รางวัล The MATTER Awards เป็นรางวัลอันทรงคุณค่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1 ปีเต็ม ถ้าเป็นต้นมะม่วงก็แตกยอดได้แล้ว 1 ครั้ง ทุกๆ ปีทีมงานจะจัดอันดับเรื่องราวต่างๆ ที่เยอะแยะเป็นกุรุส อ่านไม่หวาดไม่ไหว ให้เป็นรางวัลเกียรติยศถึง 5 สาขา โดยมีรายชื่อผู้ท้าชิงที่เราจับมัดมือชก ไม่แจ้งล่วงหน้า ถือวิสาสะ ก็จะให้ทำไมอ่ะ!
ปีนี้มีความพิเศษที่ The MATTER นำเทรนด์ของนวัตกรรมล้ำยุคอย่างระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Bigdata มาใช้คำนวณรายชื่อผู้ท้าชิงรางวัลด้วยอัลกอริทึมที่ซับซ้อนในแบบ Deep Learning ร่วมกันกับการทำนายด้วยกระดูกสัตว์ เผาให้แตกเป็นลายงา แล้วผู้พยากรณ์จะอ่านความหมายจากลายแตก เป็นการสนธิวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์เข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด เพราะรางวัลแต่ละสาขาเราทำเพียงชิ้นเดียว และหลายครั้งแม่บ้านเกือบจะหอบไปทิ้งทั้งหมด
ปีนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย การเคลื่อนไหวของสังคมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของมวลชนอย่างแท้จริง จนเราอยากจะพูดถึงซะทุกเรื่อง แต่ความจำกัดของพื้นที่ ทำให้เราเลือกมาได้ไม่หมด อาจมีบางเรื่องตกหล่น ไม่ถูกใจ ก็ให้โทษไปที่ Deep Learning และกระดูกสัตว์แทนแล้วกัน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทำมาหากิน ขอต้อนรับสู่ The MATTER Awards 2017 ณ บัดนี้!
รางวัลติดต่อต่างประเทศยอดเยี่ยม
ยุคที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารข้ามชาติ คุณก็ต้องมีอัธยาศัยในการสื่อสารที่ดี มิเช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้ง ยิ่งเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นเดิมพันแล้ว ยิ่งต้องละเอียดรอบคอบ เพราะเหมือนเป็นตัวแทนของประเทศ รางวัลนี้มอบให้กับผู้ที่เดินทางเข้า-ออก มีความสัมพันธ์กับต่างประเทศบ่อยครั้งจนเป็นเรื่องเป็นราว โดยมีผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายดังนี้
บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา
ทายาทกระทิงแดงท่านนี้เดินทางไปหลายประเทศ แต่ไม่ค่อยโพสต์อวดใครๆ หลังจากเป็นผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ก่อนถูกยื่นฟ้องต่อศาลให้ออกหมายจับ หลังไม่มาพบพนักงานอัยการถึง 8 ครั้ง เปิดวาร์ปไปประเทศโน้นทีประเทศนี้ที สื่อต่างประเทศทั้งสำนักข่าวเอพี เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ และบีบีซีของอังกฤษ ก็ตามติดแบบกัดไม่ปล่อย จนไปมีชื่ออยู่ในหมายจับของอินเตอร์โพล ซึ่งถูกเรียกว่า ‘หมายแดง’ หรือ Red Notice โดยหลายสำนักข่าวรายงานว่า นายวิทยาน่าจะกบดานอยู่ที่ประเทศสิงค์โปรและไต้หวัน
โอมูอามูอา
วัตถุหน้าตาประหลาดเดินทางมาจากนอกระบบสุริยะ เหมือนจะมาติดต่ออะไรกับชาว Milky Way เรียกเสียงฮือฮาว่า “เอาแล้วโว๊ยยยย เอเลี่ยนแน่ๆ” เป็นไปได้หรือไม่ ที่สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวกำลังเดินทางมาเยือนอย่างเป็นทางการ ต้องชงอะไรเตรียมไว้ดีระหว่าง ชากับกาแฟ?
