ในยุคสมัยนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาจะไปไหนหรือทำอะไร ‘การเดินทาง’ มักจะกลายเป็นปัจจัยแรกที่ใครๆ ต่างก็กังวล
เพราะในขณะที่รถไฟฟ้าทั่วกรุงยังไม่เสร็จดี ทางลอด ทางแยกหรือสะพานข้ามก็ยังปิดปรับปรุง ระบบขนส่งที่เชื่อใจไม่ค่อยได้ คุณภาพของการเดินทางอันย่ำแย่จึงทำให้ใครหลายคน เลือกที่จะอยู่บ้านไม่ออกไปไหนดีกว่า
แต่อย่างว่า ถ้าเป็นเรื่องการทำงานหรือธุระ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคบนท้องถนนออกไป ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นเรื่องของความบันเทิงหรือการพักผ่อน อย่างการดูหนัง ทำไมจะต้องทำตัวเองให้เหนื่อย เพื่อเดินทางออกไปพักผ่อนนอกบ้านอีกด้วยเล่า
เรียกว่าถึงแม้จะเป็นยุคสมัยที่ทำให้คนเกลียดการเดินทาง แต่ด้วยความล้ำของนวัตกรรม และเทคโนโลยีตอนนี้ กลับเปลี่ยนบ้านให้สามารถดูหนัง เสพความบันเทิงระดับ 4K ได้อย่างไม่ยากเย็น กลายเป็นยุคสมัยของคนชอบอยู่บ้านได้อย่างแท้จริง
บ้านที่ตอบโจทย์ความบันเทิง
เคยมีคนบอกไว้ว่า‘บ้าน’ คือสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าเป็น Comfort Zone ของแท้ เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ที่เราใช้ชีวิตอยู่มากที่สุดแล้ว บ้านยังเป็นสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจยามอยู่มากที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ของคนชอบอยู่บ้าน คือการต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมที่จำเจทุกๆ วัน ทำให้ต้องดิ้นรนออกไปพักผ่อนนอกบ้านเป็นทางเลือกสุดท้าย ก่อนจะเจ็บช้ำกลับมาจากการเดินทางอันแสนสาหัสในเมืองอยู่เสมอ หนทางเยียวยาที่ดีที่สุด จึงเป็นการปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะแก่การพักผ่อน จูงใจให้เราอยากจะอยู่บ้านไม่อยากออกไปไหน
นั่นจึงทำให้การดีไซน์บ้านยุคใหม่ จึงไม่ได้ตอบสนองแค่การอาศัยอยู่เพียงอย่างเดียว แต่ยังตอบสนองความต้องการการใช้พื้นที่ภายในบ้านเพื่อความบันเทิง และการพักผ่อนอีกด้วย เทรนด์ของ Smart Home จึงบูมขึ้นมาอย่างมากในไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียง ที่กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด จนมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2020 ที่ Smart Device จะครองโลก กว่า 50% ของการค้นหาจะถูกค้นหาผ่านเสียงเป็นหลัก ทำให้เราสามารถนอนดูหนัง แล้วสั่งอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านให้เปิด ปิด หรือเลือกเล่นหนังที่ต้องการ เพียงเอ่ยปากพูดเท่านั้น
มหาศาลคอนเทนต์พร้อมเสพ
ถึงแม้อินเทอร์เน็ตจะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ความบันเทิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างการดูหนัง กลับยังจำกัดอยู่กับความเป็น Physical คือถ้าอยากจะดูหนังใหม่ก็ต้องเดินทางไปดูที่โรงหนัง โอเคถึงแม้ว่าโรงหนังอาจจะมีอยู่แทบทุกมุมเมือง แต่อย่างที่บอก อุปสรรคเรื่องการเดินทางก็ยังเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ยังกังวลอยู่ ยังไม่รวมถึงปัญหาเรื่องรอบฉายที่อาจไม่ได้ตรงกับเวลาที่เราสะดวกนัก จึงทำให้พลาดหนังที่อยากดูจริงๆ ไปอย่างน่าเสียดาย แถมกว่าจะรอแผ่นดีวีดีหรือบลูเรย์ออกอีกหลายเดือน ก็อาจทำให้ความอยากดูหมดไปแล้วก็ได้
