้น้อยสมชื่อครับ จำนวนหน้ากระดาษของนวนิยายเล่มนี้อยู่ที่ 720 กว่าหน้า สารภาพตามตรงเลยว่า ตอนแรกที่หน้ามืดซื้อมา ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะอ่านหนังสือเล่มมหึมาแบบนี้จบหรอกครับ
กระทั่งได้เริ่มอ่านนั่นแหละ ‘ที่ไม่แม้จะคาดฝัน’ ผมก็พบว่าตัวเองได้ติดหนึบกับเรื่องราวของนวนิยายเรื่องนี้อย่างเฉียบพลัน จนราวๆ สองสัปดาห์ให้หลัง ‘ที่ไม่แม้จะคาดฝัน’ ผมก็อ่านมันจบ
A Little Life เล่าเรื่องราวของเพื่อนชายสี่คน ที่ต่างก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัย New England เหมือนๆ กัน และตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในมหานครนิวยอร์ก ชายหนุ่มทั้งสี่มีบุคลิกที่ต่างกันไป Willem Ragnarsson บริกรหนุ่มหล่อจากไวโอมิ่งที่ฝันเป็นอยากเป็นนักแสดง Malcolm Irvine หนุ่มฐานะดีที่ดิ้นรนกับอาชีพสถาปนิก JB ผู้ที่ครอบครัวลี้ภัยจากไฮติและหลงไหลในงานศิลปะ และ Jude St. Francis ทนายความฝึกหัด ที่ไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของเขาให้ใครได้รู้
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงต้นๆ นั้นดำเนินไปอย่างปกติ ชีวิตของชายหนุ่มทั้งสี่ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากกิจวัตรธรรมดา พวกเขาทำงาน ปาร์ตี้ นัดเดตกับสาวๆ และแฮงก์เอาต์ด้วยกัน ไม่ต่างอะไรกับภาพจำของนวนิยายหลายๆ เล่ม หรือหนังหลายๆ เรื่อง ที่ฉายภาพของชีวิตเด็กหนุ่มหลังจบมหา’ลัยหมาดๆ คึกคะนอง ตื่นตะเลิด และฟุ้งฝันเป็นธรรมดา ราวกับว่าดวงไฟแห่งชีวิตจะเชิดช่วงที่สุดก็เฉพาะเวลานี้
ชีวิตแสนปกติดำเนินไปราวๆ ห้าสิบหน้ากระดาษ จวนเจียนจะเช่ืออยู่รอมร่อว่า A Little Life คงไม่ต่างอะไรกับอะไรเดิมๆ ที่เคยได้เห็น จนกระทั่งเมื่อเริ่มจะตายใจนั่นล่ะครับ นวนิยายเรื่องนี้ก็ค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่ปิดซ่อนอยู่ภายใต้ความวุ่นวายของชีวิตวัยหนุ่ม เมื่อไกล่เกลี่ยบทให้ตัวแสดงทั้งสี่ ก็เริ่มปรากฏน้ำหนักที่ชัดเจนว่า เนื้อหาที่เหลืออีกกว่าหกร้อยหน้าจะพุ่งตรงไปทิศทาง ใดไม่ใช่ชีวิตของ Willem, Malcolm หรือ JB แต่เป็น Jude ทนายความหนุ่มผู้คอยแต่จะปกปิดชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองอยู่ตลอดต่างหาก ที่เปิดเผยขึ้นอย่างแช่มช้า ทว่าหนักแน่น และน่าหวาดกลัวทีละน้อย
เราค่อยๆ รับรู้ถึงพฤติกรรมส่วนตัวของ Jude ที่เขาพยายามควบคุมและปิดซ่อน อย่างในเช้าวันหนึ่งที่เขาปลุก Willem ซึ่งเช่าห้องอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างหวาดๆ บอกว่า มีอุบัติเหตุบางอย่างเกิดขึ้น พร้อมโชว์แขนที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด พันทับไว้ด้วยผ้าขนหนูบางๆ ให้ดู แต่เมื่อ Willem ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ Jude กลับบ่ายเบี่ยง พยายามแต่จะหลบเลี่ยง ทั้งยังยืนยันเสียหนักแน่นว่า หัวเด็ดตีนขาด เขาก็ไม่ต้องการไปโรงพยาบาล แต่ให้พาไปหา Andy เพื่อนของเขาอีกคนที่เป็นหมอ
เป็น Andy นั่นเองที่เปิดเผยให้ Willem รู้ว่า สาเหตุของอุบัติเหตุที่ Jude ว่า แท้จริงเกิดจากตัวเขาที่กรีดแขนตัวเอง
