นักโบราณคดีคาดกันมานานแล้วว่า โฮโมเซเปียนยุคโบราณอพยพออกจากทวีปแอฟริกา ผ่านทางคาบสมุทรอาหรับ เพื่อมาอาศัยในภูมิภาคตะวันออกกลางและแผ่นดินยูเรเซีย
โดยก่อนหน้านี้ นักโบราณคดีก็เคยพบกระดูกฟอสซิลของโฮโมเซเปียนอายุ 88,000 ปีในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว แต่ล่าสุด การค้นพบฟอสซิลรอยเท้าเกือบ 400 รอย ซึ่งมีทั้งรอยเท้าของสัตว์และมนุษย์โบราณ ยิ่งเป็นการย้ำสมมุติฐานที่ว่า มนุษย์เคยเดินทางผ่านคาบสมุทรอาหรับ เพื่อมาอาศัยอยู่บริเวณตะวันออกกลางจริงๆ
มิเชล เพทราเกียร์ (Michael Petraglia) หัวหน้าทีมนักโบราณคดี จากสถาบันแม็กซ์ แพลงค์ และลูกทีม ได้ทำการสำรวจพื้นที่บริเวณคาบสมุทรอาหรับมานานหลายสิบปี ก่อนค้นพบหลักฐานว่าในอดีต พื้นที่บริเวณคาบสมุทรอาหรับ ไม่ใช่ทะเลทรายแห้งแล้งเหมือนในปัจจุบัน แต่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง ที่มีธารน้ำไหลผ่าน ก่อนที่ พวกเขาจะพบหลักฐานอันน่าตื่นตาตื่นใจ ระหว่างสำรวจบริเวณทะเลทรายเนฟุต ในซาอุดิอาระเบียคือ ฟอสซิลรอยเท้าอายุ 120,000 ปี เกือบ 400 รอย
รอยเท้าทั้งหมดโผล่ขึ้นมาจากการกัดเซราะของตะกอนบนชั้นดิน โดยมีทั้งรอยกีบของม้า อูฐ และเท้าของช้าง ซึ่งสูญพันธ์ไปจากพื้นที่แถบตะวันออกกลางนานแล้วกว่า 400,000 ปี
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ นักวิจัยคาดว่า เจ็ดในหลายร้อยรอยเท้าที่พบอาจเป็นรอยเท้าของโฮโมเซเปียน ซึ่งถ้าหากเป็นจริงจะเป็นรอยเท้ามนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบ ในพื้นที่คาบสมุทรอาหรับ และอาจย้อนกลับไปได้ถึงช่วงปลายยุคน้ำแข็ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศบังคับให้มนุษย์อพยพจากทวีปแอฟริกา สู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง
นักวิจัยคาดว่า สัตว์นานาชนิดมารวมตัวกันในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อดื่มน้ำจากลำธาร ขณะที่มนุษย์เพียงแวะมาเพื่อดื่มน้ำและล่าสัตว์ที่มากินน้ำเท่านั้น เนื่องจากไม่มีการพบอุปกรณ์จากยุคหิน หรือการใช้งานซากสัตว์เพิ่มเติม ในพื้นที่ดังกล่าว
อ้างอิง:
https://www.sciencemag.org/news/2020/09/these-120000-year-old-footprints-offer-early-evidence-humans-arabia
https://edition.cnn.com/2020/09/22/middleeast/human-footprints-saudi-arabia-intl-scli-scn/index.html
#Brief #TheMATTER