ดาวเคราะห์น้อยรูปร่างประหลาด มีชื่อเหมือนรุ่นพี่เนียนมานั่งรับเพื่อนใหม่ ‘โอมูอามูอา’ เป็นภาษาฮาวายแปลว่า ‘ผู้ส่งสารจากแดนไกลที่มาถึงเป็นคนแรก’ บางคนสันนิษฐานว่า ดาวเคราะห์น้อยนี้ไม่ใช่วัตถุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นยานอวกาศของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาว แต่นักดาราศาสตร์ไม่คิดว่าจะสามารถพบร่องรอยสิ่งมีชีวิตใดๆ
พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว
เมื่อ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวบังคับใช้ ก็เหมือนเอาไม้ปลายแหลมไปแยงรังผึ้งให้แตกฮือ พี่น้องแรงงานต่างด้าวและนายจ้างต่างไม่ทันตั้งตัว จนหลายคน Say No บายจ้า ขอเดินทางกลับบ้านเกิดดีกว่า พร้อมมีการเย้ยเอา passport มาห้อยคอแล้วเต้นเอามัน เพราะหาได้มีความสำคัญใดๆ อีกแล้ว
พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่มีความเข้มงวดและสร้างความสับสนต่อลูกจ้าง นายจ้าง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติในการแก้ไขปัญหากระบวนการจ้างงานทั้งระบบ ทำให้นายจ้างละทิ้งลูกจ้าง ส่งแรงงานกลับประเทศจำนวนมาก แถมนโยบายของกฎหมายเต็มไปด้วยบทลงโทษ เช่น การเพิ่มจำนวนเงินค่าปรับ หรือโทษจำคุก อาจจะยิ่งเป็นช่องทางในการทำผิดกฎหมาย การทุจริตในวงราชการ
หนอนตัวแบนนิวกินี
ถ้าคุณไม่รู้จักหนอนชนิดนี้ ก็หมายความว่าคุณไม่มีตังค์เติมค่าอินเทอร์เน็ต เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่พลาดชื่อ ‘หนอนตัวแบนนิวกินี’ อย่างแน่นอน นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจของแวดวงชีววิทยาไทยที่สัตว์ต่างถิ่นชนิดรุกรานจะขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ เพจทุกเพจพูดถึงมันในลักษณะ ‘อสูรกาย’ ที่พร้อมจะเขมือบทุกอย่างให้ล่มสลายราวกับในหนังวิทยาศาสตร์ “มันจะครองโลกไหม”, “น่ากลัวเว่อร์”, “ฆ่าไม่ตายเป็นอมตะ” ฯลฯ ซึ่งออกจะเกินจริงและอภินิหารไปอยู่มาก นำมาสู่คำถามว่า อาคันตุกะจากนิวกินีจะมาดีมาร้ายหรือไม่อย่างไร
มาดามไปรยา
เดี๋ยวนี้การหาคู่ต่างชาติจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ ‘มาดามไปรยา’ จึงประกาศศักดาด้วยสโลแกนชัดเจน “ครอบครัวต้องอยู่ดี กินอิ่ม เราต้องมีความสุขและเราจะมอบความรักให้ทุกคน เราต้องรวย” ทำอย่างไรถึงให้ได้แขกอาหรับรวยๆ แบบจับวาง โดยที่ไม่ให้โดนเคลมฟรี เป็นที่มาของคอร์สออนไลน์อันสุดฮือฮาและตรงไปตรงมาที่สุดแห่งปี โดยชีมาดามไปรยาสอนกลเม็ดเด็ดขาดเพื่อมัดใจผู้ ถึงขั้นเจรจาให้ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว การวางตัวระหว่างเดทให้ประทับใจ รายไหนไม่เข้าข่ายก็อย่าไปเสียเวลา โดยเจ้าตัวโฆษณาว่า มีประสบการณออกเดทกับฝรั่งและแขกอาหรับมามากกว่า 5,000 จน สามารถ ‘สแกน’ คำพูดของผู้ชายได้เพียง 10 วินาที ว่าจะเปย์หรือหลอกเคลมเฉยๆ นี่ระดับน้องๆ เจ้าหน้าที่ CIA แล้ว…มาดามไปรยา
และรางวัลนี้ตกเป็นของ… หนอนตัวแบนนิวกินี
เอาเป็นว่าประเทศไทยของเราได้ทูต (ที่ไม่ค่อยไมตรี) จากหมู่เกาะนิวกินีมาตั้งสถานทูตลับๆ ในไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเจ้าหนอนตัวแบนนิวกินี Platydemus manokwari เป็นหนอนกินหอย ซึ่งหอยท้องถิ่นของปาปัวนิวกินีสวยงามหลายชนิดถูกพวกมันล่า หนอนชนิดนี้ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 ชนิดสิ่งมีชีวิตผู้รุกรานต่างถิ่นของโลก (World’s Worst Invasive Alien Species) เนื่องจากมีรายงานว่าหนอนดังกล่าวล่าหอยทากบกพื้นถิ่นเป็นอาหารด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้จำนวนและความหลากหลายของหอยทากบกในพื้นที่นั้นลดลง
ทีมวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จุฬาฯ ได้ศึกษาหนอนตัวแบนในห้องปฏิบัติการด้วยการวิเคราะห์ DNA พบว่าหนอนตัวแบนนิวกินีที่พบในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์เดียวกับในเกาะปาปัวฯ ตะวันตก 100% และสภาพแวดล้อมน่าจะเอื้ออำนวยให้มันอยู่ต่อยาวๆ
หลายคนกังวลว่ามันจะมาทำลายระบบนิเวศของเราหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีงานศึกษาแน่ชัด แต่นักวิชาการเชื่อว่าตัวมันเองก็มีศัตรูเช่นกัน ไม่ได้อมตะไร้คู่ต่อกร เพราะจริงๆ แล้วในธรรมชาติเองมีสิ่งมีชีวิตผู้รุกรานต่างถิ่น (Invasive Alien Species) สายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาเต็มไปหมด ไม่ต้องห่วง ต่อไปคุณจะได้ยินชื่อสัตว์ Alien Species ใหม่ๆ มารุกรานอีกเพียบ
รางวัลไมค์ทองคำ
บางคนรักการพูด พูดจนได้ดีมีศรีแก่ตัว แต่บางคนก็รักการพูดเหมือนกัน แต่ดันยิ่งพูดยิ่งดูแย่ ไม่ค่อยเข้าหูผู้ฟังสักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ระดับผู้นำแล้ว ทุกคำพูดย่อมมีผลกระทบตามมาเสมอ ปีนี้เรามีนักพูด 5 ท่าน ที่พูดจนเกิดศรีแก่ตัวเอารางวัลไปครอง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายมุสตาร์ซีดีน วาบา อาจารย์โรงเรียนสอนศาสนาในจังหวัดปัตตานี หนึ่งในกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาในรายการเดินหน้าประเทศไทย ท่านกล่าวถึงกรณีการหายตัวไประหว่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ โดยพูดในทำนองว่า “นายมุสตาร์ซีดีน อาจหนีไปอยู่กับผู้หญิงอื่น” ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ตรวจสอบ ทำให้ครอบครัวได้รับความเสียหาย โดยมีลักษณะใช้วาจาเพื่อเหยียดเพศ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบดังกล่าว
แต่พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ดริฟต์ลงเขาไปว่า ไม่ได้หมายความว่าไปเที่ยวกับผู้หญิง แต่ตนแค่ยกตัวอย่างเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว มีผู้ชายคนหนึ่งหายตัวไป และญาติมาร้องว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับตัวไป ต่อมาพบว่าไปเที่ยวกับผู้หญิงที่จังหวัดสตูล การยกตัวอย่างแบบเอาสีข้างถู ดูน่าจะแสบไม่น้อย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เจ้าของวาทะสุดฮือฮา ‘ประวิตร ซ่อมไม่ตาย’ ในกรณีการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 หลังครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าถูกทำร้ายจากการ ‘ธำรงวินัย’ ที่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่? สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ทหาร’ ควรมี ‘สิทธิมนุษยชน’ เหมือนมนุษย์คนอื่นๆ หรือเปล่า?
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าว “ผมก็เคยโดนซ่อมจนเกินกำลังจะรับได้ จนสลบไปเหมือนกัน แต่ผมไม่ตาย เรื่องเหล่านี้ก่อนจะรับเด็กเข้ามาต้องตรวจเช็กร่างกายเป็นอย่างดี” กลายเป็นการโชว์พละกำลังเสียอย่างนั้น เกิดมหกรรมกระแสล้อเลียน พล.อ.ประวิตรคนเหล็ก จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต แถมยังโดนขุดเรื่องนาฬิกาและแหวนที่ไม่อยู่ในรายชื่อทรัพย์สิน ซึ่งประชาชนก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้นำอารมณ์เรือกลไฟ พูดทีไรควันโขมงทุกที นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากประชาคมสื่อกัดไม่ปล่อย ขยี้แล้วขยี้อีก จากกรณีแหวนเพชรและนาฬิกาหรูที่โดนแฉว่า มีหลายชุดหลายเซ็ต แต่เป็นของแม่บ้าง ยืมเพื่อนมาใส่บ้าง ยังกับวัยรุ่นเพิ่งหัดเดินสยาม จนพล.อ.ประยุทธ์ต้องปรามสื่อว่า “สื่อก็ลดราวาศอกกันบ้าง กฎหมายว่าอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้น อย่ามองกันในทางที่แย่ไปทั้งหมด ให้ไปดูกฎหมายก่อน”
กลายเป็นว่าหน้าที่ของสื่อที่ต้องการตรวจสอบภาครัฐกลับเป็นการชักใบให้เรือเสีย ทั้งๆ ที่รัฐบาลพยายามชูความโปร่งใสเป็นแคมเปญหลัก และต่อว่าสื่อหลายสำนักที่ต้องการตีข่าวให้เกิดความแตกแยก “ผมเองก็แข็งแรงเยอะ ถ้ายิ่งไม่มีคนอยู่ด้วยก็จะยิ่งดุกว่าเดิม จะใช้อำนาจอย่างเต็มที่” แน่ะ ขู่อีก!
ออง ซาน ซูจี
ผู้นำรัฐบาลพม่ากล่าวแถลงการณ์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่รัฐบาลเมียนมา นายทหารระดับสูง และตัวแทนจากหน่วยงานสังกัดของ UN ในกรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ซึ่งในเรื่องปัญหาชาวโรฮิงญานั้น ซูจีระบุว่า เธอได้ตระหนักถึงว่าโลกกำลังให้ความสนใจกับปัญหานี้ แต่รัฐบาลพม่านั้นไม่กลัวการตรวจสอบข้อเท็จจริงระหว่างประเทศ โดยเธอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนและความรุนแรงที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทุกกรณี และยืนยันว่ารัฐบาลพม่าได้ยุติการใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งพยายามแก้ไขปัญหาให้ชาวมุสลิมได้รับสิทธิต่างๆ อย่างเท่าเทียม โดยจะเริ่มกระบวนการให้ผู้อพยพมุสลิมกลับมาจากบังกลาเทศเพื่อพิสูจน์สัญชาติและเชื้อชาติด้วย
แต่ผู้สื่อข่าวของ BBC ประจำ ประเทศพม่า ตำหนิคำแถลงการณ์ของซูจีว่า เป็นสิ่งที่ต่างจากความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง ทั้งยังบอกว่าชาวโรฮิงญาไม่เคยได้รับการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมอย่างที่รัฐบาลอ้าง และการสัญญาว่าจะทำการพิสูจน์เชื้อชาติก็จะยังคงเป็นปัญหาต่อไป ชาวโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยก็กล่าวกับ TIME ว่า ชาวโรฮิงญาเคยไว้ใจซูจี แต่ตอนนี้พวกเขามองว่าเธอกำลังโกหก และชาวโรฮิงญาต่างก็กำลังเผชิญกับการทุกข์ทรมานมากกว่าที่เคยเป็น
อิมเมจ
รอรถเมล์นานไปหน่อย อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ จึงทวีตข้อความด้วยอารมณ์หัวเสียทำนอง ‘วิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทย’ ว่าหากเป็นเช่นนี้อีก 50 ปี หรือ 1,000 ปี ก็คงจะไม่เจริญกับเขาหรอกนั้น สังคมจึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้ว อิมเมจด่าอะไรอยู่กันแน่ แม้อิมเมจจะทวีตด่ารถเมล์ที่ไม่ตรงเวลา ซึ่งก็มีหลายคนสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่แค่นั้น แต่จริงๆ แล้วตั้งใจจะวิพากษ์ระบบโครงสร้างที่ใหญ่กว่า และดูเหมือนจะแปดเปื้อนไม่ได้