จนเมื่อเกิดการบริการดูหนังแบบ Online Streaming ขึ้นมา โลกของการดูหนังก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะคอนเทนต์หนังคุณภาพกลับสามารถเปิดดูได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านของตัวเอง ส่งผลให้แค่ในอเมริกา เมื่อปี 2017 Home Entertainment Devices มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 5% หรือกว่า 20.5 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ยอด Subscription หรือค่าบริการรายเดือนของ Online Streaming เติบโตขึ้นถึง 31% หรือกว่า 9.5 พันล้านเหรียญ แถมผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Netflix ก็เอาใจนักดูหนังทั่วโลก ด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์แบบออริจินัลของตนเองที่เรียกได้ว่าสดใหม่กว่าฝั่งฮอลลีวูดไปแล้ว ยังไม่รวมถึงคอนเทนต์ที่เอาใจคนเอเชียอย่างเราๆ มากขึ้น ทั้งตัวละครและเนื้อหา และการดีลกับผู้สร้างภายในประเทศต่างๆ ร่วมลงทุนผลิตซีรีส์ที่เป็นออริจินัลของแต่ละประเทศเองอีกด้วย ทำให้หลายคนเกือบลืมความรู้สึกของการเข้าโรงหนังไปแล้ว
ภาพและเสียงเทียบเท่าโรงหนัง
นอกเหนือจากเรื่องบ้าน และคอนเทนต์มหาศาลใน Online Streaming แล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจที่ Home Entertainment Devices หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความบันเทิงทั้งหลายจะมียอดขายเติบโตขึ้นทุกปี แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำๆ ที่พัฒนาไม่เคยหยุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านมากขึ้นส่งผลต่อเนื่องไปยังเทรนด์การดีไซน์เครื่องใช้ไฟฟ้าในยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคก่อนมาก ทั้งขนาดที่เล็กลง ฟังก์ชันที่หลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้ตามใจ และที่สำคัญคือราคาที่ถูกลง ตอบสนองกับความต้องการที่มากขึ้น เอาง่ายๆ อย่างทีวีเองที่บางเฉียบ แถมดีไซน์ยังสวยงามไม่ต่างอะไรกับเฟอร์นิเจอร์หรูๆ สักชิ้นเลยทีเดียว
แต่นั่นยังไม่เจ๋งเท่ากับคุณภาพของภาพ และเสียงที่ได้จากทีวี LG OLED TV และ LG SUPER UHD TV รุ่นใหม่ล่าสุดจาก LG ที่ให้ภาพคมชัดเสมือนจริงระดับ 4K และ HDR เพิ่มมิติสีสันและความสว่างให้ภาพดูมีชีวิตชีวาสมจริงในทุกอณูของการแสดงภาพ และระบบเสียง Dolby Atmos กระจายเสียงรอบทิศทาง 360 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์ในการดูหนังไม่ต่างจากโรงหนังเลยทีเดียว และยังเพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน ThinQ AI ตอบสนองความเป็น Smart Home ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง แถมยังมาพร้อมกับแคมเปญ COME CLOSER TO THE SHOWS YOU LOVE* ให้คอซีรีส์ของ Netflix ได้เสพคอนเทนต์คุณภาพที่รองรับกับระบบ 4K เต็มพิกัดนานถึง 6 เดือนอีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ยังอยากจะออกไปดูหนังนอกบ้านอีกไหม
*ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2561 เฉพาะทีวีที่ร่วมรายการ คอนเทนต์ 4K และ HDR มีข้อจำกัด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lg.com/th/lg-netflix
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://eugenechrinian.wordpress.com/2018/01/25/this-is-how-home-entertainment-centers-are-changing/
https://deadline.com/2018/01/u-s-home-entertainment-spending-rises-to-20-5-billion-1202239252/
https://www.twice.com/blog/6-most-lucrative-home-theater-trends-2018