จากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเผชิญอยู่ ชัดเจนแล้วว่า ‘โลก’ กำลังต้องการการเปลี่ยนแปลง หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนที่ดีที่สุด ณ เวลานี้จะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก ‘เยาวชนคนรุ่นใหม่’ ที่เต็มไปด้วยไอเดีย ความกล้า และพร้อมลุกขึ้นมาลงมือทำจริงด้วยตัวเอง
เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนที่แท้จริง เริ่มจากความตั้งใจของคนธรรมดา ที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าเชื่อว่าตัวเองมีส่วนร่วมได้ ขอแค่เพียงพื้นที่ให้ทดลอง ไอเดียที่มีคนรับฟัง และเสียงที่ได้การสนับสนุน
Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow Powered by UOB หนึ่งในโครงการด้านความยั่งยืนของ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนออกแบบโปรเจกต์ด้านความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ และส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง ลองไปสำรวจกันว่าเบื้องหลังโครงการนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้อย่างไร

อย่างที่เกริ่นไปว่าคนรุ่นใหม่ คือหนึ่งในพลังที่สามารถขับเคลื่อนและเปลี่ยนโลกได้ โครงการ Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow Powered by UOB จึงได้เจาะจงกลุ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สมัครอายุ 15 – 25 ปี หรือช่วงระดับมัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย โดยมีโจทย์สำคัญในการรับสมัคร คือสร้างสรรค์โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ในชุมชนของตนเอง
โครงการได้เสียงตอบรับที่ดีอย่างมาก จากเยาวชนคนรุ่นใหม่ ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ มีผู้สมัครกว่า 453 คนจาก 102 ทีมทั่วประเทศส่งผลงานเข้าร่วม โดยแต่ละแนวคิดล้วนสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่นและความเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้ง


หลังจากกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้นแล้ว ก็เหลือ 10 ทีมสุดท้ายที่จะได้เข้าร่วมเวิร์กชอปแบบลงมือทำจริง ทั้งด้านการพัฒนาโปรเจกต์แบบลงลึก การวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร การทำงานร่วมกับชุมชน และที่สำคัญคือการได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจาก mentor ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนอย่าง คุณก้อง – ชณัฐ วุฒิวิกัยการ (ก้อง กรีนกรีน), คุณพลอย – นันทพร ตีระพงศ์ไพบูลย์ Associate Director of APAC Food System Partnerships, The Global FoodBanking Network, คุณกิต – กิตตน์ บูชางกูร Head of Sustainability, Corporate Real Estate Services, ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, คุณโดม บุญญานุรักษ์ CMO and Co – founder GEPP Sa-Ard Co., Ltd. และคุณน้ำหวาน – กันตพร ขจรเสรี Co – founder Mindventure Co., Ltd. ก่อนที่จะ pitching นำเสนอไอเดีย พร้อมรับฟังคอมเมนต์ ที่จะช่วยต่อยอดแนวคิดให้พร้อมนำไปปฏิบัติจริงภายในระยะเวลา 1 เดือน



ผลงานของน้องๆ ทั้ง 10 ทีมเรียกได้ว่ามีความหลากหลายมาก ทั้งในเรื่องของจุดตั้งต้นของไอเดีย รูปแบบของนวัตกรรม
ไปจนถึงไปจนถึงการต่อยอดในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น โครงการจัดการ food waste ภายในโรงเรียน, เครื่องฟอกอากาศจากวัสดุอิเล็กทรอนิกส์, ทรายแมวจากผลผลิตทางการเกษตร, ผ้าทอจากวัสดุรีไซเคิล, การ upcycling ใยพลาสติกเป็นที่รองแก้ว,
บอร์ดเกมให้ความรู้เรื่องการแยกขยะ
และต่อไปนี้คือเบื้องหลังแนวคิดในการสร้างสรรค์โครงการของตัวแทน 3 ทีม จากทั้งระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย ที่มีไอเดียน่าสนใจ

