หลังจากผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงหลัง 1930 สงครามทำให้ผู้คนทั้งหิวโหยทางกายและโหยหาทางจิตใจโดยเฉพาะฟากฝั่งงานดีไซน์การโหยหาอิสรภาพสีสันในชีวิตและความเบ่งบาน
เป็นเหมือนกับบททดสอบให้นักออกแบบได้สร้างสรรค์ผลงานบนปัจจัยของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด จนเกิดเป็นงานแนวโมเดิร์น งานออกแบบที่เน้นการสร้างฟังก์ชั่นให้เกิดอรรถประโยชน์สูงสุดโดยใช้เส้นสายแบบเรียบง่ายที่สุด
เบื้องหลังความคิดของเส้นสายเรียบๆคือการแหกขนบจากงานรุ่มรวยสไตล์คลาสสิคของยุคก่อนหน้าด้วยการตั้งคำถามกับรูปฟอร์มว่าลวดลายยังจำเป็นหรือไม่? งานดีไซน์แบบเรียบๆจะสร้างความงามได้ไหม? จะบริหารจัดการอย่างไรให้ทรัพยากรที่จำกัดทั้งเรื่องเงินและแรงงานฝีมือสร้างชิ้นงานที่่มีคุณภาพทัดเทียมกันได้ทั้งหมด?
ความเป็นตัวตนมหัศจรรย์ของยุค Mid-Century Modern
ใครจะคิดว่าแค่เส้นตรงไม่กี่เส้นหรือรูปทรงโค้งมนก็บอกได้แล้วว่างานนี้เป็นงานออกแบบของใคร การที่เหล่าดีไซเนอร์สามารถสร้างลายเซ็นของตัวเองจากเส้นเรียบง่ายบนงานสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์คือความมหัศจรรย์ของยุค Mid-Century Modern ส่วนหนึ่งต้องยกผลประโยชน์ให้กับสำนัก Bauhaus ของ Walter Gropius ที่หยั่งรากฐานในเรื่องความตรงไปตรงมาให้ดีไซเนอร์ผู้กล้าเหล่านี้กล้าที่จะแหกขนบจากงานแบบเดิมๆและสร้างชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างสมภาคภูมิ
ผลงาน Mid-Century Modern สร้างความเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก รวมทั้งในไทย เช่น อาคารรัฐสภา อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มอาคารศาลฎีกา รวมทั้งอาคารพาณิชย์ในย่านสุขุมวิท เช่น Rex Hotel และ อาคารรัชต์ภาคย์ ส่งแรงกระเพื่อมให้คนไทยในยุคนั้นได้รับทราบว่าการเปลี่ยนแปลง และโลกาภิวัตน์ได้มาถึงแล้ว
โลกเปลี่ยนไป คนเปลี่ยนตาม
การถือกำเนิดของ Beatnik และ ความ Unique เมื่อผู้คนเริ่มค้นหาสิ่งที่หลงใหล เติมเต็มรสนิยม
ช่วงเวลาหลัง 1930s ที่วัฒนธรรมทั่วโลกเกิดความผันผวนนี้เอง ที่กลุ่มคนหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่ง กล้าลุกขึ้นมาฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ มองหาปรัชญาใหม่ๆในการดำรงชีวิต ในขณะเดียวกันก็สลัดภาพนักปรัชญาที่คงแก่เรียน เป็นคนยุคใหม่ที่มีความเฉียบคมทั้งเรื่องแฟชั่น ศิลปะ บทกวี และ ดนตรี โดยเฉพาะดนตรีแจ๊ส ซึ่งเน้นความ “น้อยแต่มาก” “ง่ายๆ แต่มีความหมาย” ผู้คนต่างตั้งชื่อให้กับพวกเขาว่ากลุ่ม Beatnik สัญลักษณ์ที่เป็นเหมือนตราประทับของพวกเขาคือการแต่งกายสีดำล้วน เสื้อลายขวาง พร้อมหมวกเบเรต์ เหมือนกับ Jo Stockton สาว Beatnikในภาพยนตร์ Funny Face (1957) แสดงโดย Audrey Hepburn
Beatnik ไม่ใช่เรื่องของเพศหรือวัยแต่เป็นตัวตนที่โดดเด่นไม่เหมือนใครความเป็นนักคิดคือหนึ่งในบุคลิกของ Beatnik เมื่อหลงใหลในเรื่องอะไรมากๆเข้าคุณก็พร้อมที่จะกระโจนลงใส่มันแบบเต็มตัวและคิดเพื่อสร้างความสนุกใหม่ๆให้กับมันอยู่เสมอ Beatnik จึงเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ๆทั้งในเรื่องแนวคิดสไตล์และงานดีไซน์
แม้ว่าความนิยมในวัฒนธรรม Beatnik ในปัจจุบันจะลดลง แต่ความ Unique และความกล้าในแบบ Beatnik ยังคงส่งต่อมาถึงปัจจุบันผ่านงานไลฟ์สไตล์และสิ่งก่อสร้าง เช่น BEATNIQ – คอนโดมิเนียมที่เกิดจากการนำเอาคำว่า Beatnik และ Unique มารวมกัน เกิดเป็นโครงการ Luxury ที่ฉีกกรอบความหรูหรา โดดเด่นด้วย Façade ทรงเรขาคณิตสไตล์ MCM ที่มีความโดดเด่น ดึงดูดสายตาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมา
Sukhumvit 32
ชีวิต Mid-Sukhumvit แบบสงบและมีสไตล์
