“ผมมองว่าเรื่อง Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือความจำเป็นที่เป็นทั้งวิกฤตและโอกาส เป็นความรับผิดชอบของทุกคนไม่ว่าระดับประเทศ องค์กร หรือครัวเรือน”
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวไว้ในงานประชุมระดับนานาชาติ GC Circular Living Symposium 2022: Together To Net Zero ที่ผ่านมา
สิบปีที่ผ่านมาคือระยะเวลาที่บ่งบอกเรื่องราวความมุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนของ GC ไม่เพียงแต่เพียงการประกาศนโยบาย แต่เป็นการลงมือปฏิบัติด้วยแนวคิดของหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านความร่วมมือทั้งกับภายในองค์กรเอง รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และชุมชมที่ทำงานร่วมกัน จากการเชื่อมต่อแต่ละจุดเล็กๆ ไปสู่จุดมุ่งหมายใหญ่เดียวกันคือการ Net Zero หรือการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์
จากเรื่องราวบันดาลใจของนักคิด นักทำ และผู้นำความคิดที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์กว่า 40 คนทั้งในและต่างประเทศ ที่มาร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้พลังเล็กๆ พาโลกไปสู่เส้นชัยในการร่วมสร้างสังคม Net Zero ไปด้วยกัน
Connecting the Dots เชื่อมจุดสร้างระบบนิเวศ
ดร.คงกระพันเล่าว่า การเชื่อมจุดต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่เหมือนกับที่วันนี้ GC ได้รวบรวมพาร์ทเนอร์และผู้มีส่วนร่วมมาร่วมกันสร้างไอเดีย ทั้งในระดับองค์กรที่เป็นภาพใหญ่อย่างหน่วยงานพันธมิตร หรือภาครัฐอย่างกรุงเทพมหานคร และระดับสังคม ซึ่งเริ่มจากจุดเล็กๆ แต่ต้องอาศัยพลังที่ยิ่งใหญ่
ในฐานะภาครัฐอย่างกรุงเทพมหานคร คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้เป็นตัวแทนทั้งจากหน่วยงานภาคใหญ่ และตัวแทนของประชาชนกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า คำว่า Net Zero จะต้องปรับให้จริงมากขึ้น
“ผู้คนทั่วไปคงไม่ได้มองภาพไกลไปถึงสามสิบปี พอเราตั้งเป้าหมายที่ใหญ่และยาวนาน ยิ่งทำให้คนเข้าไม่ถึง ข้อแนะนำคือการแบ่งเป้าหมายปลายทางย่อยๆ อย่างการตั้งเป้าหมายที่เข้าถึงได้ในปีหน้าปีถัดไปโดยมีข้อมูลและจุดประสงค์เป็นที่ตั้ง แล้วภาครัฐต้องทำหน้าที่เป็นหลักสำคัญในการสนับสนุนทั้งเรื่องบริการ สาธารณูปโภค และกฎข้อบังคับต่างๆ”
เช่นเดียวกันกับ GC ที่ทำงานกับตั้งแต่ระดับพันธมิตรองค์กรใหญ่ไปจนถึงภาคสังคม สำคัญที่จะต้องตั้งเป้าหมายชัดเจน Together To Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในปี 2050 “หน้าที่ของเรามากกว่าการลดขยะ หรือหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่จะทำให้ผู้คน ไม่ว่าองค์กรเล็ก องค์กรใหญ่ SMEs หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป ได้มีทางเลือกหรือช่องทางที่จะได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ไปด้วยกัน”
อุตสาหกรรมต้นน้ำ กับความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม
GC ในฐานะอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่เป็นต้นทางของกระบวนการผลิตซึ่งนำไปสู่การบริโภค มีแนวคิดในการจัดการกับความท้าทายเพื่อไปถึงปลายทางที่ Net Zero ด้วยความเข้าอกเข้าใจ
“ทุกปัญหาต้องเข้าใจก่อน แล้วความเข้าใจจะนำไปสู่ความเชื่อและพันธสัญญา เราต้องเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่แล้วทำไปทำไม อย่างในเรื่องเป้าหมายที่การลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เรามีหน้าที่ต้องช่วยระบบนิเวศด้วย เราต้องตั้งเป้าที่เป็นตัวเลขที่วัดได้ อย่างการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเราจากเดิมที่ 10 ล้าน เราก็ตั้งเป้าว่าแต่ละปีจะลดเท่าไหร่ในปี 2030 ลด 20% แล้วปี 2050 จะเป็น Net Zero ซึ่งส่วนนี้เป็นเป้าหมายใน Scope 1 และ 2 ในขณะเดียวกันใน Scope 3 เราก็ต้องช่วยลูกค้าช่วยพาร์ทเนอร์ด้วย ก็ช่วยลดได้อีก 50%”
“ข้อสำคัญคือ เราจะต้องไม่สร้างภาระให้คนรุ่นหลัง แต่ต้องสร้างแพลตฟอร์มหรือความสะดวกในการลงมือปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้น แผนการลงทุนหรือวิธีการต่างๆ เราก็ต้องปรับการทำงานในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่การปรับผลิตภัณฑ์ลดคาร์บอน ช่วยได้ 25% ร่วมกับปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานด้วยการใช้ดิจิทัลช่วยลดได้อีก 20% ที่เหลือก็จะเป็นการชดเชยให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่า การทำ Carbon Capture (การดักจับและกักเก็บคาร์บอน) การสร้างทางเลือกในการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการมีแผนในทางปฏิบัติที่ชัดเจน”
