ว่ากันว่าอย่าตัดสินใครที่หน้าตา แต่เชื่อเถอะ เวลาเจอคนสวยๆ หล่อๆ หลายคนคงเกิดอาการหวั่นไหวกันบ้างแหละ
เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์ของสินค้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ไปจนถึงอาหาร ต่างต้องการความสวยงามน่าหลงใหล หรือลวดลายชวนเก็บน่าสะสม สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือน first impression ที่ทำให้คนยอมจ่ายเงิน และทำให้สินค้านั้นๆ มีภาพลักษณ์เหนือคู่แข่ง เรียกได้ว่าบรรจุภัณฑ์เป็นหนึ่งในนักขายทางอ้อมหรือ Silent Salesman ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้สินค้าปิดการขายได้มากขึ้นก็ว่าได้
แต่กระนั้นความสวยงามอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ดีควรจะรองรับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในยุคปัจจุบันได้ด้วย นอกจากนี้ ยังต้องตอบโจทย์เรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจให้ความสนใจ
นอกเหนือจากการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย การทำธุรกิจของ SCGP หรือบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ยังรวมถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอยู่เสมอ เพื่อสามารถนำเสนอบรรจุภัณฑ์และโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ SCGP สามารถครองตำแหน่งผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนได้ในปัจจุบัน
เพราะบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
เมื่อเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงต้องสร้างสรรค์และหลากหลายมากขึ้น โดยเทรนด์เหล่านี้เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทย และเป็นลักษณะที่เหมือนกันทั้งภูมิภาคอาเซียนที่มีประชากรอยู่กว่า 600 ล้านคนในปัจจุบัน
ถ้าลองมองไปรอบๆ ตัวตอนนี้ เชื่อแน่ว่าจะมีบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 1 ชิ้นที่มองเห็นได้ทันที บรรจุภัณฑ์จึงเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราตลอดเวลา โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เราสามารถสั่งซื้อทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้วก็มีสินค้าส่งมาให้ถึงที่
ปัจจุบัน SCGP มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยมีการดำเนินธุรกิจเป็น 2 ธุรกิจหลักๆ คือ กลุ่มแรก สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (Integrated Packaging Chain) ประกอบด้วย บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ (Fiber-Based Packaging) เช่น บรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก, บรรจุภัณฑ์กล่องพิมพ์สีเพื่อการแสดงสินค้า เป็นต้น กระดาษบรรจุภัณฑ์ (Packaging Paper) และบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ (Performance and Polymer Packaging) ได้แก่ บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวและบรรจุภัณฑ์แบบคงรูป ซึ่งกระจายตัวและเป็นส่วนหนึ่งของทุกภาคอุตสาหกรรมและการบริโภค
ส่วนกลุ่มที่สองคือ สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (Fibrous Chain) ที่มีแบรนด์เฟสท์ (Fest) เป็นหัวหอกสำคัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ภาชนะสำหรับบรรจุอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านรูปแบบดีไซน์อันสวยงามและฟังก์ชันที่เหมาะกับการใช้งาน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากเยื่อประเภทต่างๆ เช่น กระดาษถ่ายเอกสาร (Idea) และกระดาษพิมพ์เขียนประเภทต่างๆ
ความแข็งแกร่งของ SCGP สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ที่ SCGP มีรายได้ทั้งสิ้น 45,903 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11 การันตีว่าแม้ COVID-19 จะเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของโลก แต่ SCGP ยังสามารถเติบโตผ่านการลงทุนขยายฐานการผลิตใน 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย ควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจบริการรับส่งอาหาร และธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขอนามัย ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป บรรจุภัณฑ์ต้องเปลี่ยนตาม
ปัจจัยที่ทำให้ SCGP โดดเด่นคือ ความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่ทำให้ SCGP นำเสนอบรรจุภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทและรูปแบบ จึงสามารถตอบสนองความต้องการและการใช้งานในแต่ละไลฟ์สไตล์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ SCGP ยังเพิ่มความหลากหลายด้านบริการและโซลูชันแบบครบวงจรหรือ Comprehensive Packaging Solutions ด้วยความพร้อมด้านบุคลากรในแต่ละฝ่ายที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด ทีมออกแบบ ทีมวิศวกร และทีมนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้งบประมาณที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนากว่า 500 ล้านบาทต่อปี จึงทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน SCGP มีลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายใน 5 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และเป็นการผสมผสานระหว่างลูกค้าที่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก บริษัทชั้นนำในแต่ละประเทศ ไปจนถึงกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs
บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องตอบโซลูชันให้แก่ผู้ใช้งาน
นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วย 4P คือ Protect (ป้องกันสินค้า), Promote (เสริมสร้างภาพลักษณ์), Preserve (ยืดอายุการเก็บรักษา) และ Perform (ประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีต่างๆ) แล้ว SCGP ยังพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ และรองรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยมีนวัตกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างความสำเร็จของ SCGP ได้แก่
- โซลูชันสำหรับอำนวยความสะดวก กับ Optibreath
- โซลูชันด้านกิจกรรมทางการตลาด กับบูธการแสดงสินค้าจากกระดาษ (Marketing Event Exhibition)
ทำธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
เมื่อกระแสรักษ์โลกกำลังเป็นวาระสำคัญ ผู้บริโภคยุคใหม่จึงหันมาใส่ใจคุณภาพชีวิตและสุขภาพ โดยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
SCGP จึงมุ่งเน้นการเสริมสร้างวงจรการใช้งานบรรจุภัณฑ์ (Life Cycle) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่รัฐบาลและผู้คนกำลังให้ความสนใจในปัจจุบัน โดย SCGP ถือเป็นบริษัทในตลาดบรรจุภัณฑ์ของภูมิภาคที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเข้มข้น
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมถึงการใช้ทรัพยากร วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาและวิจัยของ SCGP ซึ่งสะท้อนผ่านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ โซลูชัน การรีไซเคิลวัสดุต่างๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่า การนำกลับมาใช้ซ้ำ การลดการใช้วัตถุดิบ รวมถึงการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานและบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่า ทำไม SCGP จึงเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพราะการมีสินค้าและโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บรรจุภัณฑ์ได้อย่างรอบด้าน
และวันนี้ SCGP ยังคงวางแผนงานขยายธุรกิจ พัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน
อ้างอิงข้อมูลจาก
(1) รายงานการวิจัยทางการตลาดแบบอิสระของ ฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน
(2) ร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มของ SCGP ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th