กลิ่น เป็นหนึ่งในสิ่งที่อธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยากที่สุด
เราจะอธิบายกลิ่นยามเช้าอันแสนสดใส ในวันแรกของการไปโรงเรียนอนุบาล ที่ยังติดอยู่ในความทรงจำให้เพื่อนๆ ฟังได้อย่างไร คนอื่นๆ จึงจะเข้าใจได้ เพราะกลิ่นแตกต่างจากเเสงเเละเสียงอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่นึกภาพออก ไม่ใช่ทำเสียงเลียนแบบให้ฟัง แต่กลิ่นนั้น เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีที่มาปะทะกับประสาทรับกลิ่นของเรา ซึ่งปฏิกิริยาเหล่านี้แหละที่ทำให้เรารับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น กินอาหารอร่อยขึ้น และรับรู้ถึงผู้อื่นได้ด้วยเช่นกัน กลิ่นจึงมีความเกี่ยวพันกับตัวตน อารมณ์ ความรู้สึกของมนุษย์เราอย่างแยกกันไม่ออก
กลิ่นความทรงจำ
เมื่อโมเลกุลของกลิ่นเข้าสู่จมูก และทำปฏิกิริยากับประสาทรับกลิ่น แล้วส่งข้อมูลเข้าไปยังสมอง ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากสมองส่วนที่เรียกว่า ‘ฮิปโปแคมปัส’ ซึ่งเชื่อมต่อกับความทรงจำระยะยาวและอารมณ์ นั่นเป็นเหตุผลที่กลิ่นช่วยปลุกความทรงจำ ที่เราอาจจะลืมไปแล้วให้กลับมาอีกครั้ง การดมกลิ่นจึงไม่ใช่เพียงแค่การทำงานของจมูก แต่เป็นประสาทสัมผัสที่มีสมองมาร่วมด้วยมากที่สุด เมื่อตอนที่เรายังเป็นเด็กทารกแรกเกิด สายตายังค่อนข้างเลือนราง จมูกจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการดมกลิ่นหานมแม่แทนการใช้ดวงตามองหา กลิ่นของแม่จึงเชื่อมโยงกับความทรงจำอับอบอุ่นปลอดภัยในวัยเด็กของเรา ทำให้เมื่อได้กลิ่นที่คล้ายๆ กันเมื่อไหร่ก็ทำให้รู้สึกสบายใจเมื่อนั้น
กลิ่นมีพลัง
“ตัวรับกลิ่น” (Smell Receptor) กว่า 400 ตัวซึ่งส่วนใหญ่แล้วอยู่ในจมูกของเรานั้น ประมาณการกันว่าสามารถรับรู้กลิ่นที่แตกต่างกันได้มากถึง 1 ล้านล้านกลิ่นเลยทีเดียว แต่ละกลิ่นจึงส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของเราต่างกันไป กลิ่นมะนาว หรือส้มช่วยพัฒนาอารมณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ที่ดีขึ้น ช่วยทำให้ทำข้อสอบได้ดีขึ้น กลิ่นของส้ม วานิลลา มีการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความวิตกกังวลได้จริง ส่วนกลิ่นเทียนซินนามอน ก็ช่วยในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักได้ยินว่ามีการพยายามนำกลิ่นต่างๆ ตั้งแต่เบคอนทอดหรือกาแฟหอมๆ มาใช้เป็นตัวช่วยปลุกคนขี้เซายามเช้า ให้อยากลุกจากเตียงมากขึ้นด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ลุกมาปิดเสียงเพราะความรำคาญอย่างที่เคย
กลิ่นกับตัวตน
เราไม่ได้แสดงออกความเป็นตัวเองผ่านรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่กลิ่นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการบ่งบอกความรู้สึกนึกคิดของเราด้วยเช่นกัน Alan R. Hirsch ผู้ก่อตั้ง Smell and Taste Treatment and Research Foundation ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างถึง 18,631 คน แล้วพบว่าบุคลิกภาพกับกลิ่นน้ำหอมที่คนคนนั้นเลือกสัมพันธ์กัน โดยที่เราทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ อย่างน้ำหอมขวดเดียวกัน เมื่ออยู่บนตัวของคนที่ต่างกันก็ให้กลิ่นที่ไม่เหมือนกัน ด้วยอุณหภูมิร่างกาย อาหารการกิน สภาวะแวดล้อมที่แตกต่าง กลไกของกลิ่นซับซ้อนไปกว่านั้น เพราะยังมีกลิ่นของฟีโรโมนที่มีผลต่อแรงดึงดูดเพศตรงข้าม ซึ่งทำงานโดยตรงกับจิตใต้สำนึก ประสาทรับกลิ่น จะส่งสัญญาณไปที่สมองส่วนลิมบิกโดยตรง แปลงเป็นสัญญาณออกมาว่าพึงพอใจบุคคลอันเป็นที่มาของกลิ่นนั้นหรือไม่