ตัวอย่างที่ชัดเจนของการทำงานร่วมกับสังคมคือ การทำงานร่วมกันกับแบรนด์ UPTOYOU ในการสร้างสรรค์ Revife Fiber by GC Upcycling นวัตกรรมเส้นใยจากพลาสติก Upcycling 100% ที่ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วในประเทศ ไปพร้อมกับการปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์เพื่อชีวิตประจำวันของผู้คนที่ใกล้ชิดกับความรักโลกได้มากกว่าที่เคย
ด้วยบทบาทขององค์กรภาคธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศจึงเต็มไปด้วยทรัพยากร สรรพกำลัง ที่จะสามารถประสานงานร่วมมือกับองค์กรขนาดใหญ่ในการเดินทางสู่เป้าหมายนี้ร่วมกัน แต่ขณะเดียวกันทาง GC เองก็ต้องการให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสร้างพลัง สร้างความตระหนัก และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย
รวมพลังผลักดัน Net Zero ในใจทุกคน
ความร่วมมือจากกลุ่มผู้นำความคิดที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ท่านทั้งในและต่างประเทศแตกออกเป็นหัวข้อในงานประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้ในมิติที่ครอบคลุมชีวิตของพวกเราทุกคน
แรงบันดาลใจคือการขับเคลื่อนขั้นต้นที่จะปลุกพลังของผู้คนในหัวใจ อย่างเช่นที่ GC กับโครงการ Hero to Zero เรียนรู้ว่าความช่วยเหลือทีละเล็กละน้อย แต่ละคนพยายามร่วมกัน ทุกคนต่างก็เป็นพระเอกให้กับโลกใบนี้ได้ ก็เป็นประเด็นสำคัญในการเสวนาในครั้งนี้เช่นกัน เริ่มตั้งแต่พลังเล็กๆ อย่างการปลูกผักสวนครัว ไปจนถึงการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ จากตัวแทนองค์กรชั้นนำที่ขับเคลื่อนสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และโชว์เคสจากผู้ที่ริเริ่มลงมือทำ พร้อมกับสร้างทางเลือกให้กับผู้คนเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลกไปด้วยกัน
เพื่อให้เห็นมุมมองของการใช้ชีวิตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในงานมีไฮไลท์ที่การจำลองเมืองที่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero City เพื่อแสดงผลลัพธ์ของโลกในอนาคตให้ผู้คนได้เห็นว่า ผลจากการลงมือทำ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและวิถีชีวิตในวันนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างไร ซึ่งมีการแสดงตัวอย่างนวัตกรรมสีเขียวที่ช่วยให้การใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมเดินควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน จากจิตสำนึกเล็กๆ ของแต่ละแรงรวมพลังนำไปสู่มิติที่หลากหลายในสังคมต่อไปทั้งกับภาครัฐ ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรม
นวัตกรรมในชีวิตประจำวันก็เป็นทางเลือกให้ผู้คนได้อย่างดี ภายในงานมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่เข้าใจและเข้าถึงทุกคนกว่าที่เคย ยกตัวอย่างที่นอนและหมอนจากเนื้อโฟมชนิดพิเศษ Memory Foam, การพัฒนานวัตกรรม Shrink Film จากเม็ดพลาสติก PCR หรือพลาสติกที่ผ่านการบริโภคแล้วกลับมารีไซเคิลเป็นฟิล์มใหม่สำหรับบรรจุภัณฑ์ภายนอก ไปจนถึงรถยนต์ที่พัฒนาส่วนประกอบจากพลาสติกและยางให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นพร้อมกันกับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ส่วนในภาคกลยุทธ์ มีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับบทบาทของภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และสังคมที่ครอบคลุมในทุกมิติด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน พร้อมกับการเจาะลึกการบริหารจัดการสภาวะโลกร้อนจากเคสตัวอย่างขององค์กรธุรกิจชั้นนำ หรือในภาคส่วนของการเงินกับแนวโน้มของโลกธุรกิจในอนาคตกับบทบาทการลงทุนและการขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งแนวคิด กลยุทธ์ และประสบการณ์ที่นำมาแลกเปลี่ยนในหลากหลายสาขา เพื่อผลลัพธ์เพื่อชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน
การจะเดินหน้าไปสู่ Net Zero หรือการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ จึงเป็นภารกิจจำเป็นร่วมกันของคนทั้งโลก เพราะนับเป็นความจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติและโลกใบนี้ จากพลังเล็กๆ ที่ลงมือทำได้ด้วยตัวเอง ประกอบรวมกันเป็นภาพใหญ่ที่โลกอันยั่งยืนของพวกเราทุกคน
“เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องสร้างความตระหนักร่วมกัน ว่าเป็นความยั่งยืนเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ และทุกคนสามารถร่วมมือและช่วยเหลือกันได้ในบริบทและบทบาทของตัวเอง”
“อย่างที่ GC เราพร้อมจะเป็นทำเป็นตัวอย่าง แล้วก็เอื้อมมือไปช่วยผลักดัน ร่วมสร้างระบบนิเวศต่างๆ ให้ผู้คนมามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด เพราะศูนย์ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือเส้นชัยของเราทุกคน”