ทีมฉันเกิดจากกอไผ่ ฉันเลยรักษ์โลก
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
ชื่อโครงการ Eatfinity
เป้าหมาย: เพื่อสร้างความตระหนักรู้ผ่านแนวคิด Consequence-based learning และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
“แนวคิดหลักของโครงการ Eatfinity ของเรา คือการจัดการปัญหาขยะเหลือทิ้งในโรงเรียน ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาของพวกเราก็คือการใช้หลักทฤษฎีจิตวิทยา Consequence-based learning โดยการสร้างแอปฯ เพื่อสํารวจพฤติกรรมการทิ้งขยะจากอาหารของเด็กภายในโรงเรียนแบบ Real time และนําขยะจากอาหารมาทําเป็นปุ๋ยต่อยอดขยะให้เกิดมูลค่า ก็จะได้เห็นถึงสถิติว่าจำนวนขยะจากอาหารมีมากน้อยเพียงใดในแต่ละวัน โดยโครงการในระยะยาว เราวางแผนที่จะมีการพัฒนาต่อยอดไปในเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งต่อยอดเข้าไปเสนอในกระทรวงต่างๆ เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีหลักการในการดำเนินงานแบบเดียวกัน นั่นคือสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน” ตัวแทนของทีมฉันเกิดจากกอไผ่ ฉันเลยรักษ์โลก จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เล่าถึงรูปแบบการทำงานของโครงการ Eatfinity ที่มุ่งเป้าจัดการขยะ food waste ภายในโรงเรียน ด้วยการใช้การสร้างความตระหนักรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียน ผ่านแอปพลิเคชันสํารวจพฤติกรรมการทิ้งขยะจากอาหารของเด็กภายในโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ทีมตุ้ยออฟสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อโครงการ: กิจกรรมเสวนาภาพยนตร์และนิทรรศการเกี่ยวกับ food waste “ผัดไทยไม่ทิ้ง”
เป้าหมาย: สร้างความเข้าใจ เพิ่มการตระหนักรู้ เพื่อแก้ไขปัญหา food waste ที่เหมาะสมและยั่งยืน
“โครงการของเรามีจุดประสงค์คือสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ food waste ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เราวางรูปแบบตั้งแต่การปูพื้นฐานเบื้องต้นด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนจะให้ทุกคนชมภาพยนตร์สั้นเรื่องผัดไทย และต่อด้วยการเสวนาร่วมกับผู้กำกับและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่า ปัญหานี้เหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร โครงการของเราน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงเรื่องของ food waste อย่างจริงจัง” ตัวแทนจากทีมตุ้ยออฟสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าถึงที่มาของโครงการกิจกรรมเสวนาภาพยนตร์และนิทรรศการเกี่ยวกับ Food Waste ‘ผัดไทยไม่ทิ้ง’ สร้างความตระหนักรู้เพื่อแก้ไขปัญหา food waste ด้วยการใช้สื่ออย่างภาพยนตร์สั้นในการสื่อสาร ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ทีม Trashformers
โรงเรียน International Community School Bangkok (ICS)
ชื่อโครงการ: Rebox Air Purifier
เป้าหมาย: ลดปริมาณ PM 2.5 ในพื้นที่ที่ระบบฟอกอากาศไม่เพียงพอ และเพื่อส่งเสริมการใช้วัสดุเหลือใช้ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
“จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เกิดจากการที่เรารู้สึกว่าในชีวิตประจำวัน มีขยะมากมายที่ไม่ได้นํามาใช้ประโยชน์ เราจึงอยากนำขยะเหล่านี้มาเพิ่มมูลค่าให้เกิดประโยชน์และก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย เราจึงคิดค้นออกมาเป็นเครื่องฟอกอากาศ ReBox Air Purifier ที่ทำมาจากกล่องกระดาษ และ E-waste จากพัดลมคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้นทุนต่ำ เพื่อให้โรงเรียนหรือมูลนิธิต่างๆ สามารถเข้าถึงได้” ตัวแทนจากทีม Trashformers จากโรงเรียน ICS เล่าถึงไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่นำวัสดุเหลือใช้มาอัพไซเคิลให้กลายเป็นเครื่องฟอกอากาศ เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

