“เริ่มคิดว่าจะไม่รับเงินโอนแล้วเพราะเห็นข่าว” คือหนึ่งในความคิดเห็นจากแม่ค้าคนหนึ่งที่บอกกับเรา
ปัญหา ‘บัญชีม้า’ ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเท่านั้น แต่ยังสร้างกังวลให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ขายรายย่อยไม่น้อย
แม้ภาครัฐจะประชาสัมพันธ์ถึงช่องทางการปลดอายัด แต่พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ก็ทั้งหาหลักฐาน และใช้เวลาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ซึ่งทำให้เสียทั้ง ‘เงิน’ และ ‘เวลา’ ในการทำมาหากินของพวกเขา
ในวันที่ความกังวลใจยังคงมีอยู่ The MATTER ได้พูดคุยเพื่อฟังเสียงผู้ประกอบการในย่าน ‘สำเพ็ง’ และ ‘เยาวราช’ พื้นที่ที่มีลูกค้ามากหน้าหลายตา และเป็นแหล่งหมุนเวียนเงินซื้อเข้าขายออกเป็นเรื่องปกติ
เก็บเงิบสด-ยอดเงินในบัญชีไม่เยอะ จึงไม่กังวล

แม่แดง แม่ค้าขายโบว์แดง สำเพ็ง
“เห็นค่ะ สนใจ และฟังอยู่ แล้วโทรไปถามแบงค์แล้ว ก็เข้าใจแล้ว เขาจะตรวจสอบยอดที่เข้ามาตอนกลางวัน พอตอนเย็นก็สรุปยอดเป็นล้านๆ อย่างพวกเราไม่ต้องตื่นเต้น” แม่แดง กล่าว
แม่แดง อายุ 62 ปี แม่ค้าขายโบว์แดง สำเพ็ง เล่าว่า เธอได้ติดตามประเด็นบัญชีม้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่เสมอ และได้ติดต่อธนาคารเพื่อไขข้อข้องใจ และได้คำตอบว่า บัญชีของคนทำมาหากินอย่างแม่แดงไม่ได้เข้าข่ายเสี่ยงถูกอายัดบัญชี เพราะธนาคารจะตรวจสอบยอดที่โอนเข้าจำนวนมากแล้วสรุปยอด
ขณะที่ร้านโบว์แดงมียอดการโอนต่อครั้งส่วนใหญ่ไม่เกิน 300 บาท น้อยครั้งที่จะมียอดถึงหลักพัน และเมื่อมีรายได้เข้ามา แม่แดงก็ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อของมาขายต่อ อีกส่วนถูกเก็บในรูปแบบเงินสด จึงมีความเป็นไปได้ต่ำที่จะถูกอายัดโดยธนาคาร
“เขาคงตรวจสอบอย่างดีแล้วแหละ คงไม่อายัดไปทั่ว แม่เลยไม่ตื่นเต้น อีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำผิดด้วย คนที่ทำผิดคงตื่นเต้นบ้างแหละ” แม่แดง กล่าว

สาริณี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวย่านสำเพ็ง
“ถ้าเป็นคนที่มีจำนวนเงินมากๆ มีการหมุนเวียนมาก เราคงกังวล…ใครๆ ก็น่าจะกังวลเพราะเงินอยู่ในนั้น” สาริณี กล่าว
สาริณี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวย่านสำเพ็ง อายุ 50 ปี กล่าวว่า โดยปกติเธอไม่ได้เก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคาร ทำให้มีเงินติดบัญชีไม่ถึงหลักหมื่น จึงไม่ค่อยกังวลว่าจะถูกอายัดบัญชี แต่หากนึกถึงคนที่เก็บเงินไว้ในบัญชีจำนวนมาก คงน่ากังวลไม่น้อยทีเดียว
ทั้งนี้ สาริณีได้ฝากถึงธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หากมีประชาชนที่ถูกอายัดบัญชีมาร้องเรียนและต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ อยากให้ขั้นตอนต่างๆ ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่เกินกรอบเวลา 7 วันตามที่กำหนดไว้ พร้อมการอำนาวยความสะดวกต่อประชาชนที่สุด
“อยากให้ทุกอย่างดำเนินการไม่เกินกำหนดระยะ 7 วัน ไม่ใช่รอไปยาวๆ หรือต้องหอบหลักฐานเป็นกิโลก็ไม่ไหว เพราะธนาคารก็น่าจะมีเอกสารและข้อมูลอะไรต่างๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ยื่นหลักฐานอะไรก็อย่าให้เกิน 7 วัน เพราะทุกคนก็มีรายรับ-รายจ่าย มีอะไรที่ต้องทำ” สาริณี กล่าว
คนค้าขายกับ ‘ทางผ่าน’ เงินทอน