เมื่อสิ่งที่ดีที่สุดคือเรื่องจำเป็นที่สุดของชีวิต ย่านที่่ชื่นชอบและถูกใจจึงสมควรอย่างยิ่งต่อการเป็นโลเคชั่นของที่พักอาศัย และที่ BEATNIQ ‘Brand New Unique Luxury Condo’ คือคำตอบของการใช้ชีวิตที่โดดเด่นไม่เหมือนใครข้อแรกคือโลเคชั่นที่อยู่ถนนเส้นหลักสุขุมวิทใกล้กับรถไฟฟ้าทองหล่อไลฟ์สไตล์ และชีวิตประจำวันจึงกลายมาเป็นเรื่องเดียวกัน มองกว้างออกมาอีกนิดทำเลที่ดี ย่อมมาพร้อมสิ่งแวดล้อมคุณภาพและร้านค้าที่เสิร์ฟความต้องการของคุณได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำในแบบคนรุ่นใหม่ ความฮิปที่ไม่เหมือนย่านไหนในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังความสงบสบายในแบบสุขุมวิท
ความมีสีสันทั้งวันทั้งคืนคือเสน่ห์ของ Mid-Sukhumvit ช่วงเช้าเวลาของสุขภาพกับการเดินทางไปสวนเบญจสิริที่ห่างเพียงป้ายรถไฟฟ้าเดียว และร้านอาหารมังสวิรัติร้านดังที่เสิร์ฟไลฟ์สไตล์ของสายเฮลตี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Mid- Sukhumvit คือดินแดนมหัศจรรย์กับร้านอาหารและร้านกาแฟมากมายที่ต่างก็มีสไตล์เป็นของตัวเองตั้งแต่วินเทจไปจนถึงจี๊ดจ๊าดตกค่ำก็มีพื้นที่แฮงก์เอ๊าต์ไม่ว่าจะเป็นสายชิลหรือสายตื๊ดก็เลือกเสพได้ตามอารมณ์ในตอนนั้น
นอกจากจะมองในแง่การเป็นที่อยู่อาศัยในแง่การลงทุนก็นับว่าจุดนี้คือทำเลทอง ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้ชีวิตซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนกรุงเทพฯ ในส่วนคอนโดมิเนียมแน่นอนว่าในย่านนี้การแข่งขันสูงสุดเห็นจะเป็นเรื่องงานดีไซน์จึงเป็นข้อดีที่ทำให้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจริญตาเจริญใจยิ่งมาพร้อมสไตล์ของงานออกแบบและตกแต่งภายในพื้นที่อาศัยแล้วแน่นอนว่าคน Mid-Sukhumvit ย่อมเลือกงานดีไซน์ที่ดีที่สุดให้กับห้องของตัวเอง
Floor 32
เปิดไลฟ์สไตล์เมืองได้อย่างเต็มตา
ความคึกคักและแสงสีที่ไม่มีวันหลับใหลของ Mid-Sukhumvit เป็นบรรยากาศที่ BEATNIQ – Brand New Unique Luxury Condominium อยากดึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่นี่บนจุดชมวิว Landscape Sky Garden ชั้น 32 การใช้ชีวิตทุกวันที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อทั้งจากวิวพานอรามา และกิจกรรมที่คุณเลือกได้ตามตัวตนของคุณเอง
หากคุณคือคนรักสุขภาพ ก็มีตัวเลือกของกีฬาที่หลากหลาย เช่น โยคะชกมวยฟิตเนส และสระว่ายน้ำ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่เปิดมุมมองวิวออกถึง 180 องศาพร้อมพื้นที่สุดชิวบน Floating Pool Pavilion ส่วนสายรีแล็กซ์บนพื้นที่คุณภาพแห่งนี้ ก็มีทั้งพื้นที่พักผ่อนแบบเอ๊าต์ดอร์ หรือจะแช่น้ำร้อนแบบอินดอร์ก็มี Heated Spa Pool ที่ชั้น 34
งานดีไซน์คือหลักใหญ่ใจความในการสร้างรสนิยม และซึมซับสุนทรียะ เข้าสู่การใช้ชีวิตตั้งแต่งานดีไซน์ตัวสถาปัตยกรรมในแบบ Mid-Century Modern Design ความเรียบง่าย แต่งดงามซึ่งแฝงความหมายของความเป็นตัวเองของยุคสมัย แสดงออกผ่านฟาซาดส่วนปกคลุมอาคารที่ทั้งสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และมีฟังก์ชันตอบสนองกับคอนเซ็ปต์แบบโมเดิร์น โดยยังคงเน้นในเรื่องคุณภาพของการก่อสร้าง และวัสดุที่ได้มาตรฐานคุณจึงสามารถเอ็นจอยชีวิตได้อย่างมั่นใจ
เข้ามาสู่งานออกแบบภายในอาคารที่เปิดกว้างพื้นที่พักผ่อนด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ร่วมไปกับการจัดสรรเลย์เอ๊าต์แปลนภายในห้องให้กว้างขวาง และยืดหยุ่นตามรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างตามนิสัยของแต่ละคน โดยยังคงเน้นงานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่คงคุณค่าในแง่ดีไซน์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นพร้อมสไตล์ เพราะชีวิตที่สมบูรณ์แบบรอบด้านคือสิ่งที่ทุกคนถวิลหา
มาสัมผัสประสบการณ์จริงได้ที่งาน THE OPEN HOUSE 22-23 กันยายนนี้ที่คอนโด ‘บีทนิค’ สุขุมวิท32
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ #LivetheNotableLife https://bit.ly/2x4E4KH