หากจะให้นึกถึงชื่อของผู้ให้บริการสินเชื่อที่ครองใจคนไทยมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ ‘เงินติดล้อ’ ซึ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ทำอาชีพอิสระและ SMEs รายย่อย อย่างแน่นอน ผ่านหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจคือความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ก่อนที่จะมีการต่อยอดสู่การเติบโตในธุรกิจนายหน้าประกันภัยในชื่อ ‘ประกันติดโล่’ ที่นำทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสานเข้ากับการบริการ ทำให้ยอดเบี้ยประกันวินาศภัยมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด
จากความสำเร็จดังกล่าว TIDLOR ก็ไม่ได้หยุดความสำเร็จไว้เพียงเท่านี้ กลุ่มบริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการให้บริการ InsurTech Platform 2 แบรนด์ สุดล้ำ ที่เปลี่ยนภาพจำของการขายประกัน ให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของทั้งลูกค้าและนายหน้า
อารีเกเตอร์ (Areegator)
แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ที่ช่วยให้นายหน้าประกันอิสระสามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น ด้วยจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยี Software-as-a-Service (SaaS) ทำให้สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันได้หลากหลายพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า รวมทั้งมีระบบผ่อนเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0% สูงสุด 10 เดือน ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับนายหน้าประกันอิสระ
เฮ้ กู๊ดดี้ (heygoody.com)
เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลที่ให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและซื้อประกันได้ด้วยตนเองอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเป็นผู้ให้บริการนายหน้าประกันรายแรกๆ ในไทยที่ไม่มีการโทรขาย ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันและทำรายการซื้อประกันได้เองอย่างรวดเร็ว
การปรับโครงสร้างเป็น Tidlor Holdings ในครั้งนี้เป็นการวางกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพใหม่ๆ เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ และรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกัน
เพิ่มเสถียรภาพ ให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นในการจ่ายปันผล โดยสามารถเลือกจ่ายเงินปันผลในรูปแบบเงินสด เพื่อลดความสับสนของนักลงทุนเกี่ยวกับราคาหุ้น (Dilution) และกำไรต่อหุ้น (EPS) (price and EPS dilution)
ลดต้นทุน จากการเลือกจ่ายปันผลเป็นเงินสด ช่วยประหยัดภาษีจากการจ่ายปันผลเป็นหุ้นภายใต้โครงสร้างกลุ่มกิจการแบบ Holding
บริหารความเสี่ยง ของธุรกิจทั้งสินเชื่อและนายหน้าประกัน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขยายตลาดใหม่ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำและครอบคลุมยิ่งขึ้น
แผนการปรับโครงสร้างเป็น Tidlor Holdings นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทแล้ว ยังมุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนาและสร้างนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนา InsurTech ที่กำลังเติบโต เพื่อผลประโยชน์ให้กับลูกค้า และยังเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ปัจจุบัน แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 69/247-1) ของ Tidlor Holdings ได้มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ จะได้รับสิทธิแลกหุ้นเป็นหุ้นของ Tidlor Holdings ในอัตรา 1:1 (1 หุ้นสามัญของ บมจ. เงินติดล้อ ต่อ 1 หุ้นสามัญของ Tidlor Holdings) โดยจะเริ่มตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ผ่านการแลกหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ถึงวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยผู้ถือหุ้นจะต้องทำการตอบรับคำเสนอซื้อด้วยตนเอง จะไม่ได้เป็นแบบอัตโนมัติ
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ TIDLOR แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต บริษัทฯ คาดว่าจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) จากผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ และนำหุ้นของ Tidlor Holdings เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในไตรมาส 2/2568
นอกจากนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างดำเนินการเสร็จสิ้น บมจ. เงินติดล้อ จะดำเนินธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ Tidlor Holdings โดยยังคงมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ภายใต้แบรนด์ เงินติดล้อ และธุรกิจนายหน้าประกันภัยผ่านสาขา ภายใต้แบรนด์ ประกันติดโล่ รวมถึงพัฒนา InsurTech Platform ภายใต้แบรนด์ อารีเกเตอร์ และ เฮ้ กู๊ดดี้