อาจเป็นความตั้งใจหรือปราณีของผู้เขียน ที่เลือกจะเปิดเผยความลับของ Jude แต่เนิ่นๆ เพราะนับแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป หากคุณไม่ค่อยจะพิศมัยหรือถูกจริตกับเรื่องราวของชายหนุ่มผู้คอยแต่ลงโทษและโบยตีตัวเองซ้ำๆ ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้หากคุณจะหยุดอ่านเพียงเท่านี้ เพราะผมยืนยันได้เลยครับว่า เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต Jude นับแต่นี้จะรุนแรงในระดับที่เลือด รอยแผล และการกรีดแขนซ้ำอาจเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยก็ว่าได้
Hanya Yanagihara ผู้เขียน A Little Life ประสบความสำเร็จอย่างที่สุดในการสร้างมิติของตัวละครที่สมจริงจนน่าขนลุก ไม่เพียงแต่ Jude หาก Willem, Malcolm และ JB ต่างเป็นตัวละครที่ซับซ้อนอย่างน่าสนใจ พวกเขาต่างล้มลุกคลุกคลาน มีปมปัญหาในชีวิตที่ต้องแบกรับ และแม้ภายนอกจะดูเป็นกลุ่มชายหนุ่มร่าเริงสักเพียงใด แต่ภายในพวกเขาต่างเปราะบางราวกับแก้วใส ที่พร้อมจะแตกสลายได้ตลอดเวลา
A Little Life แสดงให้เราเห็นความทุกข์ทรมาน และการโบยตีตัวเองของมนุษย์ในลักษณะที่ต่างไปจากนิยายหลายๆ เล่ม นั่นคือการปฏิเสธกรอบคิดทางศาสนาทิ้งไป ความเป็นไปได้ในการไถ่ถอนชีวิตคืน การสำนึกผิด หรือนิพพาน ไม่ถูกนำเสนอผ่านทัศนคติของตัวละคร พูดอีกอย่างคือ การปลดปล่อยความเจ็บปวดทางความเชื่อและจิตวิญญาณไม่เคยปรากฏให้เห็น ความทุกข์ทนของพวกเขาวางอยู่บนฐานของความเป็นจริง และมีเพียงการกระทำที่ส่งผลและจับต้องได้บนโลกแห่งความจริงเท่านั้น ที่อาจพอจะปลดปล่อยพวกเขาจากความโศกเศร้า หรือทำเนาความหวาดกลัวได้บ้าง หรืออาจช่วยอะไรไม่ได้เลย
A Little Life เป็นหนังสือที่สร้างข้อถกเถียงในวงการนักอ่านมากทีเดียวครับ เพราะมีทั้งฝ่ายที่ชอบมากๆ ถึงกับยกให้เป็นหนังสือแห่งปี กับฝ่ายที่รังเกียจอย่างสุดๆ จนถึงขั้นด่าว่าอย่างรุนแรงเลยก็มี หลายคนบอกว่า หนังสือเล่มนี้รุนแรงเกินไป และบ่อยครั้งก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนระหว่างการอ่านต้องหยุดพักบ่อยๆ เพราะกลัวจะเป็นบ้า แต่บ้างก็สรรเสริญ Yanagahara ที่ปั้นแต่งเรื่องราวที่สมจริง และส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้อ่านในระดับที่นวนิยายน้อยเล่มนักจะทำได้
ถ้าอ่านถึงนี่แล้วคุณสนใจ A Little Life ขึ้นมา คำแนะนำที่ผมพอจะบอกได้คือ ลองอ่านสัก 50 – 60 หน้าดูครับ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่มีปัญหากับความรุนแรงต่อการโบยตีร่างกายที่จะเกิดขึ้นบ่อยแน่ๆ ของตัวละครในเรื่อง และรู้สึกผูกติดต่อตัวละครใดๆ สักตัวหนึ่ง ผมยืนยันเลยครับว่า หนังสือเล่มนี้จะมอบประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาให้กับคุณแน่นอน เผลอๆ อาจรู้สึกว่า 700 กว่าหน้า จริงๆ แล้วก็ไม่ได้หนาอะไรนัก เมื่อเทียบกับความรุ่มรวยของฉากชีวิตที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความโศกเศร้าอย่างความสมจริงสมจังของ Jude และเพื่อนๆ ของเขา