ช่วงที่ผ่านมานี้ การวิ่งมาราธอนกลายเป็นกระแสที่ฮอตฮิตติดลมบนในหมู่คนรุ่นใหม่ ยิ่งเมื่อบวกกับกระแสการใช้ชีวิตอย่างพิถีพิถันมากขึ้น โดยเฉพาะการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอันเปรียบเสมือนเป็นปัจจัยตั้งต้นของการอยู่ดีกินดีของคนเรา
เราจึงเห็นนักวิ่งทั้งเก่าและใหม่พร้อมใจกันลงสนามมาราธอนอย่างคึกคัก เพราะมาราธอนไม่ใช่แค่ความแข็งแรงที่มาจากวินัยในการฝึกซ้อมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความมุ่งมั่นและการมีเป้าหมายเพื่อเอาชนะทั้งกายและใจของตัวเองในระยะทางกว่า 42 กิโลเมตร
กายพร้อม ใจพร้อม
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันใด มาราธอนระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ก็ไม่ได้เริ่มวิ่งง่ายๆ ภายในวันเดียวฉันนั้น ยิ่งเมื่อเริ่มออกสตาร์ทด้วยสมรรถภาพทางร่างกายที่ไม่เหมือนกัน กับระยะทางที่ไม่ใช่แค่การวิ่งเล่นๆ การเตรียมพร้อมร่างกายให้ค่อยๆ ไต่ระดับสะสมระยะทางจนเคยชินจึงเป็นเรื่องสำคัญ การเรียนรู้จากร่างกายตนเองรวมถึงการฝึกวิ่งอย่างจริงจังจึงกลายมาเป็นหนทางของการพัฒนาประสบการณ์ทางร่างกาย รวมทั้งการปรับเพิ่มระยะทางการวิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วคงที่ เช่น จาก 20 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ไปเป็น 30 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ จะทำให้ร่างกายของเราค่อยๆ เคยชินสำหรับการแข่งขันระยะไกล โดยต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการซ้อมวิ่ง เพราะหากเราไม่ฝึกซ้อมหรือเตรียมร่างกายให้พร้อมก็อาจเกิดอาการบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายจากการวิ่งได้
และแค่กายอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอกับการวิ่งมาราธอน ใจก็ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจไปให้ถึงเป้าหมาย กายกับใจจึงต้องเป็นเรื่องที่ก้าวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต่างจากการ “ลงทุน” ที่ความพร้อมต้องมาก่อนเสมอ ทั้งความพร้อมในเรื่องของการเรียนรู้สิ่งที่เราจะลงทุน ความตั้งใจ และวินัยในการลงทุน ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้สำเร็จ
เป้าหมาย ระยะเวลาที่เหมาะสม และความสม่ำเสมอ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “นักวิ่งมาราธอน” ถึงเส้นชัยดังที่ตั้งใจก็คือการมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีระยะเวลาการฝึกซ้อมที่เหมาะสม และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนี่ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “นักลงทุน” ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจเช่นกัน
ในส่วนของ “เป้าหมายที่ชัดเจน” นั้น นักวิ่งมาราธอนทุกคนต่างทราบดีว่าปลายทางที่พวกเขาต้องไปให้ถึงก็คือเส้นชัย เฉกเช่นในโลกของการเงินที่นักลงทุนต่างต้องการตัวเลขในพอร์ตการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งอาจหมายถึงการมีเงินพอใช้ยามเกษียณ ความสามารถในการส่งลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญาโท หรืออาจเพียงแค่ต้องการอิสรภาพทางการเงิน โดยเป้าหมายเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากนักวิ่งไม่มี “ระยะเวลาการฝึกซ้อมที่เหมาะสม” หรือนักลงทุนไม่มีระยะเวลาเพียงพอให้เงินได้ทำงาน เพราะในวันเริ่มต้นหลายคนมักมีความโลภ (วิ่งด้วยระยะทางไกลๆ ฝืนร่างกายตัวเองในวันแรกที่ฝึกซ้อม จนบาดเจ็บ หรือลงทุนจำนวนมาก เกินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ เพื่อหวังให้ถึงเป้าหมายการเงินโดยเร็ว จนอาจขาดทุน) หรือบางคนอาจเริ่มต้นด้วยความกลัว (ไม่เริ่มวิ่งซักที มีข้ออ้างสารพัด หรือไม่ลงทุนสักทีด้วยเหตุผลว่าไม่พร้อม มีเงินน้อย)