กลิ่นกระตุ้นความสดชื่น
Michael Papas นักออกแบบน้ำหอมกล่าวไว้ในการประชุมสมาคมเคมีภัณฑ์แห่งสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 240 ว่า “กระบวนการสร้างสรรค์กลิ่นเข้าไปในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทุกวันนี้ไม่ต่างอะไรกับการรังสรรค์เพลงซิมโฟนี” เพราะนอกจากจะเป็นการใช้ศาสตร์ด้านเคมีเล่นแร่แปรธาตุให้สารต่างๆ ผสมกันแล้วเกิดกลิ่นที่พึงใจเหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการสำรวจลึกลงไปยังพฤติกรรมของผู้บริโภคอีกด้วย อย่างกลิ่นหอมของผลไม้จำพวกซิตรัส ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดปริมาณสารเคมีที่หลั่งออกมาตอนรู้สึกเครียดได้ เมื่อกลิ่นเหล่านี้ถูกจับมาใส่ไว้ในกลิ่นของยาสีฟันจึงมีหน้าที่สำคัญในการให้ความรู้สึกสดชื่นระหว่างและหลังการแปรงฟัน กระตุ้นให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการทำความสะอาดฟัน ซึ่งในยาสีฟัน CURAPROX BE YOU ล้ำไปอีกขั้นด้วย Power Pearls ที่เก็บกลิ่นหอมสดชื่นนี้ไว้ภายในและแตกตัวออกขณะที่เราแปรงฟัน คงความสดชื่นหลังการทำความสะอาดได้อย่างยาวนาน
กลิ่นที่บ่งบอกความเป็นคุณ
เพราะสิ่งที่เราเลือกให้กับตัวเองนั้น จะย้อนกลับมาเป็นตัวกำหนด ทั้งภาพลักษณ์ภายนอก และสุขภาพภายในของเรา เช่นเดียวกับที่หลายคนพูดกันติดปากว่า You are what you eat นั่นแหละ อาหารที่กินเข้าไปก็ส่งผลต่อกลิ่นกาย กลิ่นลมหายใจ ไม่ว่าจะเลือกอะไรให้แก่ตัวเองก็ล้วนแต่สะท้อนความเป็นตัวเราออกมาได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งยาสีฟันที่ใช้เพื่อดูแลเหงือกและฟัน ก็แสดงความเป็นตัวของตัวเองได้เช่นกัน อย่าง CURAPROX BE YOU ยาสีฟันที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวช่วยในการทำความสะอาดแต่ยังมีโปรวิตามินบี 5 ที่ช่วยทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากชุ่มชื้น มี 6 กลิ่นให้เลือกตามคาแรคเตอร์ที่เป็นคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Rising Star (เกรปฟรุตและมะกรูด) Pure Happiness (พีชและแอปริคอต) Candy Lover (แตงโม) Challenger (จูนิเปอร์ เบอร์รี่ Gin tonic และลูกพลับ) Day Dreamer (แบล็กเบอร์รี่และชะเอมเทศ) และ Explorer (แอปเปิ้ลและว่านหางจระเข้)
เปิดประสบการณ์กับความเป็นตัวคุ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.voathai.com/a/nose-job-tk/3433310.html
https://www.rd.com/health/beauty/your-perfume-your-personality/
http://www.dentalcouncil.or.th/public/dental_tips_00005.html
https://www.livescience.com/17279-personality-traits-affect-smell.html