กลายมาเป็นกระแสคนรุ่นใหม่มีแนวโน้ม ‘ชังชาติ’ อยู่หรือไม่ แต่ทำไมประเทศไทยถึงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้? ทั้งๆ ที่ความเป็นเจ้าของประเทศของคนชังและคนชอบก็ควรมีสิทธิเสรีภาพเท่าๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ข้อความสั้นๆ ในทวิตเตอร์ของนักร้องสาวกลายเป็นตัวจุดประกายการให้มีการเปิดพื้นที่พูดคุยถึงวัฒนธรรมการวิพากษ์วิจารณ์ประเทศว่า ควรดำเนินไปเช่นไร
และรางวัลนี้ตกเป็นของ… พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้ ‘ประวิตร ซ่อมไม่ตาย’ จะเป็นไวรัลดังแห่งปี ที่พ่วงมาด้วยเรื่องทรัพย์สินและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกนับ 108 เป็นเหมือนพายุที่ประดังประเดใส่ในช่วงท้ายปี จนท่านประวิตรลดการออกสื่อไปสักระยะ แต่หากมาพิจารณากันดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจพูดอะไรทิ้งทวนให้เจ็บปวดใจกว่า เมื่อรัฐบาลมักชูวาระความโปร่งใสตรวจสอบได้มาเป็นที่ตั้ง แต่เมื่อรัฐบาลถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใสในการครอบครองทรัพย์สินเสียเอง กลับถูกติงเหมือนผู้ใหญ่ปรามเด็กๆ ให้ ‘ลดราวาศอก’ และ ตัดพ้อว่าถูกสื่อจ้องเล่นงานและตีให้เกิดความแตกแยก สิ่งสำคัญคือจุดยืนของคนที่เป็นนายก เป็นผู้บังคับใช้กฏหมาย เป็นผู้นำของรัฐกลับมีแนวโน้มที่จะ ‘เลือกปฏิบัติ’ คำพูดนี้ในที่สุดสะท้อนถึงปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นคือการใช้อำนาจและการใช้กฎหมายอย่างไม่ทั่วถึง ถ้าไม่มีความถูกต้องและความยุติธรรมแล้ว จะไปหาความปรองดองคงยากเนอะท่าน
รางวัล Make Over
คำว่า เมกโอเวอร์ หมายถึงว่าเรามีอะไรที่อาจจะธรรมดา ค่อนไปทางไม่ดี เราก็ต้องหาทางปรับปรุง ให้มันเก๋ไก่ ไฉไล ดีขึ้นกว่าเก่าด้วยราคาที่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่ว่าอะไรก็จะซื้อใหม่ๆ บ้านเราเองปีนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจฝืดๆ แต่เราก็ปรารถนาที่จะให้คุณภาพชีวิตของเราๆ ท่านๆ มันดีขึ้นไป การปรับโฉม เปลี่ยนลุคจึงเป็นสิ่งที่โดดเด่นสำหรับปีนี้ และการปรับโฉมทั้ง 5 ที่เข้ารอบมีดังนี้
เปลี่ยนหน้าตาและสายการวิ่งของรถเมล์
รอรถเมล์ไปใจก็สั่นๆ ดูเหมือนว่าทั้งตัวรถและสายรถเมล์ของบ้านเรามันก็หน้าตาแบบนี้มาเป็นสิบๆ ปี โลกหมุนไปแค่ไหน รถมล์ไทยก็ยังวินเทจ อยู่ยั้งยืนยงจนเราสงสัยว่า เอ๊ะ องค์กรที่ดูแล ‘การขนส่งมวลชน’ นี่มันมีอยู่จริงไหมนะ แล้วเขาคิดจะทำอะไรให้คุณภาพชีวิตของเรามันดีขึ้นบ้างมั้ย คิดไปรถเมล์ก็พ่นควันสีดำตัดหน้าไป
พอมีข่าวว่าทางขนส่งมวลชนจะมีการปรับสายการเดินรถและปรบโฉมรถเมล์ใหม่ คนเดินถนนอย่างเราก็ดีใจน้ำตาจะไหลว่า เอ้อ เป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมา ท่านได้เล็งเห็นแล้วว่าของคู่บ้านคู่เมืองนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตเราจะดีขึ้นแล้ว ฮาเลลูยา!
