เมื่อไหร่จะถึงวันหยุดอีก? สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต (นอกเหนือจากเงินเดือน) คือวันหยุดบนปฏิทิน
ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดราชการและจำนวนวันลาพักร้อน ยิ่งถ้าหยุดติดกันเกิน 3 วันต้องขอพุ่งตัวไปไกลๆ แต่พอหมดเวลาสนุก ความทุกข์คือการกลับมายืนที่เดิม บนโต๊ะทำงานที่คุ้นตา จะดีกว่าไหมล่ะ ถ้าพอสบโอกาส ก็ขอหนีชีวิตมนุษย์เงินเดือนออกไปให้ธรรมชาติบำบัด เพราะความอยากย่อมระงับด้วยการออกเดินทางอีกครั้ง!
อาการออก มันบอกไม่ถูก
อยากนอนตลอดเวลาเพราะมันเหนื่อยเหลือเกิน ตอนแรกก็คิดแค่ว่าตัวเองอ่อนล้าจากการเดินทางหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่แค่นั้น ไหนจะอยากหาอย่างอื่นทำเพื่อหนีความจริง หรือคิดข้ามขั้นกว่าก็ถึงขั้นเซิร์ชทริปหน้ากันแล้ว แต่เราขอเตือนคุณก่อนว่านี่ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด เพราะมีนักวิชาการหลายสำนักที่สนใจค้นคว้าวิจัยอาการต่อเนื่องจาก Post-Vacation Depression ทั้งในเชิงจิตวิทยาและสรีรวิทยา
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า การเดินทางทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ๆ ได้พบเจอสถานที่ใหม่ๆ ผู้คนแปลกหน้า อากาศสบาย และที่สำคัญคือมีความสุขเหมือนอยู่ในภาพฝัน เพราะคือการหลีกหนีออกจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ไม่มีภาระประจำวันให้หนักหัวใจ อยากทำอะไรก็อิสระ และลงลึกเข้าไปยังร่างกาย เมื่อความเครียดลดลง ความดันเลือดก็ลดลง (อ้างอิงจาก Framingham Heart Study) ส่งผลต่อเนื่องถึงระบบประสาทที่ผ่อนคลายเบาสบาย หลับได้ลึกขึ้น แล้วสิ่งเหล่านี้ก็ฉับพลันหายไปในวันที่ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง ความดันเลือดภายในร่างกายกลับมาสูบฉีดเต้นแรงกับสิ่งกระตุ้นและความเครียดรอบด้านอีกครั้ง เป็นสาเหตุสำคัญให้อาการ Post-Vacation Depression อย่างที่เล่าตอนต้นกลับมา
ความอยากย่อมระงับด้วยการออกเดินทางอีกครั้ง
ว่ากันว่าคนเราจะรู้สึกอยากออกเที่ยวอีกครั้งก็ตอนกลับมาถึงบ้านได้ 2-3 วัน อย่างนั้นแล้วเราจะทำให้ความสุขแบบเดียวกับการท่องเที่ยวยังคงอยู่ต่อแม้จบทริปไปแล้วได้ไหม? คำตอบคือได้ แต่ขั้นแรกสุดต้องตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน หรือในแบบรูปธรรมก็ เก็บกระเป๋าเดินทาง เอาผ้าผ่อนออกไปซัก และอีกข้อคือการจัดเวลานอนให้กลับมาเป็นเวลาปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนจะเอ็นจอยกับอดีตก็ทำได้ในแง่ของการเป็นประสบการณ์ที่ดี ได้ดื่มด่ำบรรยากาศแปลกตาแบบที่บ้านเราไม่มี แต่อย่าจมปลักกับมันมากเกินไป หันหน้ากลับมาทำงานที่ต้องทำตรงหน้า ถ้างานมากมายกองตรงหน้าจนสติแตก ก็ถือโอกาสนี้ทำ action plan หรือจัดลำดับความสำคัญของงานให้เป็นคู่มือช่วยในการจัดการการทำงาน
การจัดการกับความห่อเหี่ยวจากการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด คือการตั้งเป้าหมายสำหรับออกทริปครั้งหน้าเสียเลย ความสนุกจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างการวางแผนเปิดแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ทำแบบนี้เป็นลูปให้เหมือนกับงานประจำ ยกตัวอย่างสถานที่ที่ไปไม่ยากเลยก็คือประเทศญี่ปุ่น เพราะทุกเมืองล้วนมีเอกลักษณ์ทั้งจากสภาพภูมิประเทศ แหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมที่เปิดมุมมองให้นักเดินทางได้เจอกับเรื่องราวใหม่เรื่อยๆ แบบไม่มีวันเบื่อ โดยเฉพาะทางใต้แถวเกาะคิวชูที่ยังไม่ค่อยมีใครได้อันล็อกที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ก็เพราะต้องเดินทางหลายต่อ ทั้งเหนื่อยแถมยังหมดวันเที่ยวกับเวลาเดินทาง แต่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ พร้อมพาคุณไปเปิดประสบการณ์กับเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ฟุกุโอกะ ซึ่งตอบความอยากได้ครบทุกข้อ ทั้งความตื่นตาตื่นใจ ญี่ปุ่นมุมใหม่ และความสะดวกสบายไฟลท์เดียวถึง
เข้าเมืองเยอะแล้ว ชวนลงใต้เจอต่างเมืองมองต่างมุม
ชวนคุณหนีเมืองหลวงที่ท่องเที่ยวจากนักรีวิว มาเปิดแม็พใหม่ที่เกาะคิวชู จุดหมายอีกแห่งของญี่ปุ่นที่เราอยากแนะนำให้คุณลองมาท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมสังคมเมืองแบบน่ารักเข้ากับธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์และทุกจังหวัดยังคงเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้อย่างโดดเด่น ความสนุกของการท่องเที่ยวบนเกาะนี้จึงอยู่ที่การค้นหาที่ท่องเที่ยว unseen ที่ถึงชื่อจะไม่คุ้นหู แต่รับรองว่าไม่ทำให้คุณผิดหวัง