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ “การฝึกฝน (ลงทุน) อย่างสม่ำเสมอ” ค่อยๆ ฝึกฝีเท้าทีละนิด เพิ่มลิมิตตัวเองทีละหน่อย หรือลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้เรื่องการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับร่างกาย จิตใจ และเงินลงทุนของตัวเอง
สมดุลชีวิต สุขภาพดี-การเงินดี
แม้การวิ่งระยะไกลอย่างมาราธอนจะทำให้เราเสี่ยงกับความเหนื่อยล้าและการบาดเจ็บของร่างกาย แต่ระยะทางกว่า 42 กิโลเมตร ก็เป็นความเสี่ยงที่คุ้มทุนเมื่อเราพิชิตเส้นชัยด้วยกายและใจของเราสำเร็จ ซึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขเช่นนี้คงมีแต่เหล่านักวิ่งเท่านั้นที่จะสัมผัสได้ เช่นนี้แล้วหัวใจของการวิ่งมาราธอนซึ่งเกิดมาจากการวิ่งตรงสู่เป้าหมายอย่างไม่ย่อท้อด้วยความสม่ำเสมอของก้าววิ่ง จึงไม่ต่างอะไรกับโลกของการลงทุนในกองทุนรวมที่เปิดโอกาสให้เราได้วิ่งตรงสู่เป้าหมายการเงินที่ต้องการด้วยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เริ่มต้นจากเงินจำนวนน้อย (เพียงแค่หลักร้อย) สู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
หากการวิ่งมาราธอนทำให้สุขภาพดีทั้งกายและใจฉันใด การลงทุนย่อมทำให้อีกด้านที่เหลือซึ่งก็คือสุขภาพการเงินดีขึ้นฉันนั้น และหากต้องการเพิ่มความเข้มแข็งและสมดุลให้กับการเงินบ้าง ลองศึกษาการลงทุนในกองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3) ของบลจ.กสิกรไทย (KAsset) ที่ผสมสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างสมดุล (โดยกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ เงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และทองคำ) จึงช่วยกระจายความเสี่ยงเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ต้องมีความพอดี ไม่เร่งรัดหักโหม แต่ต้องอาศัยวินัยในการฝึกซ้อมเพื่อสร้างความเคยชินและป้องกันการบาดเจ็บของร่างกาย ส่วนการมีเป้าหมายในการวิ่งด้วยระยะทางที่ชัดเจนก็ไม่ต่างกับการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนระยะยาว เนื่องจากกองทุน K-PLAN3 สามารถลงทุนในหุ้นได้สูงสุดถึง 55% อีกทั้งยังเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 30% จึงหมายถึงโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การที่กองทุน K-PLAN3 สามารถรักษาผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง จนติดอันดับกองทุน 5 ดาวจาก Morningstar ยาวนานที่สุดในกลุ่มเป็นระยะเวลา 17 เดือนติดต่อกัน (Morningstar® Overall Rating ในกลุ่ม Moderate Allocation, ข้อมูลจาก Morningstar® วันที่ 31 มี.ค. 61) ก็เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ต้องอาศัยการยืนระยะ รักษาวินัยและความสม่ำเสมอของก้าววิ่งให้ดีต่อเนื่อง ดังนั้นหัวใจหลัก 3 ข้อของทั้งการลงทุนและการวิ่งมาราธอน แท้จริงแล้วจึงเป็นเรื่องเดียวกันนั่นคือ เป้าหมาย วินัย และความสมดุล โดยต้องไม่ลืมว่าการวิ่งและการลงทุนไม่ใช่การแข่งขันกับคนอื่น แต่คือการรักษาระยะและรักษาความเติบโตของทั้งก้าววิ่งและพอร์ตการลงทุนให้กับตัวของเรานั่นเอง
ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน K-PLAN3 ของบลจ.กสิกรไทย สามารถเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท โดยขอรับหนังสือชี้ชวน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 02-673-3888 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/2jfx1YY
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
อ้างอิง:
Bloomberg Market: https://www.bloomberg.com/quote/KPLAN03:TB
Good Sports: https://uniquerunning.goodsportsthailand.com/en/content/119-how-to-train-for-a-marathon
Morningstar: http://www.morningstarthailand.com/th/funds/snapshot/snapshot.aspx?id=F000005JNX&lang=en-TH