ร้านขายของในสำเพ็ง
“สำเพ็งเนี่ย ส่วนใหญ่ถ้ายอดน้อยเขาก็ไม่ให้โอนอยู่แล้ว อย่างยอดเงินต่ำกว่า 500 บาท เขาก็ไม่ค่อยรับโอนกัน เพราะมันค่อนข้างเสียเวลา”
เจ้าของร้านขายของกิ๊ฟช็อป สําเพ็ง อายุ 65 ปี เล่าว่า ปกติที่ร้านจะไม่รับโอนเงินจากกรณียอดซื้อน้อย เนื่องจากมีรายละเอียดที่ต้องจัดการในการทำบัญชีเยอะ แต่หากมียอดซื้อเยอะ (มากกว่า 1,000 บาท) ก็จะให้ไปโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร เพื่อป้องกันการสวมรอยหรือมิจฉาชีพ
ถึงกระนั้น ก็เคยมีคนบางกลุ่มเข้ามาซื้อของ 500 บาท แล้วขอโอนเงิน 1,000 บาท เพื่อรับเงินทอนจากส่วนต่างที่เหลือ ซึ่งเขามองว่า ‘มีเจตนาแอบแฝง’ และอาจเข้าข่ายถูกใช้เป็น ‘บัญชีม้า’ จึงพยายามเลี่ยงการรับโอนในช่วงที่ผ่านมา
“เฮียไม่ค่อยกังวล เพราะไม่ได้ทำการค้าขายใหญ่ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ลูกค้ายิ่งน้อย แต่เอาจริงช่วงนี้ลูกค้าก็ไม่ค่อยใช้เงินโอนกันนะ เพราะเขากลัวบัญชีถูกอายัด เราเป็นผู้รับเราก็เฉยๆ แต่คนโอนเขากลัว…กลายเป็นคนซื้อระแวงคนขาย”
ทั้งนี้ เจ้าของร้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า พวกที่ต้องกลัวว่าจะถูกอายัดเงินส่วนใหญ่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีเงินในบัญชีถึงหลักหมื่น-แสน แต่อย่างเฮียไม่ค่อยมีลูกค้ามาซื้อของแล้วยอดโอนเป็นหมื่นจึงไม่ค่อยกังวล
แต่ท้ายที่สุดภาครัฐคงไม่สามารถช่วยเหลือผู้เดือดร้อนหรือจัดการกับ ‘บัญชีม้า’ จริงๆ ได้ เพราะหลายครั้งที่การทุจริตใหญ่ในประเทศก็มาจากผู้มีอำนาจเสียเอง

ปฏิเวธ พ่อค้าขายเกาลัด
“ผมไม่กลัว เพราะบัญชีผมไม่มีเงิน”
ปฏิเวธ พ่อค้าขายเกาลัด อายุ 74 ปี เล่าว่า เขาทราบข่าวเรื่องการอายัดบัญชีแล้ว แต่ไม่กังวลและยังรับเงินโอนอยู่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ถึงกระนั้น ยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่มาขอโอนเงินเกินจำนวนเงินที่ซื้อ เพื่อขอเงินทอนเป็น ‘เงินสด’
“บางคนมากินข้าวที่ร้านก๋วยจั๊บแต่เขาไม่รับโอน เราก็พอเข้าใจเพราะเขาพูดมีเหตุผล 100-200 บาทเราอนุโลมให้ได้ เพราะบางทีเขาลืมพกเงินสดมาหรือพกเงินมาแล้วแต่ไม่พอ” ปฏิเวธ อธิบาย
ปฏิเวธเล่าว่า ยอดเงินจากการค้าขายหนึ่งครั้งจะมีรูปแบบในตัวเองตามยอดการซื้อสินค้า เพราะเกาลัดถูกขายเป็น ‘กล่อง’ และมีราคาตายตัว หากจะถูกอายัดบัญชีก็สามารถตรวจสอบได้ง่าย ปฏิเวธจึงไม่กังวลต่อกรณีดังกล่าวมากนัก
แม้รายรับจะดูเหมือนเยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะเช่นกัน เพราะเมื่อขายของได้หมด ปฏิเวธก็ต้องเข้าไปซื้อเกาลัดในตลาดมาคั่วใหม่ การทำธุรกิจด้วยเงินหมุนเวียนเช่นนี้ ทำให้เขาไม่ได้มีเงินติดบัญชีมากนัก
สุดท้ายนี้ ปฏิเวธอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอายัดบัญชีม้าช่วยตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนดำเนินการ และรับฟังเหตุผลของผู้ร้องทุกข์ หากมีเหตุผลและน่าเชื่อถือก็ไม่จำเป็นต้องอายัด หากถ้าอายัดไปแล้วก็ไม่อยากให้เกิน 1-2 วัน
หลังจากนี้อาจไม่รับเงินโอนแล้ว

