การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร (2563) ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2563 เกิดขึ้นท่ามกลางคำปราศรัยจากหลายๆ ฝ่ายว่าไม่น่าจะได้รับความนิยมเท่าการชุมนุมครั้งก่อนๆ โดยภาครัฐเองประเมินว่าน่าจะมีคนมาร่วมไม่ถึง 10,000 คน ในขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจมีการเผชิญหน้ากับมวลชนที่มารอรับเสด็จ
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาฯ กลับมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งจากฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายรัฐ จนหลายๆ คนประเมินกันไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
แม้โพสต์นี้อาจจะลงช้าไปหน่อย แต่ The MATTER อยากบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้เอาไว้ ตั้งแต่ม็อบ 14 ตุลาฯ เริ่มชุมนุม กระทั่งถูกสลายการชุมนุมในเช้ามืดวันถัดมา ด้วยข้ออ้างจากเหตุการณ์ที่ยังคลุมเครือ ทว่าก็เป็นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนตีสี่ และเข้าสลายการชุมนุมในเวลาตีห้า
1. กลุ่มคณะราษฎร (2563) เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลในช่วง 2-3 เดือนหลัง ทั้งกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มประชาชนปลดแอก กลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มอื่นๆ โดยมีแกนนำอาทิ อานนท์ นำภา, เพนกวิ้น-พริษฐ์ ชิวารักษ์, ไมค์-จาณุพงษ์ จาดนอก, รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ฟอร์ด-ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี, มิน-ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ, ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว ฯลฯ
2. ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มคณะราษฎร (2563) มีอยู่ 3 ข้อ ประกอบด้วย
– พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไปจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
– เปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อเร่งแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน
– ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
อันเป็นการยุบรวมข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ 3 ข้อเสนอของอานนท์ในการชุมนุมที่ใช้ธีมแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ (3 สิงหาคม พ.ศ.2563) 10 ข้อเรียกร้องในการชุมนุมของแนวร่วม มธ.และการชุมนุม (10 สิงหาคม พ.ศ.2563) 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน 1 ความฝันของกลุ่มประชาชนปลดแอก (16 สิงหาคม พ.ศ.2563) มารวมกัน
3. การชุมนุมครั้งแรกของกลุ่มคณะราษฎร (2563) นัดหมายไว้เป็นวันที่ 14 ตุลาฯ นัดหมายไว้เวลา 14.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่ามกลางการโยนหินถามทางว่าจะเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
4. แต่อุณหภูมิการเมืองก็ระอุดขึ้นก่อนการชุมนุม 1 วัน
เมื่อตำรวจเข้ารื้อเต๊นท์ที่แนวร่วมของกลุ่มคณะราษฎร (2563) นำมาตั้งเตรียมไว้บริเวณหน้าร้านแม็คโดนัลด์ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการเผชิญหน้าและปะทะกัน โดยผู้ชุมนุมสาดสีใส่ตำรวจ ขณะที่ตำรวจได้จับกุม ไผ่ ดาวดิน, แอมมี่-ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ศิลปินวง Bottom Blues กับผู้ชุมนุมอีกจำนวนหนึ่งรวม 21 คน ไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค ๑ (ตชด.ภ.1) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนจะแจ้งว่ามีความผิด 8 ข้อหา
5. กลุ่มคณะราษฎร (2563) นำโดยเพนกวิ้น-พริษฐ์ จึงรีบนัดชุมนุมที่สกายวอล์ก ปทุมวัน พร้อมกับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ปล่อยทั้ง 21 คน โดยทันที จากนั้นก็สลายตัวแยกย้ายไปเตรียมตัวชุมนุมใหญ่ซึ่งนัดหมายไว้ในวันรุ่งขึ้น
6. ค่ำวันเดียวกัน อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร (2563) ประกาศร่นระยะเวลารวมตัวให้เร็วขึ้น จากเดิม 14.00 น. มาเป็น 08.00 น. ของวันที่ 14 ตุลาฯ โดยอ้างว่าเป็นเพราะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนิน มีเจ้าหน้าที่ล้อมไว้หมดแล้ว
7. เข้าวันที่ 14 ตุลาฯ เริ่มต้นขึ้นด้วยแชร์ภาพการใช้ยานพาหนะของราชการขนคนใส่ชุดสีเหลืองไปยังถนนราชดำเนิน บางคันวิ่งขึ้นทางด่วนโดยไม่มีผ้าคลุมด้านหลังซึ่งมผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ไม่รวมถึงปรากฎภาพชายฉกรรจ์ไว้ทรงผมขาวสามด้าน ใส่ชุดสีเหลืองปรากฎตัวบริเวณถนนราชดำเนิน