แต่พอถึงเวลาลงมือจริง ฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา เมื่อการปรับโฉมคือการเอาสติกเกอร์มาติด…ที่ หน้าตาคือแบบว่า แล้วแต่รสนิยมเนอะ ส่วนเรื่องสายการเดินรถใหม่ที่งงๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่สุดท้ายการปฏิรูปรถเมล์มูลค่า 26 ล้านบาทก็มลายหายไป ระบบรถเมล์ไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ วิ่งกันฝุ่นตลบและใช้เส้นทางที่เคยมีกันมาอย่างช้านานอีกครั้ง
MayDay
หลายสิบปีที่รถเมล์อยู่คู่สังคมไทยมา เราอาจจะหวังพึ่งแต่ทางภาครัฐก็คงไม่ได้ (ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่เนี่ยนะ!?) แต่สุดท้ายปรัชญาแบบที่ว่าความเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่เราๆ ท่านๆ กลุ่ม MayDay คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พยายามจะช่วยกันให้คุณภาพชีวิตของคนกรุงดีขึ้นผ่านการออกแบบ การคิด และลงมือทำอย่างมีประสิทธิภาพ (เพราะคนน้อยและงบประมาณจำกัด) โปรเจกต์โดดเด่นของ MayDay ในปีนี้คือการใช้การคิดและการออกแบบใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการรถเมล์ของบ้านเรา ซึ่งแน่ล่ะว่าการขนส่งมวลชนถือเป็นสวัสดิการลำดับต้นๆ ที่จะบ่งชี้ว่าคุณภาพชีวิตของเราโอเคมากน้อยแค่ไหน
น้องเกี่ยวก้อย
ความปรองดองดูจะเป็นคำสัญญาและธงสำคัญในการอยู่ในอำนาจของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่แน่ใจว่าในหลายปีที่ผ่านมานี้เราได้ปรองดองกันเพิ่มขึ้นบ้างแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้ยังอยากที่จะสร้างความปรองดอง
ปีนี้ไพ่ไม้ตายของภาครัฐ คือการปล่อยวีรสตรีหญิง เด็กหญิงผู้จะนำสันติสุขมาสู่ผืนแผ่นดินไทย ขอเสียงปรบมือต้อนรับ (รัวกลอง) … ‘น้องเกี่ยวก้อย’ มาสคอตตัวใหม่ อันเป็นตัวแทนผู้จะมาประสานรอยร้าวแห่งความแตกแยกในสังคม แต่สื่อและปวงชนดูจะไม่เข้าใจว่า การปรับโฉมเอามาสคอตเดิมมาใช้เป็นน้องเกี่ยวก้อยดูค่อนข้างขมุกขมัวไปสักหน่อย (ตอนหลังซักแล้ว)
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่น่าสนใจคือ การเอาความคิดเรื่องการปรองดองมาทำเป็นตุ๊กตาก็ถือว่าเป็นการ Make Over สันติสุขได้อย่างคมคาย แถมแคมเปญน้องเกี่ยวก้อยถูกมัดมือก็ยิ่งดูเป็นศิลปะเหนือจริง ทำให้เราได้ขบคิดเหมือนได้ยืนอยู่ใน Museum of Contemporary Art ทั้งๆ ที่ไม่ต้องไปไหน ซึ่งเจ้าความปรองดองเนี่ย อาจจะไม่ได้อยู่ที่การเอาน้องอะไรขึ้นมาเนอะ อาจจะขึ้นอยู่กับความเป็นธรรมและความชอบธรรมของรัฐรึเปล่าน้อ…อุ๊บส์
คนรวยที่ดูจน คนจนที่ดูรวย
ประเด็นเรื่องจนๆ รวยๆ ดูจะเป็นเรื่องโดดเด่นสำหรับปีนี้ เรามีคนที่ทำท่าเหมือนจะรวย แต่ก็อวดตัวว่าจน แต่ในขณะเดียวกันคนที่รวยจริงๆ ก็หาทางปกปิดตกแต่งบัญชีว่า เอ้อ ไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้น มีกรณีปานามาเปเปอร์สที่คนรวยๆ เอาเงินโยกย้ายไปลงทุนในบางกลุ่มประเทศให้แลดูจนลงเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ประเด็นเรื่องความจนความรวยจึงอยู่ในความสนใจของเราเสมอ เราอยู่ในโลกทุนนิยมที่สัญญาว่าเราทุกคนสามารถมั่งคั่งร่ำรวยได้ถ้าอาศัยความขยันขันแข็งและการทำธุรกิจ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งนานวัน เกมแห่งเงินตราและความมั่งคั่งจะไม่ใช่เกมที่เป็นธรรมและเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างถ้วนหน้าเท่าไหร่ ปีนี้เรามีรายงานว่าช่องว่างทางเศรษฐกิจยิ่งถ่างขยาย ความมั่งคั่งของโลกใบนี้กว่าครึ่งอยู่ในการครอบครองของคนเพียง 1%
รถหรูจากการโฆษณาธุรกิจเครือข่าย
หนึ่งในสุดยอดแห่งการเมกโอเวอร์ กับกลุ่มนักธุรกิจวัยรุ่นไฟแรง กลุ่มนักธุรกิจที่จริงๆ แล้วทำธุรกิจขายอาหารเสริมเพื่อผิวขาว แต่งานขายกลับมีแต่รถหรูๆ ที่ดูขาวจั๊วะ จริงๆ ก็ไม่ได้มีแต่กลุ่มนักธุรกิจเครือข่ายขายอาหารเสริมกลุ่มที่เป็นข่าวเพราะคลิปเท่ๆ กลุ่มเดียว แต่เรายังมีนักธุรกิจในทำนองเดียวกัน นักธุรกิจที่ใช้ความฝันของโลกทุกวันนี้ โลกที่ใครๆ ก็หวังว่าจะรวยได้ด้วยคำว่าการ ‘ทำธุรกิจ’ เป็นการสร้างแรงจูงใจด้วยความมั่งคั่ง ด้วยรถหรู ด้วยทริปไปยุโรปปีละครั้ง แลกไปด้วยค่าสมัครสมาชิกราคาสักกห้าร้อยถึงหลักพันบาท คุ้ม…เจ้ามือนะที่คุ้ม ไม่ใช่เรา
