“เราค้าขายบริสุทธิ์ ขายของแลกเงิน แต่กลับโดนอายัดบัญชี ธนาคารให้เหตุผลว่ามียอดเงินจากบัญชีม้าโอนเข้าบัญชีเรา จึงต้องอายัดยอดไว้ ณ วันนี้ถูกอายัดเป็นเวลา 7 วันแล้ว”
นี่คือเสียงสะท้อนจากแม้ค้าคนหนึ่งที่บัญชีธนาคารถูกระงับเนื่องจากมีบัญชีม้าโอนเงินเข้ามาให้สิ่งนี้ทำให้ชีวิตของเธอต้องเดือดร้อนอย่างหนัก
ไม่ใช่แค่แม่ค้าคนนี้ แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่อยู่ดีๆ ก็โดนระงับบัญชีธนาคารด้วยเหตุผลเดียวกันคือ มีเงินจากบัญชีม้าโอนมาให้พวกเขา พวกเขาก็เลยถูกระงับบัญชีไป ถือว่าเป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้ที่บริสุทธิ์
อธิบายแบบง่าย ก่อนหน้านี้ ภาครัฐและธนาคารมี ‘เป้าหมาย’ ว่าอยากจะจัดการพวกมิจฉาชีพ ด้วยการไประงับบัญชีของมิจฉาชีพเหล่านั้น แต่ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะการออกแบบ ‘กระบวนการ’ ที่ไม่รอบคอบเพียงพอ
กระบวนการระงับบัญชีม้า เริ่มจาก การเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน สามารถไปแจ้งตำรวจที่ สน.ต่างๆ ได้ว่า พวกเขาถูกหลอก และแจ้งเลขบัญชีที่โอนไปยังมิจฉาชีพได้ เพื่อที่ตำรวจจะได้ไปจัดการกับบัญชีพวกนั้นต่อ
หลังจากที่ตำรวจที่ สน. ได้รับแจ้งแล้ว ก็จะประสานไปยังตำรวจไซเบอร์ที่ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษอีกทีเพื่อดำเนินการะงับบัญชีต่อไป แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า ตำรวจที่ สน. มีหลักฐานแค่เพียง ‘สลิปโอนเงิน’ ก็แจ้งให้ตำรวจไซเบอร์ระงับได้เลย
ความวุ่นวายเลยเกิดขึ้นต่อมาคือ เมื่อตำรวจไซเบอร์ไปตรวจสอบดูบัญชีม้าเหล่านั้น ก็จะตามไประงับทั้งตัวบัญชีนั้นๆ รวมถึง บัญชีอื่นๆ ที่บัญชีม้าโอนไปให้ด้วย (เพราะสันนิษฐานว่า อาจมีการส่งต่อเงินกันเป็นทอดๆ และฟอกเงิน)
พอเป็นแบบนี้ คนที่ซวยคือใคร? ถ้าไม่ใช่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มีเงินจากบัญชีม้าเหล่านั้นโอนไปให้ และพวกเขาก็ถูกระงับบัญชีไป
ตรงนี้มีข้อสังเกตด้วยว่า ผู้ที่อนุมัติการระงับบัญชีที่ถูกมองว่าเข้าข่ายนั้น สามารถกดระงับได้เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ก็สามารถทำให้บัญชีของประชาชนคนธรรมดาโดนอายัดได้เลย
แน่นอนว่า บัญชีม้าบางส่วนถูกอายัดไปจริง แต่ประชาชนหลายคนที่ไม่รู้เรื่องก็ถูกระงับไปด้วย จนเรียกได้ว่า กระบวนการนี้เป็นเหมือนการ ‘เผาป่าเพื่อไล่หนู’
ความน่าปวดหัวยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อประชาชนที่มั่นใจว่าตัวเองไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพและไม่ได้มีบัญชีม้าในครอบครองต้องการ ‘ปลดอายัด’ ก็ต้องหอบเอกสาร หอกหลักฐานไปยังตำรวจตาม สน. ต่างๆ
ซึ่งตำรวจที่รับเรื่องมาก็ต้องทำการสอบสวนต่อ (แน่นอนว่าใช้เวลา) ทั้งเรียกขอหลักฐานจากประชาชนเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่มิจฉาชีพ รวมถึงบางกรณีก็จำเป็นต้องเรียกเจ้าของบัญชีม้ามาชี้แจ้งด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาตัวมิจฉาชีพเหล่านั้นจากไหน และในทางปฏิบัติแล้ว มิจฉาชีพก็คงไม่เอาตัวเองมาหาตำรวจได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ดี ถ้าหากตำรวจที่ สน.สอบสวนเสร็จแล้ว ก็ต้องส่งเรื่องไปให้กับตำรวจไซเบอร์เพื่อปลดการอายัดอีกขั้นหนึ่ง ทำให้กระบวนการนี้กินเวลายาวนาน และส่งผลให้คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำมาหากินอยู่ดีๆ ตามปกติ ต้องแบกภาระมากมายในการพิสูจน์ในสิ่งที่พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
สุดท้ายแล้วกระบวนการและความพยายามที่จัดการกับมิจฉาชีพจึงได้รับเสียงสะท้อนเป็นคำบ่นมาจากประชาชนทั่วประเทศ
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงกลายเป็นว่า ร้านค้าหลายแห่งไม่รับการโอนเงิน แต่ขอเป็นเงินสดแทน เพื่อตัดปัญหาว่าพวกเขาจะ ‘ซวย’ ในภายหลัง
กระบวนการที่ไม่รอบคอบเช่นนี้ จึงสร้างช่องโหว่ที่ใหญ่มากๆ และทำให้ใครก็ได้สามารถถูกอายัดบัญชีธนาคาร
#Brief #TheMATTER