เริ่มจากของดีจังหวัดนางาซากิ ที่ปราสาทชิมาบาระ กับจุดชมวิวบนปลายยอดหอคอยที่มองเห็นเมืองแห่งน้ำแห่งนี้ได้ทั่วทั้งเมือง รวมทั้งโดยรอบปราสาทยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งปลาคาร์ฟ ที่น้ำใสมากขนาดที่ว่ามีปลาคาร์ฟแหวกว่ายในร่องน้ำข้างถนนเป็นเรื่องปกติ หากเป็นสายธรรมชาติ ลองไปปักหมุดที่หุบเขาทาคาชิโฮ ในจังหวัดมิยาซากิ หุบเขาที่ลาวาจากภูเขาไฟหลอมละลายบางส่วนจนเปิดเป็นช่องทางให้แม่น้ำลอดผ่าน กลายเป็นทัศนียภาพสวยงามยิ่งใหญ่ เปิดมุมมองที่แตกต่างตามเส้นทางการสำรวจที่เลือก ที่มีทั้งการเดินเท้าและพายเรือ สำหรับสายสวยงาม เราชวนไปสวนดอกไม้บนเกาะโนะโคะโนะชิมะ ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประตูสู่เกาะคิวชู ความพิเศษของสวนดอกไม้แห่งนี้คือทุ่งดอกไม้ที่ผลัดเปลี่ยนผลิดอกหลากหลายชนิดจึงเข้าชมความงามได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาตอนไหนก็จะได้ภาพทุ่งดอกไม้กลับไปแน่นอน
สายน่ารักต้องไม่พลาดการตามหาเจ้าคุมะมง หมีดำทะเล้นแมสคอตของจังหวัดคุมะโมะโตะ กับปราสาทกำแพงหินที่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมือง สายบุญก็ย่อมคู่กับศาลเจ้า และศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากของฟุกุโอะกะนั่นก็คือ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ ศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องการจัดพิธีกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งในเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จ โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียนเตรียมสอบที่มักจะมาไหว้ขอพรที่นี่ หรือถ้าเป็นสายทะเล ขอแนะนำเกาะชิกะ จังหวัดฟุกุโอกะ ชายหาดน้ำใสที่ใช้เวลาอยู่ตรงนั้นได้ตลอดทั้งวัน
Hidden Places ยิ่งอยากไปต้องยิ่งค้นดู
หรือถ้าที่ว่ามาดูจะแมสเกินไป ในเกาะคิวชูยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นให้คุณได้พบกับวิถีชีวิตที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษและยังคงรักษามาจนถึงรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน ยกตัวอย่างถนนสายเซรามิกที่เมืองอะริตะ จังหวัดซะกะ ที่นี่คือแหล่งบุกเบิกการทำงานเซรามิกของญี่ปุ่นมากว่า 400 ปี กระทั่งศาลเจ้าที่นี่ก็ทำจากกระเบื้องเซรามิกและเป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่น และความน่าสนใจอยู่ตรงที่การอนุรักษ์ของรุ่นลูกหลาน ที่นำเอาเทคนิคที่สำคัญของแต่ละบ้านมาเป็นจุดขายของแบรนด์ตน อีกทั้งยังมีการประยุกต์รูปแบบใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย เรียกว่าของเดิมไม่ทิ้งไป ของใหม่ก็ยังคงรากเหง้าเดิม และโดยเฉพาะช่วง Golden Week ของปี ถนนแห่งนี้คือสวรรค์ของคนรักเซรามิก ที่จะเปิดให้คุณได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานเก่าอายุร่วม 100 ปีด้วยตาของคุณเอง
สายฮิปสเตอร์ที่อินกับรองเท้าผ้าใบ เมืองคุรุเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ นับว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสนีกเกอร์ เพราะที่นี่คือต้นตำรับของแบรนด์รองเท้า Made in Kurume ที่ลือชื่อ นั่นก็เพราะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องยาง และการมีการพัฒนาเทคนิคการแปรรูปยางร่วมกับงานฝีมือตลอดเวลาร่วมร้อยปี จนเกิดเป็นรองเท้าผ้าใบคุณภาพสูง และถ้าคุณมาถึงที่คุรุเมะ ก็จะมีรองเท้า limited edition อย่างรองเท้าผ้าใบจากผ้าทอท้องถิ่นในพื้นที่ที่หาได้เฉพาะช็อปในคุรุเมะเท่านั้น
บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ฟุกุโอกะได้เลย
ไปคิวชูไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องต่อหลายเที่ยวให้เหนื่อย เพราะไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ฟุกุโอกะ จากเดิมที่เคยบินตรงสู่ญี่ปุ่นด้วย 4 รูทการเดินทาง จากดอนเมืองสู่โตเกียว ซัปโปโร โอซาก้า นาโกย่า และการบินตรงสู่ฟุกุโอกะครั้งนี้ มาพร้อมกับโปรโมชั่นเปิดตัว ราคารวมเริ่มต้นที่ 2,990 บาทต่อเที่ยว สำหรับสมาชิก BIG และ ราคา 3,030 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป
รีบจองเที่ยวบินก่อนใคร คลิกที่
