120 ครั้งต่อวัน คือตัวเลขที่คนปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ คงไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะตอนนี้กิจกรรม ทั้งดูทีวี จ่ายเงิน หรือการถ่ายรูป เรียกว่าแทบทุกอย่างถูกย้ายมาไว้ในสมาร์ทโฟนหมดแล้ว
โดยเฉพาะการถ่ายรูปที่ทำให้สมาร์ทโฟนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนยุคนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยหรอก ที่ทุ่มเทกับการถ่ายรูป อย่างในต่างประเทศก็ทุ่มเทไม่แพ้กัน จนเกิดไวรัลคลิป ‘Instagram Husband’ จนทำให้เกิดแอคเคานท์อินสตาแกรมน่ารักๆ ที่ชื่อ ‘Boyfriends of Instagram’ ที่มียอดผู้ติดตามกว่าแสนคน เป็นที่รวมเหตุการณ์เบื้องหลังภาพเรียกไลก์ของสาวๆ ที่มักจะมาจากฝีมือแฟนพวกเธอเองนั่นแหละ เช่น การขึ้นโต๊ะปีนบันไดเพื่อให้ได้ภาพมุมท็อปของอาหารหรือนางแบบ การนั่งหรือนอนราบกับพื้นเพื่อเสยกล้องให้ได้มุมที่ขายาวที่สุด (พร้อมใส่แคปชั่น 180 cm.) จนกระทั่งการเดินเที่ยวทั้งวัน มุมนี้ก็น่าถ่ายมุมนั้นก็น่ารักจนเมมโมรี่เต็ม แบตเตอรี่หมด ที่เผลอๆ คนถ่ายก็แบตฯ หมดไปด้วย
เพราะเทคโนโลยีกล้องสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ ได้พัฒนาจนเกือบเทียบเท่ากล้อง DSLR แถมยังถูกออกแบบให้ใช้ง่ายด้วยระบบ Ai และเครื่องมืออัตโนมัติต่างๆ สำหรับแบรนด์สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นเรื่องกล้องก็เห็นจะเป็น Huawei ที่เคยเปิดตัวรุ่น P9 ที่มาพร้อมกับกล้องมาตรฐานระดับ Leica ซึ่ง Huawei เองก็ได้พัฒนาโทรศัพท์พร้อมๆ กับระบบ Ai ที่รองรับการทำงานของเครื่องมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันใน Mate 20 Series ที่เปิดตัวทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าจุดขายหลักของ Mate Series เองจุดขายอาจไม่ได้อยู่ที่กล้องแต่เป็นระบบปฏิบัติการที่ทำให้เครื่องเร็วแรงสุดๆ แต่เราขอหยิบเรื่องกล้องมาพูดถึงกันก่อน ก็เพราะเจ้าเครื่องนี้มาพร้อมเลนส์ถึง 3 ตัว มาดูกันว่ากล้องและระบบอื่นๆ จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างไรบ้าง
ผู้ช่วยถ่ายภาพ รองรับทุกมุมมอง
จากประสบการณ์การใช้กล้องมือถือที่ยังไงๆ เลนส์หรือมุมมองภาพก็ไม่ได้อย่างกล้อง DSLR ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ลองคิดดูว่าเคยเข้าไปในร้านหรือคาเฟ่แคบๆ ไหม เป็นที่ที่เราถอยจนสุดผนัง ก็ยังไม่ได้มุมภาพที่ต้องการด้วยเพราะระยะเลนส์ของมือถือไม่ซัพพอร์ตการถ่าย บางครั้งความใกล้ไกลก็มีผลต่อความรู้สึกนางแบบ คงจะเคยได้ยิน “ถ่ายใกล้ไป เค้าแขนใหญ่เห็นพุงอะตัวเอง” หรือ “ทำไมตัวเองไปยืนไกลจัง มันจะเห็นอะไร” หรือถ่ายหน้าชัดหลังเบลอปรับให้ละลายหลังก็ยังไม่ถูกใจแฟน ก็เพราะสาวๆ น่ะอยากมีรูปสวยๆ พร้อมลุคที่ตั้งใจแต่งมาโชว์ เพื่อจะโพสต์กับแคปชั่น outfit of the day หรือใส่แฮชแท็ก #OOTD ให้ดูเป็นสาวชิคๆ
