สองมือของมนุษย์ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราหยิบจับอะไรได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นสองมือที่สรรค์สร้างอารยธรรมต่างๆ ขึ้นมาบนโลกตั้งแต่การเกษตร เรื่อยมาถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนเข้าสู่ยุคของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
วิทยาศาสตร์ได้พามนุษยชาติพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ก่อเกิดเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เรากุมชะตากรรมสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ กระทั่งหนังสือ เซเปียนส์ : ประวัติย่อของมนุษยชาติ ยังบอกว่า “Science made us rulers of the world” และหนึ่งในศาสตร์ที่กำลังท้าทายกฎของธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบันก็คือ Biotechnology
ไม่ใช่หนังไซไฟ แต่นี่คือเรื่องจริง เมื่อวิทยาศาสตร์พาให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของธรรมชาติ ไม่แปลกที่มนุษย์ทะเยอทะยานอยากลองเล่นบท “พระเจ้า” ดูบ้าง
วันนี้ The MATTER จะพาไปสำรวจ Biotechnology จากจากมันสมองและสองมือของมนุษย์ที่ทำให้เรามีอำนาจเปรียบดั่งพระเจ้า และนั่นก็เป็นมือเดียวกันที่กุมอนาคตของมนุษยชาติเองด้วย
Biotechnology อำนาจวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นพระเจ้า
รู้ไหมว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ยังเหลือรอดอยู่ในสกุล Homo โดยเป็นเผ่าพันธุ์ถือกำเนิดขึ้นมาในทวีปแอฟริการาว 200,000 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะพัฒนาสติปัญญาจนก้าวข้ามกฎการคัดสรรตามธรรมชาติมาได้จนถึงปัจจุบัน
หลักฐานชั้นดีคือการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขา ทั้งชีววิทยา จุลชีววิทยา พันธุศาสตร์ ชีวเคมี ฯลฯ มาผสมผสานกับศาสตร์สาขาอื่น เช่น วิศวกรรม เกษตร แพทย์ และคอมพิวเตอร์ เพื่อประยุกต์ใช้กับยีน DNA และเซลล์ของ “สิ่งมีชีวิต” เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า Biotechnology
และเจ้า Biotechnology นี่เองที่ทำให้มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติเสมือนว่ามนุษย์ได้ลองรับบทพระเจ้า ซึ่งเราจะอธิบายผ่าน “The Three necessary properties” of God นี้
God is all loving วิทยาศาสตร์ที่คืนชีวิตให้กับมนุษย์เสมือนพระเจ้าผู้เมตตาทุกคน
ธรรมชาติอาจสร้างโรคร้ายขึ้นมาเพื่อจำกัดประชากรมนุษย์ ทว่ามนุษย์กลับไม่ยอมจำนนต่อโรคร้ายและความมืดบอด แถมยังต่อสู้กลับด้วยวิทยาการชีวภาพ เปิดประตูสู่หนทางการรักษาโรคร้ายต่างๆ ที่ไม่คิดว่าจะหายได้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี CRISPR ความหวังใหม่ของการรักษาโรคมะเร็งในระดับสารพันธุกรรม ผ่านเทคนิคการตัดต่อ ตัดแต่ง หรือปรับเปลี่ยน DNA เพื่อให้เซลล์ร้ายค่อยๆ หายไปจากร่างกาย หรืออย่างบริษัท Editas Medicine ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการทดลองเพื่อรักษาอาการตาบอดและโรคหายากด้านจอประสาทตา เพื่อคืนสายตาผู้ป่วยให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง
God is all knowing วิทยาศาสตร์ที่เปิดเผยความลับธรรมชาติให้กับมนุษย์เสมือนพระเจ้าผู้รู้ทุกสิ่ง
จะว่าไปแล้วการค้นพบโครงสร้าง DNA ก็เปรียบเสมือนการเข้าใจพิมพ์เขียวของการสร้างมนุษย์ เพราะรหัสพันธุกรรมนี้เป็นตัวเก็บความลับมากมายที่ซ่อนอยู่ในตัวเรามาโดยตลอด
หนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์อย่าง The Human Genome Project หรือการถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อสร้างฐานข้อมูลทางพันธุกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เข้าใจว่าธรรมชาติมีกระบวนการสร้างมนุษย์เราอย่างไร ทั้งหนทางการมีสุขภาพดีหรือทำนายการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ นำมาซึ่งการปฏิวัติของวงการวิทยาศาสตร์ ทั้งด้านชีววิทยา พันธุวิศวกรรม และทางการแพทย์ทีเดียว ยกตัวอย่าง Illumina บริษัทนวัตกรรมการอ่านพันธุกรรม ที่ใช้วิธีการตรวจหาลำดับเบสใน DNA เพื่อวิจัยการสร้างวัคซีนป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ในอนาคต
การมี Biotechnology นับเป็นการเข้าถึงความรู้ใหม่ๆ ที่มนุษย์ไม่เคยได้รู้มาก่อนนั่นเอง
God is all powerful วิทยาศาสตร์ที่มอบอำนาจให้กับมนุษย์เสมือนพระเจ้าผู้ทรงพลัง
ใครจะนึกว่าวันนึงเราจะสามารถสร้างกระดูกของมนุษย์ชิ้นใหม่ขึ้นมาได้จากในห้องแล็บ Epibone บริษัทสตาร์ทอัปใน New York ได้ใช้วิศวกรรมชีวการแพทย์สกัดเอา Stem Cells จากไขมันมาปลูกเลี้ยงในโครงเลี้ยงเซลล์ให้มีขนาด รูปร่างตามที่ผู้ป่วยต้องการโดยไม่ต้องพึ่งพาการตัดกระดูกจากส่วนอื่นของร่างกายหรือใช้วัสดุทดแทนอย่างเดิมอีกแล้ว
อีกหนึ่งอำนาจคือการใช้นวัตกรรมในการสร้างอาหารรูปแบบใหม่ที่ดียิ่งกว่าที่ธรรมชาติสร้างมาให้เรา ตลอดไปจนถึงการต่อสู้กับวิกฤติขาดแคลนอาหาร เช่น Mosa Meat บริษัทด้านเทคโนโลยีอาหารที่ผลิตเนื้อจากเซลล์เพาะเลี้ยงในแล็บ ต่อยอดมาจากงานวิจัย Cultured Meat จาก Maastricht University ประเทศเนเธอร์แลนด์ทำให้เราอาจไม่จำเป็นต้องกินอาหารจากการฆ่าสัตว์อีกต่อไป
หรือใกล้ตัวเราอีกหน่อยกับ IncreBio (หรือชื่อเดิมคือ Juiceinnov8) Deep tech สตาร์ทอัปไทยที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการลดน้ำตาล (Sugar Reduction Technology) ในน้ำผลไม้ด้วยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนาสายพันธุ์จุลินทรีย์ธรรมชาติและวิศวกระบวนการชั้นสูงในการควบคุมให้เชื้อจุลินทรีย์ย่อยน้ำตาลในน้ำผลไม้จนเกิดเป็น Incredible™ Juice น้ำผลไม้ปราศจากน้ำตาลครั้งแรกของโลก จนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน World’s Changing Ideas ของ Fast Company ในปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดบริษัทได้พัฒนา Incredible™ Sparkling Juice น้ำผลไม้สปาร์คกลิ้งที่มีน้ำตาลและแคลอรี่น้อยกว่าแบรนด์อื่นในท้องตลาดกว่า 75% ออกสู่ตลาดในช่วงต้นปี นับเป็นนวัตกรรมที่สามารถพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลกในอนาคตอันใกล้
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องจริงที่มือคู่นี้กำลังให้อำนาจมนุษย์ไม่ต่างอะไรกับพระเจ้า ทั้งการควบคุมโชคชะตา ท้าทายธรรมชาติ และเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของโลก แต่นั่นก็ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่พร้อมเอื้อประโยชน์แก่มนุษยชาติด้วยเช่นกัน
พบอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่สร้างสรรค์ด้วยมันสมองและสองมือของคนไทยได้ที่ https://www.drinkincredible.com
นับจากนี้คือความท้าทายและน่าติดตามต่อไปว่า หลังจากนี้มนุษย์สร้างความมหัศจรรย์อะไรผ่านมือคู่นี้อีกบ้าง?