และรางวัลนี้ตกเป็นของ… MayDay
เราขอมอบรางวัลนี้ให้กับ Mayday เพราะเป็นการลงมือปรับเปลี่ยนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายด้วยวิธีการทำที่ทำน้อยแต่ได้มาก ใช้ความคิดและการออกแบบมาเพื่อทำให้การเดินทางด้วยขนส่งมวลชนสนุกสนานและสะดวกสบายขึ้น อนึ่ง การที่คนเล็กๆ ลุกขึ้นมาพยายามปรับเปลี่ยนอะไรด้วยพลังเล็กๆ เราก็หวังว่าคนตัวใหญ่ๆ เหล่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเกิดความรู้สึกตื่นรู้และหาทางปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามงบและภาระหน้าที่ที่ตนดูแลอยู่ ขอให้ความสุขความเจริญเกิดแก่ MayDay และรักษาความดีนี้ไว้ ดุจเกลือรักษาความเค็ม
รางวัล Gender Diversity
ปีที่แล้วเรามีข่าวสะเทือนขวัญการกราดยิงไนท์คลับเกย์ และยิ่งเมื่อโลกดูจะ ‘หันขวา’ ไปสู่การเป็นอนุรักษนิยมมากขึ้น ทัศนคติของเราก็ดูจะหันไปสู่ ‘ความไม่หลากหลาย’ เท่าไหร่ แต่ปีนี้ดูเหมือนว่าประเด็นเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียมก้าวหน้าทางเพศจะโดดเด่นและอยู่ในกระแสความสนใจ เมื่อเราเริ่มไม่ถูกจำกัด กดขี่ และถูกนิยามด้วย ‘เพศ’ ว่าจะต้องเป็นชาย หญิง หรือเพศใดๆ ปีนี้เราจึงขอเชิดชูและมอบรางวัลให้กับความก้าวหน้าและเฉลิมฉลองแก่ความหลากหลายที่เบ่งบานในปีนี้
พอลลีน งามพริ้ง
คุณพอลลีนถือเป็นหนึ่งปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาและสร้างความเข้าใจเรื่อง ‘ความหลากหลาย’ ได้อย่างเป็นรูปธรรม จากคนในวงการฟุตบอล วงการที่ดู ‘เวรี่ผู้ชาย’ เป็นโลกของผู้ชายและตัวเธอเองก็ยังเป็นพ่อ แต่ในที่สุดแล้วเมื่อตัวตนของเธอไม่เข้ากับ ‘ภาพ’ ที่สังคมคาดหวังและมอบให้ เธอจึงตัดสินใจเลิกปิดบังและบังคับตัวเอง ในที่สุดเราก็พบว่า คุณพอลลีนถึงแม้ว่าจะกลายเป็นผู้หญิง แต่บทบาทหน้าที่และการยอมรับของเธอในฐานะบุคคล ในฐานะหัวหน้าครอบครัวก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องอะไร
กฏหมายการแต่งงานของเพศเดียวกัน
พอทีกับคำว่าอะไรกันนักกันหนา ถ้าเราจะบอกว่าเราเคารพกัน ให้สิทธิกัน มันก็ต้องมีกฎหมายรองรับ การแต่งงานของคนเพศเดียวกันถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญและจำเป็น ปีนี้เรามีเยอรมนีและออสเตรเลียที่ออกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน และตอนนี้กำลังกลายเป็นกระแสต่อเนื่องไปทั่วโลก กฎหมายรองรับ การเป็นคู่ชีวิต เป็นการรับรองสิทธิและทุรกรรมที่จำเป็นพื้นฐานทั้งหลาย เช่น เรื่องทรัพย์สิน และทายาท แถมการที่มีกฎหมายรับรองและทำความรักหลากหลายรูปแบบให้เป็นทางการ เท่ากับว่าอีกหน่อย ความรักของผู้คนก็จะไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองเพศ แต่เป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า
LGBTQ Pride
เรารู้ว่ามีกระแสผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ การออกมาเดินขบวนของผู้คนเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนความแตกต่างหลากหลาย LGBTQ Pride ถือเป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่จัดจ้านสดใส เป็นการออกมาเผยตัว – ทั้งตัวตน – และสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเพศ (คือเป็นใครก็ได้ที่ออกมาร่วมกันแสดงพลัง) ต่อต้านการเหยียดหยัน อคติและการกดขี่ต่างๆ บ้านเราเองก็มีการวางแผนที่จะจัด Pride ที่กรุงเทพเช่นกัน คาดว่าจะจัดได้จริงปีหน้า
กลุ่ม The Silence Breakers
กระแสทางสังคมที่สำคัญที่สุดของปีนี้คงหนีไม่พ้น #MeToo การออกมาเล่าเรื่องของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศ นิตยสารไทม์ยกให้เหล่าผู้ที่กล้าออกมาเปิดเผยและยืนหยัดในฐานะผู้ถูกกระทำเป็นบุคคลแห่งปี ในที่สุดการออกมาเปิดเผยนี้ทำให้เราเห็นเรื่องเพศ เห็นว่าตัวตนเป็นสิ่งที่ยังคงไม่เท่าเทียมและถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการเอารัดเอาเปรียบกันอยู่เสมอ กระแสสำคัญนี้สร้างความตระหนักรู้และก่อให้เกิดการช่วยเหลือและส่งเสริมพลังซึ่งกันและกัน