แน่นอนว่ามือถือสมัยนี้ มักจะมาพร้อมเลนส์ 2 ตัวที่ว่าล้ำแล้ว แต่ใน Mate Series มีเลนส์ถึง 3 ตัวที่ทำงานต่างกันโดยมี เลนส์ระยะปกติสำหรับเก็บภาพได้ทุกสถานการณ์, เลนส์ tele สำหรับเก็บภาพระยะไกล และ Leica Ultra Wide Angle 20MP สำหรับเก็บภาพมุมกว้างในพื้นที่จำกัด ที่ทำงานพร้อมกับระบบ Ai ที่คอยประมวลผลการถ่ายภาพได้ 25 โหมด เช่น Stage Mode ภ่ายภาพบนเวทีหรือจอโปรเจกเตอร์ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่อยู่หลังสุด, Portrait Mode ที่จะปรับให้มีการละลายหลังอัตโนมัติ แถมตัว Mate 20 Pro ใน Series ใหม่นี้ยังมีของเล่นเป็นเคสกันน้ำ (หรือที่บางคนเรียก Housing) ที่พร้อมดำน้ำไปกับเราได้ถึง 5 เมตร พร้อมโหมดถ่ายภาพใต้น้ำที่ซัพพอร์ตการใช้งานของเคส ไปทะเลครั้งหน้าก็ไม่ต้องพกหลายกล้องอีกแล้ว
ผู้ช่วยที่ทำตามสั่ง ทันใจระบบแฟน
หลายคนคงเคยถูกไหว้วาน (หรือถูกใช้) ให้ช่วยทำนู่นทำนี่ขณะใช้มือถือถ่ายรูปอยู่ เช่น เปิดแผนที่ดูจุดถ่ายรูปในขณะที่แฟนสาวเองก็ยังสั่งให้ถ่ายรูปอย่างต่อเนื่องท่ามกลางแดดร้อนในบ่ายวันเสาร์ แต่เธอก็สามารถทำหน้ามีความสุขรับลมรับแดดได้ แต่ก็มีบางทีที่สาวๆ เองก็เคยถูกใช้ให้ดูแผนที่ (ถึงแม้คนที่ใช้จะรู้ว่าเราดูแผนที่ไม่เป็นก็ตาม) หรือจะเป็นถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอพร้อมๆ กัน เพราะยุคนี้ลงแต่ภาพนิ่งไม่ได้แล้ว ต้องลงสตอรี่ในอินสตาแกรมหรือ Vlog ของตัวเองด้วย ยิ่งเพิ่มความลำบากให้กับมนุษย์แฟนเข้าไปอีก ความซวยของเหล่าตากล้องอาจยังไม่หมด ไปเที่ยวอยู่ดีๆ งานดันเข้า จังหวะนั้นคงต้องใช้โทรศัพท์ทำแทนคอมพิวเตอร์ทั้งเช็กอีเมล ตรวจงาน หรือคุยกับลูกค้าไปก่อน ไม่วายแฟนสาวงอนเพราะมาเที่ยวแล้วยังทำแต่งานอยู่อย่างนี้ก็ต้องรีบจบงานให้ไว การใช้งานมือถืออย่างหนักหน่วงนี้ จำเป็นจะต้องมีสิ่งมารองรับความ Multitasking ของคนในยุคปัจจุบัน
Huawei จึงได้หยิบจุดนี้มาพัฒนา CPU เฉพาะตัวออกมาในชื่อ Kirin โดยเจ้า Mate 20 Series มาพร้อมกับตัวล่าสุดอย่าง Kirin 980 ที่มี Ai ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้แรงที่สุดเท่าที่ Huawei เคยมีมา และยังประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย Huawei เขายังบอกอีกว่า ในรุ่น Mate 20 Pro มี Super fast Chage เฉพาะตัว แค่ชาร์จไว้ 30 นาทีก็เพิ่มแบตเตอรี่ได้ถึง 70% ทั้งยังรองรับ Wireless Chager และมี Reverse Chaging ที่สามารถเปลี่ยนมือถือให้เป็น Power Bank ได้ ฟังก์ชันนี้คนมีแฟนอาจต้องระวังเพราะสามารถนำมือถือไปแนบเครื่องอื่น (แบบไม่เลือกแบรนด์) เพื่อชาร์จให้กับอีกเครื่องได้ แต่ถ้ามองอีกมุมสาวๆ เองก็คงจะได้ประโยชน์จากการหยิบยืมมือถือของแฟนมาเติมแบตของตัวเองได้ด้วย ส่วนคนโสดก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะนี่อาจเป็นหนทางใหม่ในการทำความรู้จัก ให้มือถือช่วย Make friend มาเป็นแฟนได้อีกเช่นกัน
ผู้ช่วยที่พร้อมลุยไปได้ทุกที่
ทุกวันนี้ใครๆ ก็ต่างพากันโพสต์ภาพชีวิตดีกับแฟนมาอวดในในโซเชี่ยลฯ กันอยู่เสมอ ถ้าแฟนอยู่ข้างๆ ก็คงต้องมีหันมาบอกกันบ้างแหละว่า “เขาได้ไปเที่ยวที่นี่กันด้วย อยากไปบ้างจังเลย” หรือเห็นคนแท็กแฟนแท็กเพื่อนในเพจท่องเที่ยวที่แสนจะน่าอิจฉา แต่หารู้ไม่ว่า เบื้องหลังของภาพแฟนสาวในชุดบิกินี่ที่โชว์เอวรูปตัว S นอนบนห่วงยางหงส์บ้าง ยูนิคอร์นบ้าง ที่เราเห็นในอินสตาแกรมกันอย่างเพลินตา ก็อาจมีความลำบากของแฟนพวกเธอซ่อนอยู่ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้คือแบบเต็มสูบ ทั้งกล้องฟลูเฟรม เลนส์ครบทุกระยะ แอ็กชันแคมฯ ยังไม่นับพร็อบอีกเพียบ คิดจะพาแฟนบุกป่าลุยไฟไปถ่ายรูปสวยๆ แบบไม่เหนื่อย ก็ต้องพกของให้น้อยไว้ก่อน (เพราะต้องช่วยแฟนแบกกระเป๋าที่เหมือนขนมาทั้งบ้านไปแล้ว) ก็อุตส่าห์เดินไกลมาเพื่อเก็บฉากหลังเป็นทุ่งหญ้า หรือปีนหินเพื่อให้ใกล้น้ำตกทั้งที ก็อย่าให้อุปกรณ์เป็นอุปสรรคในการได้ภาพสวยๆ เลย
เพราะตัวเครื่อง Mate 20 Pro ใน series นี้ ถูกออกแบบมาให้กันฝุ่นและการกระเด็นของน้ำระดับ IP68 ตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขของไอดอลแต่อย่างใด อธิบายก็คือเป็นค่ามาตรฐานการกันฝุ่นกันน้ำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สากล โดยเลข 6 คือลุยในฝุ่นดินทรายได้นาน 8 ชั่วโมง และเลข 8 คืออยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้ 30 นาที จะเห็นได้ว่าเจ้า Huawei Mate 20 Pro นั้นพร้อมขึ้นเขาลงห้วยไปกับเราขนาดไหน ยังไม่รวมฟังก์ชันพร้อมกับ Ai อัจฉริยะที่ Huawei เขาขนมาเต็มใน Mate 20 Series ถ้าฟังก์ชันเยอะขนาดนี้ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้สถิติใหม่ในการปลดล็อคหน้าจอให้เห็นกัน
สำหรับใครที่อยากรู้เรื่องราวของผู้ช่วยนี้เพิ่มเติมก็ดูได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/phones/mate20-pro/
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://consumer.huawei.com/th/phones/mate20-pro/
https://www.taradfilter.com/ip67-vs-ip68-explain/