“น้องๆ มีความสนใจประเด็นปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างหลากหลาย โครงการที่คิดมา หลายโครงการน่าสนใจมาก เหมือนเขาเกิดมาแล้วเจอปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ทำให้เขามีความสนใจแล้วก็ไปไขว่คว้าหาข้อมูลที่จะมาจัดการได้ทันที สิ่งที่น้องๆ กำลังพยายามทำอยู่ในปัจจุบันนี้ คิดว่าดีมาก ถ้าเราทำต่อไปอย่างสม่ำเสมอ คิดว่าน่าจะได้ผลตอบรับที่ดีตามมาในอนาคต” คุณผึ้ง – ปรัชญา เจริญสุข ศิลปินจิตรกรรมยูโอบี ที่ใช้ศิลปะสะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อม ให้ความเห็นถึงผลงานของน้องเยาวชนในโครงการ

“น้องทุกคนมี energy แล้วก็มี passion มากๆ เป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาต้องการโลกที่ดีขึ้นจริงๆ และเห็นถึงความเร่งด่วนของปัญหานี้ เพราะฉะนั้นก็อยากจะบอกน้องๆ ว่าอย่าไปท้อ ถ้าสมมติว่าเรายังเป็นคนส่วนน้อยที่คิดเรื่องนี้ เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนรอบข้างได้ มันเป็นสิ่งปกติสำหรับคนที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ถ้าเขาเห็นความตั้งใจของเรา การทำอย่างสม่ำเสมอ สุดท้ายแล้วคนเหล่านั้นเขาจะเปลี่ยนมาเป็นพวกเราเอง” คุณก้อง – ชณัฐ วุฒิวิกัยการ KongGreenGreen Influencer สายรักษ์โลก ให้กำลังใจน้องๆ ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดนี้ คือเบื้องหลังของ Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow Powered by UOB โครงการเพื่อความยั่งยืนที่เกิดจากความตั้งใจของคนธรรมดาที่กล้าลุกขึ้นมาคิด นำเสนอ และลงมือทำจากมุมมองและฝีมือของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต หลายผลงานสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่สามารถต่อยอดให้เกิดขึ้นจริง เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม
เพราะความยั่งยืนไม่สามารถฝากความหวังหรือหน้าที่ให้กับองค์กรใดหรือใครคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดียิ่งขึ้น
@thematter.coจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเผชิญอยู่ ชัดเจนแล้วว่า ‘โลก’ กำลังต้องการการเปลี่ยนแปลง หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนที่ดีที่สุด ณ เวลานี้จะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก ‘เยาวชนคนรุ่นใหม่’ ที่เต็มไปด้วยไอเดีย ความกล้า และพร้อมลุกขึ้นมาลงมือทำจริงด้วยตัวเอง . เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนที่แท้จริง เริ่มจากความตั้งใจของคนธรรมดา ที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าเชื่อว่าตัวเองมีส่วนร่วมได้ ขอแค่เพียงพื้นที่ให้ทดลอง ไอเดียที่มีคนรับฟัง และเสียงที่ได้การสนับสนุน . Wonder Lab: Youth for a Greener Tomorrow Powered by UOB หนึ่งในโครงการด้านความยั่งยืนของ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนออกแบบโปรเจกต์ด้านความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ และส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง ลองไปสำรวจกันว่าเบื้องหลังโครงการนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้อย่างไร . อ่านบทความต่อได้ที่ : https://thematter.co/brandedcontent/youth-for-a-greener-tomorrow/248581 . #TheMATTERxUOB #UOB #WonderLab #PartnerContent