ร้านขายผลไม้ในสำเพ็ง
รัศมี แม่ค้าขายผลไม้ อายุ 50 ปี เล่าว่า เธอติดตามข่าวเรื่องการอายัดบัญชีมาตลอด ตั้งแต่ก่อนมีข่าวใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อความกังวลของเธอเพราะเห็นว่าการดำเนินการต่างๆ ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
“ถ้าโดนเราคงทำอะไรไม่ได้มาก อ่านข่าวแล้วเห็นบางคนกว่าจะได้เงินคืนก็ใช้เวลาเป็นปีกว่า แล้วเราก็ไม่ได้เงินเยอะขนาดนั้น แต่เราก็กลัวเพราะมันเป็นเงินที่เราเก็บไง นิดๆ หน่อยๆ เราก็กังวล บางคนพอเขาใช้เงินไม่ได้ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เราก็ไม่ใช่แค่กังวล แต่กลัวเลยล่ะ” รัศมี กล่าว
ถึงกระนั้น รัศมีได้หาวิธีคลายความกังวลด้วยตัวเอง คือ แม้จะขายของและรับเงินโอนแต่จะพยายามไม่เก็บเงินไว้ในบัญชี ผ่านการถอนเงินออกมาทุกช่วงเย็นของวัน แต่หลังๆ เธอก็คิดอยู่ว่าหลังจากนี้จะเลิกรับเงินโอนแล้วหันมาใช้แต่เงินสดดีหรือไม่
เมื่อถามว่าอยากให้ธนาคารหรือภาครัฐจัดการกับปัญหานี้อย่างไร?
รัศมีกล่าวว่า ขอเลือกใช้วิธีการป้องกันปัญหาด้วยตัวเองดีกว่า คือ ติดตามข่าวสารและระวังตัวเอง “อย่าไปพึ่งคนอื่น เราต้องจัดการของเราเอง”

ร้านขายกระดาษเงิน กระดาษทอง ในเยาวราช
เจ๊งอ ร้านขายกระดาษเงินกระดาษทอง อายุ 76 ปี บอกว่าเขาเห็นข่าวการอายัดบัญชีม้าจากรายการ ‘โหนกระแส’ เมื่อดูแล้วก็รู้สึกกลัวว่า หากตัวเองโดนคงต้องเสียทั้งเงินและเวลา เพราะขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตนค่อนข้างวุ่นวาย บางคนต้องใช้เวลาหลายเดือนก็ยังไม่ได้เงินคืน
เมื่อถามว่าข่าวการอายัดบัญชีม้าส่งผลต่อการค้าขายของเจ๊งออย่างไร?
เจ๊งอให้คำตอบว่า “เริ่มคิดว่าจะไม่รับเงินโอนแล้วเพราะเห็นข่าว” โดยก่อนหน้านี้เจ๊งอรับโอนเงินมาตลอด แม้แต่ยอดน้อยอย่าง 20 บาทก็ไม่เกี่ยง เพราะสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครพกเงินสด
สุดท้ายนี้ เจ๊งอไม่ได้คาดหวังแนวทางการแก้ปัญหาจากภาครัฐ แต่เลือกที่จะป้องกันปัญหาด้วยตัวเองตามวิธีที่กล่าวไปก่อนหน้านี้

ร้านก๋วยเตี๋ยวในสำเพ็ง
จากบทสนทนากับพ่อค้าแม่ขายในย่านสำเพ็งและเยาวราช สะท้อนถึงความกังวลที่พวกเขาต้องรับมือกับการแก้ปัญหาให้ไม่ตกเป็นเป้า ‘บัญชีม้า’ ด้วยตัวเอง
แม้เหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะสร้างความตระหนกให้ผู้ค้าบางส่วน แต่พวกเขายังเชื่อมั่นในความสุจริตของการประกอบอาชีพของตัวเอง และพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามขั้นตอนของภาครัฐ ขณะที่บางคนเลือกปรับตัวด้วยการ ‘ไม่รับเงินโอน’ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสะดวกสบายของลูกค้าและรายได้ที่อาจลดลงของพวกเขาในอนาคต
ทั้งนี้ พวกเขาก็หวังว่าตัวเองจะไม่ตกเป็นหนึ่งในคนที่ถูกระงับบัญชี เพราะกระบวนการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพร้อมกินเวลานาน
สุดท้ายนี้ หลายคนยังไม่เชื่อมั่นต่อการจัดการปัญหาของภาครัฐ ซึ่งเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ที่ภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นและมีการสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้คนทำมาหากินสุจริตต้องตกเป็นเหยื่อของความหวาดกลัวไปมากกว่านี้