ว่ากันว่าการใช้ชีวิตของคน Gen Y หรือ Millennial ทุกวันนี้นั้นแสนยากลำบาก เพราะเป็นช่วงวัยที่กำลังเปลี่ยนผ่านและต้องปรับตัวไปสู่ความรับผิดชอบที่ใหญ่โตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน หรือการใช้ชีวิตจะเรียกว่าใกล้หมดเวลาสนุกแล้วสิ หรือมองอีกมุมว่าชีวิตกำลังก้าวเข้าสู่ความท้าทายครั้งใหม่ก็ยังได้ อยู่ที่มุมมองของแต่คนละว่าจะมองแบบไหน
มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 แรงงานทั่วโลกกว่า 3 ใน 4 จะเป็นชาว Gen Y ทั้งหมด และกำลังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในเมื่อคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลก แน่นอนว่าก่อนจะไปถึงจุดนั้นก็ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับทักษะอันใหญ่ยิ่ง
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา บางทีคน Gen Y ก็เหมือนกับรถยนต์ที่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันเฉพาะเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ดีที่สุด ไม่ต่างอะไรกับการต้องมีทักษะชีวิตที่ไว้เผชิญโลกของการทำงานอันแสนโหดร้าย มาดูกันว่า ทักษะไหนที่จำเป็นต้องมีบ้าง
ชาว Gen Y คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดในระหว่างปี 1979 -1999
เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่พีคที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะด้วยการเจริญเติบโตของร่างกาย และวุฒิภาวะที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างความเป็นวัยรุ่นและการเป็นผู้ใหญ่ จะเห็นได้ว่าเป็นช่วงวัยที่มีปัญหาเข้ามามากที่สุด และความสามารถในการเตรียมพร้อมรับมือก็ต้องมีมากที่สุดในช่วงเวลานี้เช่นกัน
แต่เมื่อชาว Gen Y ก้าวเข้ามาสู่โลกของการทำงานจริงๆ ทักษะบางอย่างก็ไม่ได้รับการสอนมาตั้งแต่สมัยเรียน หรือชุดความรู้ที่ร่ำเรียนมาก็อาจจะล้าสมัยสำหรับยุคสมัยปัจจุบันไปแล้ว สิ่งที่ชาว Gen Y ทำได้คือการเรียนรู้ทักษะหรือฟังก์ชันของชีวิตดังต่อไปนี้
สังเกตให้รอบด้านตอบคำถามให้รอบคอบ
ขนาดอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กยังเปลี่ยนแปลงอยู่เกือบตลอดเวลาโลกธุรกิจยังถูก Disrupt อยู่เกือบทุกนาที ไม่มีทางที่โลกจะยังคงหมุนอยู่ในองศาเดิมๆ ได้ตลอดไป ทักษะที่สำคัญของคน Gen Y คือการเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ แต่ด้วยปริมาณมหาศาลของข้อมูลที่เกิดขึ้นตลอดเวลา สมองของเราก็ไม่สามารถรับอะไรได้หมดทุกอย่างอยู่ดี จึงจำเป็นต้องช่างสังเกตและเลือกรับสิ่งที่สำคัญกับตัวเราเองจริงๆ
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมที่จะระวังอุปสรรคต่างๆ ที่จะบั่นทอนการพัฒนาทักษะการทำงานและการใช้ชีวิตของเราให้แย่ลงเรื่อยๆ รู้จักตั้งคำถามหาคำตอบถึงที่มาที่ไปอย่างละเอียดรอบด้าน เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมมีที่มาที่ไปเสมอ อย่างเช่นการไถฟีดเฟซบุ๊กในยุคนี้ที่ข่าวจริงข่าวลวงปนกันมั่วไปหมด จึงควรเลือกเสพอย่างมีสติ กระทั่งการถูกเม้าท์จากเพื่อนร่วมงาน ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง หรือโดนหัวหน้าต่อว่า ก็ต้องพยายามไม่หัวร้อน สังเกตตัวเองว่าอย่างไหนใช่ก็เก็บมาปรับปรุง อย่างไหนไม่ใช่ก็โยนทิ้งไปซะบ้าง
ทักษะการช่างสังเกตนี้ก็เหมือนกับฟังก์ชัน Honda LaneWatch ใน New Honda HR-V ที่เปิดมุมมองให้กว้างกว่าขณะขับรถที่จะแสดงภาพบนหน้าจออัตโนมัติขณะที่เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หรือกดปุ่มบริเวณก้านไฟเลี้ยว ช่วยให้เราสังเกตเห็นมุมอับขณะเปลี่ยนเลน รับรองว่ายังไงก็ต้องเห็นว่ามีรถ หรือมอเตอร์ไซต์กำลังขับมาแม้ในมุมอับ ให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยไร้กังวล
ประเมินล่วงหน้า คาดการณ์อย่างมีเหตุผล