ขณะเดียวกัน อดีตแกนนำ กปปส. อาทิ สุเทพ เทือกสุบรรณ, สุวิทย์ ทองประเสริฐ(อดีตพระพุทธะอิสระ) กลุ่มไทยภักดีของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ไปจนถึง นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ก็นัดชุมนุมในบริเวณใกล้เคียงกัน จนหลายๆ ฝ่ายวิตกว่าอาจเกิดการเผชิญหน้ากันได้
8. อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร (2563) มาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เช้า พร้อมปราศรัยบนรถขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมใช้สันติวิธี หลักเลี่ยงการเผชิญหน้าทั้งกับเจ้าหน้าที่และมวลชนฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ตาม ช่วงสายวันที่ 14 ตุลาฯ ก็เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย ระหว่างผู้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มคณะราษฎร (2563) และมวลชนที่ใส่เสื้อสีเหลือง
ราวเที่ยงวัน ผู้ชุมนุมได้ยกกระถางต้นไม้ออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่แกนนำจะพาเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากถูกสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำรถเมล์ รถบัส และเครื่องกีดขวางอื่นๆ มาสกัดกั้น กว่าจะมาถึงถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาลก็ในช่วงเย็นแล้ว
9. บ่ายแก่ๆ วันเดียวกัน ก่อนที่รถปราศรัยที่บรรทุกแกนนำคณะราษฎร (2563) จะมาถึง มีเหตุการณ์ขบวนเสด็จวิ่งเข้ามาบนถนนพิษณุโลก ผ่านจุดที่ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งรออยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแถวกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าถึงขบวนรถ มีคนบันทึกคลิปไว้ได้หลายคนพร้อมกับเผยแพร่ในโลกออนไลน์ – นี่จะเป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่รัฐบาลอ้างเป็นเหตุใช้อำนาจพิเศษในภายหลัง ท่ามกลางข้อสงสัยว่าเหตุใดผู้เกี่ยวข้องถึงไม่ขัดให้ขบวนเสด็จเลี่ยงจุดที่จะมีการชุมนุม
10. แกนนำกลุ่มคณะราษฎร (2563) เริ่มปราศรัยในเวลา 20.00 น. ทันที โดยอานนท์ นำภา เน้นย้ำ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่ม โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนายกฯ ที่ต้องออกไปในวันที่ 15 ตุลาฯ เวลา 22.00 น. เวทีปราศรัยหลักถูกตั้งเสร็จบริเวณถนนพิษณุโลก เช่นเดียวกับอีก 3 เวทีย่อย บริเวณแยกมิสกวัน สะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกนางเลิ้ง
11. อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯ มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด โดยอ้างเหตุกรณี ‘ขวางขบวนเสด็จ’ ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขีดเส้นให้ชุมนุมถึง 24.00 น. เท่านั้น แต่ยังปฏิเสธจะให้ความชัดเจนว่าจะสลายการชุมนุมหรือไม่
12. การปราศรัยบนเวทีของกลุ่มคณะราษฎร (2563) ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ กระทั่งราวตีหนึ่ง อานนท์ขึ้นประกาศบนเวทีว่า จะชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลถึงเช้าวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2563 เท่านั้น และนัดหมายมาเจอกันอีกครั้งในเวลา 16.00 น. ที่สี่แยกราชประสงค์
13. เวลา 04.00 น. ของวันที่ 15 ตุลาฯ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม. ก่อนที่เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ กระบอง ชุดเกราะ จะกระชับพื้นที่เข้ามายังเวทีของกลุ่มคณะราษฎร (2563) พร้อมทยอยจับกุมตัวแกนนำ อาทิ อานนท์ นำภา, ไมค์-ภาณุพงษ์, เพนกวิ้น-พริษฐ์, รุ้ง-ปนัสยา ฯลฯ และนำตัวไปควบคุมไว้ที่ ตชด.ภ.1 ตามหมายจับเดิมที่แต่ละคนมี เช่น อานนท์กับ เจมส์-ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ ถูกพาตัวขึ้น ฮ. ส่งไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพราะถูกออกหมายจับโดยศาล จ.เชียงใหม่
14. น่าจับตากันต่อไปว่า ความเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
ระหว่างนี้ไปติดตาม The MATTER รายงานสถานการณ์การชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ได้เลย
อ้างอิงจาก
https://news.thaipbs.or.th/content/297182
https://www.bbc.com/thai/live/thailand-54508182
https://www.bbc.com/thai/thailand-54539098
https://www.bbc.com/thai/thailand-54542764
https://edition.cnn.com/…/thailand-protest…/index.html
https://www.theguardian.com/…/thai-pro-democracy…
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902514
#Recap #TheMATTER