การปรับภาษาให้เป็นกลางทางเพศ (Genderneutral Language)
ความเหลื่อมล้ำทางเพศเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน นักวิชาการบอกว่าเราถูกหล่อหลอมอคติทางเพศมาตั้งแต่ระดับภาษา ซึ่งภาษานี้ก็นำมาซึ่งความคิดและการลงมือกระทำที่เป็นรูปธรรม จุดนี้ทางการและผู้คนก็เลิกพูดว่า จะอะไรนักหนากะอีแค่คำ แต่หันมาพิถีพิถันและระมัดระวังการใช้ภาษา มีการปรับภาษาให้ ‘เป็นกลางทางเพศมากขึ้น’ เช่นในทางศาสนาก็มักมีข้อแย้งว่าศาสนาแอบแฝงไว้ด้วยความเสมอภาคทางเพศ ก่อนหน้านี้ในศาสนาคริสต์ก็เริ่มมีการแปลพระคัมภีร์โดยระวังเรื่องอคติทางภาษา ปีนี้คริสตจักรของทางสวีเดน (The Church of Sweden) ออกมาประกาศว่าจะเลิกใช้สรรพนามเพศชาย (he) ในการอ้างถึงพระเจ้าและพยายามเลือกคำที่เป็นกลางทางเพศมากขึ้น ทางกลาโหมของสหรัฐฯ เองก็ออกมาบอกว่ากองทัพจะใช้คำที่เป็นกลางทางเพศมากขึ้น ซึ่งคำที่เป็นกลางทางเพศที่เรากำลังตื่นตัวและเริ่มใช้กันมากขึ้น ก็เช่น คำนำหน้านามที่ไม่ระบุเพศ
และรางวัลนี้ตกเป็นของ… คุณพอลลีน งามพริ้ง
เราของมอบรางวัลนี้แก่คุณพอลลีน ทั้งในความกล้าหาญ และในฐานะตัวแทนที่ทำให้เราเห็นความลื่นไหลและความยืดหยุ่นที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเพศ เราเห็นแกนนำเชียร์ฟุตบอลและผู้เข้าสมัครประธานสมาคมฟุตบอล เราเห็นคนที่เป็นพ่อที่สามารถดูแลลูกๆ ได้ และเราเห็นผู้หญิงที่มั่นใจ เข้าใจ ยอมรับ และกล้าหาญคนหนึ่ง เราเชื่อว่าความเข้าใจและความกล้าหาญจากคนๆ หนึ่งย่อมส่งต่อความกล้าหาญและนำมาซึ่งการยอมรับและความเข้าใจต่อไปได้
รางวัลนานแค่ไหนก็จะรอ
“สำหรับคนที่รอแล้ว เวลามักยาวนานเสมอ” ประโยคทำนองนี้ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องในนิยายเหงาๆ หว่องๆ หากแต่ปี 2017 ที่กำลังจะผ่านไป ก็มีเรื่องราวมากมายให้พวกเราได้เฝ้ารอเฝ้าคอยกันอย่างใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะด้วยเหมือนกัน รางวัลนี้เรามอบให้กับการรอคอยที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปี รอแล้วรออีก จนรากอาจจะงอกก็ไม่เป็นไร ด้วยความหวังว่าสิ่งที่อยู่ในปลายทางย่อมคุ้มค่ากับเวลาที่ยาวนาน อย่าได้รอช้า ลองไปทำความรู้กันกับ 5 ผู้ท้าชิงรางวัลประจำปีนี้
บัตรแมงมุม
ได้ยินชื่อกันมาหลายปีกับ ‘บัตรแมงมุม’ บัตร whole-in-one สำหรับขนส่งสาธารณะ ที่จะใช้ได้กับทั้งรถไฟฟ้า BTS, MRT, แอร์พอร์ตลิ้งก์, รถเมล์, เรือด่วน และทางด่วน แถมยังสามารถนำไปซื้อของตามห้างได้ด้วย เรียกได้ว่าเดินทางต่อไหนๆ ไปช้อปอะไร บัตรเดียวก็เอาอยู่!
เห็นข่าวกันมานาน รอแล้ว ก็รออีก บัตรแมงมุมก็ยังไม่มาถึงมือพวกเราเสียที ทั้งๆ ที่มีข่าวดีเดย์ให้เตรียมเปิดใช้ตั้งแต่กลางปี 2556 ก่อนจะเลื่อนมาเรื่อยๆ แค่ในปีนี้ก็มีข่าวเลื่อนให้ได้ยินกันถึง 3 รอบแล้ว สุดท้ายความฝันในการถือบัตรเดียว เดินทางสบายของชาวกรุงก็ต้องฝันสลาย และเราก็คงต้องรอใช้บัตรแมงมุมกันอีกต่อไป
สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือเลิกทะเลาะกัน
2017 เรียกได้ว่าเป็น ปีเดือดแห่งการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ที่ คิม จอง อึน ผู้นำของประเทศได้สั่งทดลองอาวุธนิวเคลียร์ไปถึง 16 ครั้ง พร้อมบรรยายแสนยานุภาพว่า ได้พัฒนาอาวุธให้ยิงไกลไปถึงอเมริกาได้แล้ว ให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเทศในแถบเอเชียอย่างเราๆ หวาดกลัวว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้ว
แต่แค่ยิงขีปนาวุธยังไม่พอ ผู้นำสองประเทศคู่อริอย่างคิม จองอึน และโดนัลด์ ทรัมป์ ยังสาดคำด่าทอ อย่างหัวร้อนใส่กัน ไม่ว่าจะเป็นการที่คิม พาดพิงถึงทรัมป์ว่าเป็น ‘คนแก่เลอะเลือน’ (an old lunatic) ซี่งทรัมป์ก็ไม่ยอมง่ายๆ ทวีตด่าคิมกลับว่า ‘เตี้ยและอ้วน’ (short and fat) ทั้งทรัมป์เองยังประกาศในเวทีของ UN ว่า ถ้าจำเป็นต้องป้องกันตัวเองหรือพันธมิตรก็พร้อมยิงถล่มเกาหลีเหนือด้วย เพราะความหัวร้อนของผู้นำผู้ครองอาวุธรุนแรง ทำให้คนต้องหวาดหวั่นว่าสงครามโลกครั้งใหม่จะเกิดขึ้นจริง The MATTER ก็หวังว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่กรณีจะจบลงด้วยดี ไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
