สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความสูญเสียที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน
ล่าสุดนี้ แหล่งข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสบอกว่า การทิ้งระเบิดของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซา ถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ระบุเป้าหมายที่เป็นไปได้ 37,000 เป้าหมายที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮามาส
ระบบ AI ดังกล่าวชื่อว่า ลาเวนเดอร์ (Lavender) ซึ่งนอกจากจะถูกนำมาใช้ คำบอกเล่าจากหน่วยข่าวกรองที่ตรงไปตรงมานี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ใช้ระบบ AI เพื่อช่วยระบุเป้าหมายในช่วงทำสงคราม
การใช้ระบบ AI ของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ได้นำพาให้สถานการณ์เข้าสู่สงครามขั้นสูง ก่อให้เกิดคำถามทางกฎหมายและศีลธรรมมากมาย และเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการทหาร และเครื่องจักร
“ถ้าเอาตามความทรงจำของผมคือมันไม่มีใครเทียบได้เลย พวกเรามีศรัทธาในกลไกทางสถิติ มากกว่าทหาร ทุกคนรวมถึงผมมีคนที่เสียไปในวันที่ 7 ตุลาคม (วันแรกที่มีการโจมตี) เครื่องจักรนี้ทำได้อย่างเย็นชา และนั่นทำให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น” แหล่งข่าวที่ใช้ลาเวนเดอร์บอกกับ The Guardian ขณะที่ผู้ใช้งานลาเวนเดอร์อีกคนตั้งคำถามว่า บทบาทของมนุษย์ในกระบวนการคัดเลือก(พื้นที่โจมตี)นั้นมีความหมายหรือไม่ และเขาบอกว่า “ผมใช้เวลา 20 วินาทีในแต่ละเป้าหมาย และทำวันละหลายสิบครั้ง ผมไม่มีความหมายอะไรเลยในฐานะมนุษย์ นอกจากเป็นคนอนุมัติ และมันประหยัดเวลาได้มาก”
คำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง 6 คนที่เกี่ยวข้องกับระบบ AI นี้ของอิสราเอล บอกว่า ลาเวนเดอร์มีบทบาทสำคัญในสงคราม มันประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เพื่อระบุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรกของสงครามลาเวนเดอร์ระบุรายชื่อชาวปาเลสไตน์มากถึง 37,000 รายที่เชื่อมโยงไปยังกลุ่มฮามาสหรือ Palestinian Islamic Jihad (PIJ)
ลาเวนเดอร์ได้รับการพัฒนาโดยหน่วยข่าวกรองชั้นยอดของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) หน่วย 8200 ซึ่งเทียบได้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ GCHQ ในสหราชอาณาจักร
แหล่งข้อมูลหลายแห่งอธิบายว่า IDF ใช้การอนุมัติล่วงหน้าสำหรับเป้าหมายบางประเภท และประมาณจำนวนพลเรือนที่อาจเสียชีวิตก่อนที่จะโจมตีได้อย่างไร ซึ่งแหล่งข่าวเล่าว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของสงคราม พวกเขาได้รับอนุญาตให้สังหารพลเรือน 15 หรือ 20 คนระหว่างการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มติดอาวุธระดับต่ำ โดยทั่วไปการโจมตีเป้าหมายดังกล่าวจะดำเนินการโดยใช้ระเบิดไม่นำวิถี ซึ่งมันทำลายบ้านทั้งหลัง และสังหารผู้อยู่อาศัยทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความขัดแย้งระบุว่า หากอิสราเอลใช้ระเบิดไม่นำวิถีทำลายบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์หลายพันคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาด้วยความช่วยเหลือจาก AI นั่นอาจช่วยอธิบายจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามที่สูงอย่างน่าตกใจได้
กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์ 33,000 คนถูกสังหารในความขัดแย้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ข้อมูลของสหประชาชาติแสดงให้เห็นว่า ในเดือนแรกของสงครามเพียงเดือนเดียว มีครอบครัว 1,340 ครอบครัวประสบความสูญเสียหลายครั้ง โดย 312 ครอบครัวสูญเสียสมาชิกมากกว่า 10 คน
ขณะที่แถลงการณ์จากกองทัพอิสราเอลระบุว่า พวกเขาไม่ได้ใช้ AI แต่เป็นเพียงชั้นข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารเพื่อวิเคราะห์และระบุเป้าหมาย และไม่ได้รับการยืนยันว่ามีสิทธิเข้าโจมตีได้
อ้างอิงจาก