ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกออนไลน์มีบทบาทกับชีวิตเราตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน ยิ่งหากใครเป็นผู้ประกอบการแล้วละก็ ถ้าสามารถปรับตัวใช้เทคโนโลยีนี้ได้ก่อน ก็จะพาธุรกิจตัวเองก้าวไกลได้ถึงระดับโลก
หนึ่งเทรนด์สำคัญของยุคก็คือ E-commerce โลก (ออนไลน์) ธุรกิจการค้าที่ทรงอิทธิพลและมีศักยภาพอย่างมาก เพราะปัจจุบันเรามีแพลตฟอร์มค้าส่งออนไลน์ที่มีพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ ทำหน้าที่ส่งเสริมการทำธุรกิจส่งออกของประเทศไทยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นซึ่งเจ้าแพลตฟอร์มนี้แหละ จะเป็นความหวังใหม่ของผู้ประกอบการที่พาสินค้าไทยไปตีตลาดโลก
E-commerce ความหวังใหม่ของผู้ประกอบการ
ว่าตามตรง E-commerce อาจไม่ใช่คำใหม่ในวงการธุรกิจ เพราะคำนี้วนเวียนอยู่กับเรามานานพอสมควร เพียงแต่กระแสความนิยมตอนแรกอาจยังไม่สูงนัก ระยะเวลาผ่านมันก็ได้ความสนใจมากขึ้น พร้อมๆ กับมูลค่าการตลาดที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ตามรายงานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เมื่อไม่นานมานี้คาดการณ์ตลาด E-commerce ไว้ว่า ปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 3,058,987.04 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 8% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่แนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง
เช่นเดียวกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่มองว่า E-Commerce จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันการค้าของไทยให้เติบโตในอัตราที่เร็วขึ้น ผ่านปัจจัยทั้งจำนวนผู้ซื้อออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ความเชื่อใจของลูกค้าในการสั่งซื้อออนไลน์ รวมถึงผู้ประกอบการเองก็เริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์แข่งขันกันมากขึ้น E-commerce จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการยุคนี้
หน้าร้านอย่างเดียวอาจไม่พอ
ในเมื่อโลกธุรกิจมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้หลักการตลาดแบบเดิมๆ อย่างการมีหน้าร้านขายปลีกเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจที่ใช้หลักการตลาดแบบเดิมๆ บางส่วนมักหายไปจากสนามการแข่งขันแล้วแพลตฟอร์ม E-commerce จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการให้มีร้านค้าแบบออฟไลน์-ออนไลน์ เพื่อความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
ดูตัวอย่างง่ายๆ อย่าง Alibaba และ Amazon แม้ทั้งสองจะเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกออนไลน์ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อแนวทางธุรกิจเดิม จึงมีการเปิดร้านค้าจริงในฐานประเทศตัวเองพร้อมๆ กับร้านค้าออนไลน์ตามปกติ ด้วยเทคโนโลยีที่เติบโตแบบก้าวกระโดดแบบนี้ ธุรกิจเดิมที่รู้จักพัฒนาเขี้ยวเล็บตัวเอง ก็จะอยู่รอดแถมเพิ่มโอกาสตีตลาดโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแพลตฟอร์มออนไลน์มีอยู่จำนวนมาก ผู้ประกอบการเองก็ต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า ไม่ใช่เลือกแพลตฟอร์มกระจัดกระจาย เราจึงควรพิจารณาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับธุรกิจตัวเองเช่นกัน
TorYodonline แพลตฟอร์มค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ต่อยอดออนไลน์คือแพลตฟอร์มค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนโดย TCC Group ที่เชื่อมโยงช่องทางการขายในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) ภายใต้แนวคิด B2B One Stop Solution จากศูนย์ค้าส่งตลาดต่อยอดสู่เว็บไซต์ต่อยอดออนไลน์ ครบวงจรการซื้อขายส่งแห่งเดียวในประเทศไทยครอบคลุมเครือข่ายพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม B2B ระดับโลก เช่น GOSOKO และ ALIBABA รวมไปถึงอีกหลากหลายเว็บค้าส่งชั้นนำทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอย่างครบวงจร และยังเป็นการ สร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทย
เป้าหมายของต่อยอดออนไลน์ปรารถนาให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการส่งออกมากขึ้น โดยแพลตฟอร์มจะช่วยเหลือผู้ประกอบการในทุกด้านทั้งภาษา โลจิสติก การตลาดและความน่าเชื่อถือ ผ่านฟีเจอร์อำนวยความสะดวกทางเทคโนโลยีระบบหลังบ้านที่สนับสนุนให้ขายได้ง่ายขึ้น สามารถซื้อขายได้ทั้งหน้าเว็บและใบเสนอราคาใช้งานง่ายที่คุณทำได้เองหรือแค่ให้ลูกหลานมาช่วยก็ยังได้ทำให้ผู้ประกอบไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นเกษตรกร SMEs เจ้าของโรงงาน,อยู่ที่ไหนตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงต่างจังหวัด สามารถพาธุรกิจตัวเองก้าวไกลได้ถึงระดับโลก
ใครที่สนใจ TorYodonline แพลตฟอร์มที่ปลอดภัย มีระบบที่เป็นมาตรฐาน และน่าเชื่อถือ เข้าไปดูได้ที่ www.toryodonline.com
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://marketeeronline.co/archives/66618
https://www.ryt9.com/s/iq03/2761386
https://www.blognone.com/node/100836