เธียร์เตอร์ BNK48
เลื่อนไถฟีดในไทม์ไลน์เฟซบุ๊กกันทีไร ถ้าไม่เห็นเพื่อนกดไลค์เพจ BNK48 ก็ต้องมีการแชร์เพลงของสาวๆ วงนี้กันบ้างแหละ บางคนนี่ไม่เจอกันตั้งนาน เห็นกันอีกทีก็ อ้าว ไปเต้นเพลงคุกกี้เสี่ยงทายกับน้องๆ ไอดอลสุดสดใสน่ารักที่สุดของปีนี้กันไปแล้ว บางคนนี่เต้นโปรยิ่งกว่าน้องๆ อีก เอ้อ ประทับใจสุดพลัง
BNK48 เลยกลายเป็นปรากฎการณ์ในวงการบันเทิงที่น่าสนใจที่สุดอันหนึ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่ละเดือนก็มีเรื่องราวดราม่า และประกาศเซอร์ไพรส์ให้แฟนคลับได้บริหารการเต้นของหัวใจกันตลอด เรื่องสำคัญที่เหล่าโอตะเฝ้ารอกันมากๆ ในปีหน้าก็คือการเปิดตัว ‘เธียร์เตอร์’ หรือที่ฝ่ายบริหารของ BNK48 เรียกว่า ‘Campus’ ซึ่งแว่วๆ มาว่าน่าจะเปิดตัวกันได้กลางปีหน้า ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่แฟนคลับและไอดอลจะได้เจอและใกล้ชิดกันมากขึ้น ตรงตามคอนเซ็ปต์ ‘ไอดอลที่คุณพบได้’
อิสรภาพไผ่ดาวดิน
ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ‘ไผ่ ดาวดิน’ แต่การที่นักกิจกรรมคนนี้ติดคุกเพราะแชร์ข่าวจาก BBC Thai ก็นับว่าเป็นปรากฏการณ์ท้าทาย และทดสอบความรู้สึกของคนไทยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือเป็นการครบรอบ 1 ปีที่ไผ่ถูกจองจำ ตลอดปีที่ผ่านมา ไผ่ในวัย 26 ในฐานะผู้ถูกคุมขัง มีวาระต้องไปขึ้นศาลอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพการแสดงออก เช่น คดีร่วมกันมั่วสุมและชุมนุมทางการเมือง
แม้จะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ แต่ชื่อของไผ่ ดาวดิน ก็ได้ถูกขานรับในระดับนานาชาติ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม เขาก็ได้รับรางวัลสิทธิมนุษยชนกวางจูประจำปี 2017 จากองค์กรด้านสิทธิในประเทศเกาหลีใต้ ท่ามกลางความหวังของหลายๆ คนที่อยากเห็นนักกิจกรรมผู้นี้ได้รับกลิ่นอายของอิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง
การเลือกตั้งตามสัญญา
เราจะทำตามสัญญา… ฟังเพลงนี้กันทีไรก็สงสัยกันตลอดว่า สัญญาที่ว่าเนี่ยจะสำเร็จกันเมื่อไหร่
การเลือกตั้งที่ลุงตู่ผู้ใจดีอันเป็นที่รักของพวกเรานั้นจะได้เกิดขึ้นจริงตามโรดแมปที่ คสช. กำหนดเอาไว้ให้ไหม? หรือว่าจะมีโรคเลื่อนให้วันเวลาตามคำสัญญาต้องถอยห่างจากพวกเราไปอีก
ปีนี้เราได้ยินเรื่องเลือกตั้งกันมาตลอด ตอนเดือนกันยายน กกต. ก็ออกมาแถลงให้ความหวังกันว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นได้ตอนเดือนสิงหาคม 2561 เอ้อ ก็ได้ลุ้นกันเนอะ ดูไม่ไกลเกินเอื้อม แต่พอมาถึงเดือนตุลาคม นายกฯ ก็มาบอกเองว่า จัดเลือกตั้งแน่นอนเดือนพฤศจิกายน 2561 คือห่างไปอีกนิด เอาล่ะ ก็เข้าใจได้ว่าลุงตู่ก็อาจจะมีเหตุผลของลุง เราไว้ใจกันเพราะอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้
แต่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ช้ากว่ากำหนดกลับมีเพิ่มขึ้นมาใหม่อีกแล้ว เมื่อ คสช. ออกคำสั่งฉบับที่ 53/2560 ที่ถึงแม้จะมีรายละเอียดเรื่องปลดล็อคการจัดกิจกรรมของนักการเมือง แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือจริงๆ แล้วมันคือการหลงทำให้ดีใจ เพราะเนื้อหาข้างในมันซ่อนปมการขยับโรดแมปออกไปจากเดิมอีก 2-3 เดือนเลยทีเดียว
และรางวัลนี้ตกเป็นของ… การเลือกตั้งตามสัญญา
เราขอมอบรางวัลนี้ให้กับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ที่แม้ว่าสุดท้ายแล้ว เราก็คงได้แต่จับตากันแล้วจับตากันอีก จับกันจนตากำลังจะบวม ว่าการเลือกตั้งตามสัญญาของลุงตู่ตกลงแล้วจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อีกนานไหม จะตรงตามเส้นทางเดิมหรือไม่ ยังไม่นับรวมว่า ลุงตู่เองก็เคยโยนหินถามทางบ่อยๆ ในการทดสอบคะแนนเสียง หากลุงจะขอเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย กลายเป็นเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆ ที่รัฐบาลและ คสช. ต้องตอบประชาชนให้ได้