จากอดีตถึงปัจจุบัน คนรุ่นเราพ่อแม่มักพาไปธนาคารเสมอ และเป็นที่ๆ น่าเบื่อสำหรับเด็กเวลาไปห้าง เพราะต้องนั่งเฉยๆ ไม่มีอะไรทำ จนงอแงโดนดุอยู่บ่อย แต่เมื่อโตมาจึงเข้าใจว่าเรื่องเงินเรื่องใหญ่ และเด็กๆ ควรรู้จักการรอคอย
ต่อมาในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม หรือฝากถอนเงินที่ธนาคาร เพราะเราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ผ่านทางมือถือ
แต่ถึงอย่างไรถ้าเป็นเรื่องใหญ่ เช่น การกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนหรือซื้อบ้าน เราก็ต้องไปธนาคารอยู่ดี ในตอนนี้ที่หลายคนกลายเป็นพ่อแม่แล้วต้องพาลูกไปทำธุระด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ธนาคาร UOB ดีไซน์ธนาคารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป จึงเกิดเป็นธนาคารที่มีพื้นที่ให้เด็กได้นั่งรอได้อย่างไม่รู้เบื่อ และพ่อแม่ก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างครบวงจร
จากรูปแบบการใช้งาน สู่ดีไซน์ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์
ก่อนขั้นตอนการออกแบบใหม่ทั้งหมด เราจะต้องรู้ก่อนว่าฟังก์ชันที่จำเป็นต้องใช้งาน ของธนาคารยุคใหม่เปลี่ยนแปลงหรือต่างจากยุคเก่าแบบไหนบ้าง อย่างของ UOB เอง ก็ได้มีการจัดทำผลวิจัยร่วมกับ BCG ระบุว่า กลุ่มคน Upper Affluent หรือรายได้มากกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน ยังคงไปทำธุรกรรมด้านการเงิน หรือขอคำปรึกษาหน้าสาขาเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้ง
และหากมองจากฝั่งของธนาคารเอง นอกจากการให้คำปรึกษาทางการเงินอย่างเป็นส่วนตัวและเข้าอกเข้าใจลูกค้า หน้าที่ของหน้าสาขาธนาคารยังเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ ที่สร้างผลกำไรให้กับธนาคาร เช่น สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน กองทุน ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษากับลูกค้าเองโดยตรง
ดังนั้น UOB จึงลองคิดมุมกลับ จากเดิมที่พื้นที่ 70% ของหน้าสาขา จะเป็นพื้นที่ของธุรกรรมฝาก-ถอน-โอน-จ่าย และ 30% คือพื้นที่สำหรับให้คำปรึกษา ทาง UOB จึงพลิกกลับสัดส่วน 70% ใหม่ให้กลายเป็นพื้นที่ให้คำปรึกษา และอีก 30% ที่เหลือเป็นพื้นที่ของธุรกรรมเช่นเดิม รวมทั้งการปรับดีไซน์ให้เป็น Lifestyle Branch พื้นที่สำหรับนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้เข้าถึงความต้องการที่แตกต่างตามไลฟ์สไตล์ของทุกกลุ่มลูกค้า
Family Branch สาขาของครอบครัว UOB Central Festival EastVille Branch
ถ้าคุณเป็นคนที่อาศัยอยู่แถวย่านนี้จะพบว่า Central East Ville เป็นห้างสรรพสินค้าสำหรับครอบครัว เนื่องจากอยู่ในโซนที่พักอาศัย เราจึงมักเห็นครอบครัวที่พาลูกเข้าธนาคารมาทำธุรกรรมด้วยเป็นประจำ ซึ่งเราก็จะคุ้นเคยกับอาการหน้ามุ่ยงอแงของเจ้าตัวเล็ก ซึ่งตรงนี้ต้องยกให้กับความช่างสังเกตของ UOB ที่ออกแบบ Kids Corner พื้นที่สำหรับให้เด็กเล่น และยังสามารถเจอกับเพื่อนใหม่ได้ระหว่างรอพ่อแม่ทำธุระ
สำหรับการจัดการพื้นที่ภายในที่เราคุ้นเคยกับโต๊ะธุรกรรมการเงินแบบใหญ่ๆ สาขานี้กลับย่อพื้นที่เคาน์เตอร์ลง การตกแต่งภายในเลือกใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ และเพิ่มพื้นที่ให้คำปรึกษามากขึ้น สร้างบรรยากาศให้พื้นที่ดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
นอกจากงานดีไซน์แล้ว ความพิเศษของสาขานี้คือ พนักงานกลุ่มคนรุ่นใหม่ในตำแหน่ง Wealth Management Associate ประจำอยู่ที่สาขา ซึ่งสร้างความเข้าใจในเรื่องยากๆ อย่างผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนให้กลายเป็นการพูดจาภาษาเดียวกัน เพื่อให้คำแนะนำสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นและกำลังเสาะหาข้อมูลด้านการลงทุน
Flagship UOB Privilege Banking Centre ICONSIAM ชั้น 5
สาขาสุดเอ็กซ์คลูสีฟที่เน้นความเป็นส่วนตัวของลูกค้าในกลุ่ม Upper Affluent (UOB Privilege Banking Centre หรือ PVB Centre สำหรับผู้มีเงินฝากหรือทรัพย์สิ
ถึงเราจะยังไม่เคยใช้บริการ แต่ก็ทราบมาว่าทางด้านบุคลากรในสาขานี้เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้ง Client Advisor ผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งทำงานร่วมกันกับ Investment Consultant ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน ที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกและประเมินผลอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพร้อมทั้งความรู้ความสามารถ และ Service Mind สู่การบริการลูกค้า PVB ที่ดีที่สุด ทำให้คนที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นอีกมิติของการบริการในระดับนี้
ทางด้านผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ากลุ่ม PVB ก็มีการจัดสรรสิทธิพิเศษต่างๆ มากมายเพื่อลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ คือ บัญชีออมทรัพย์จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.55% ซึ่งนับว่าสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ที่เคยได้ยินมา รวมทั้งส่วนลดค่าธรรมเนียมโอนเงินไปต่างประเทศ และยกเว้นค่าธรรมเนียมทางการเงินต่างๆ อีกทั้งยังมีห้องรับรองพิเศษทั้งในและต่างประเทศ ณ ศูนย์บริการ UOB PVB Centre
ความภูมิใจของ UOB
สุดท้ายนี้เราขอพูดถึงธนาคารยูโอบีสักนิด เพราะคือธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 โดยกลุ่มธนาคารยูโอบี ประเทศสิงคโปร์ เติบโตขึ้นเป็นเครือข่ายธนาคารแข็งแกร่งชั้นนำในภูมิภาค โดยเฉพาะในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และจีน โดยปัจจุบันมีเครือข่ายสำนักงานกว่า 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ เนื่องจากคุณภาพและความใส่ใจ โดยเราจะเห็นได้จากส่วนหนึ่งของความตั้งใจนี้ข้างต้นแล้ว
สำหรับในประเทศไทยเอง ปีหน้า 2562 จะเป็นการครบรอบ 20 ปีที่ก่อตั้งในประเทศไทย ทั้งในรูปแบบสาขาและบริการของ UOB ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่สิงคโปร์ ประเทศแม่ที่เป็น Financial Hub ของภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีประสบการณ์ทางการเงินในระดับนานาชาติ