หลายคนอาจมองว่า ทักษะในการคาดเดาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ หรืออะไรที่งมงายไป แต่จริงๆ แล้วทักษะเหล่านี้กลับสำคัญต่ออนาคตของการทำงาน เพราะเป็นการประเมินด้วยเหตุผลและปัจจัยรอบด้านในแบบวิทยาศาสตร์ อย่างการพัฒนาของ AI ทุกวันนี้ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด จนมีการถกเถียงกันว่างานในบางตำแหน่งของมนุษย์อาจถูก AI มาแย่งงานไป ทำให้คนทำงาน Gen Y หลายคนต้องรีบประเมินความสามารถในการทำงานของตนเองโดยด่วน เพราะอาจจะตกงานไม่รู้ตัว
แต่ขณะเดียวกัน จากผลสำรวจของ Deloitte Millennial Survey พบว่าคน Gen Y อีกบางส่วนมั่นใจว่า ยังไงเจ้าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ ยังไม่สามารถมาแย่งงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ไปจากพวกเขาได้ แต่จะสามารถช่วยจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณและประมวลอันแสนน่าเบื่อแทนได้ ทำให้มีเวลาไปทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้นอีกด้วย คือถ้ามั่นใจแล้วว่าฝีมือการทำงานของเราเจ๋งพอ ก็ไม่ต้องหวั่นเกรงกับการมาของ AI ที่จะมาแย่งงานแต่อย่างใด
ไม่เพียงแค่ Gen Y อย่างเราเท่านั้นที่ต้องมีทักษะในการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า แต่ในการขับรถก็ต้องมีการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน อย่างใน New Honda HR-V ที่มีระบบ City Brake Active System ที่เตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ช่วยประเมินสถานการณ์ โดยจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากด้านหน้า หากยังไม่ทำการเหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกรถให้อัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้
เปิดกว้างทางความคิด ไม่ยึดติดกรอบเดิมๆ
ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคสมัยที่ต้องการความ Productive ให้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับความ Creative ด้วยเช่นกันไม่ว่าสาขาอาชีพไหน ต่างก็เรียกร้องทักษะเหล่านี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายงานสร้างสรรค์ที่ต้องคิดนั่นคิดนี่ตลอดเวลา นวัตกรรมใหม่ๆ หรือสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดบนโลกใบนี้ต่างก็เกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น ซึ่งคน Gen Y ต่างก็รู้กันดีว่าทักษะเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะมาสอนกันแล้วทำตามได้ง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการอยู่เลย
วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการเปิดกว้างทางความคิดหรือ Open mind พร้อมรับสิ่งต่างๆ โดยไม่ปิดกรอบตัวเอง เปิดรับมุมมองใหม่ๆ ให้เข้ามาในชีวิต ทำให้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้กว้างขึ้นอย่างเช่นเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านทางใหม่ เปลี่ยนร้านข้าวที่กินประจำ ดูหนังแนวที่ไม่เคยดู พักอ่านอะไรในมือถือ เปลี่ยนมาอ่านหนังสือแทน หรือออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งการได้มองเห็นอะไรใหม่ๆ ที่กว้างขึ้นนี่แหละ จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะนำวัตถุดิบทางความคิดเหล่านั้น มาเชื่อมโยงและประมวลผลจนออกมาเป็นผลงานให้โลกต้องจำ
เปิดสมองให้รับสิ่งต่างๆ แล้วก็อย่าลืมเปิด Panoramic Sunroof ใน New Honda HR-V พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch ที่จะช่วยเปิดให้มองเห็นมุมมองใหม่ๆ ของโลกใบนี้ ไม่ต้องยึดติดกับกรอบเดิมๆ อีกต่อไป
3 ทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับชาว Gen Y ไม่ต่างอะไรกับ 3 ฟังก์ชันที่อยู่ใน New Honda HR-V รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมที่ครอสชีวิตได้ครบทุกด้านด้วยการผสานรถยนต์สไตล์สปอร์ตเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC กับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่ง RS ให้ความพรีเมี่ยมของห้องโดยสารที่กว้างขวางเกินใคร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ให้ชาว Gen Y ทุกคนออกไปสัมผัสกับทุกไลฟ์สไตล์และใช้ชีวิตที่เหนือกว่า