คุณคิดว่าอดีตศัตรูจะสามารถยกโทษให้กันและกันได้หรือไม่? โดยเฉพาะศัตรูในทางอุดมการณ์ อย่างนาซีเยอรมนีที่มีอิทธิพลอยู่ในยุโรปช่วงทศวรรษที่ 1930 จนถึง 1940 กับชาวยิวที่ถูกกล่าวหาจากนาซีว่าเป็นผู้เกาะกินทรัพยากรทางเศรษฐกิจของเยอรมนี จนนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในท้ายสุด เรื่องราวสุดน่าประทับใจเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่ง ผู้เป็นหลานของนาซี ได้ตามหาลูกหลานของเจ้าของร้านค้าคนเดิมของตระกูลเขา หลังจากที่เขาสืบทราบว่าเจ้าของร้านค้าคนเดิมเป็นยิว ไม่ใช่เยอรมัน
โทมัส อีเดลแมนน์ (Thomas Edelmann) นักธุรกิจวัย 49 ปี เติบโตมากับคำบอกเล่าและความสงสัยส่วนตัวว่า อาคารธุรกิจประจำตระกูลของเขาเคยมีชาวยิวเป็นเจ้าของมาก่อน วิลเฮม (Wilhelm) ปู่ของอีเดลแมนน์ ผู้ที่อีเดลแมนน์ไม่เคยพบหน้ามาก่อน ได้เป็นคนซื้อร้านค้าต่อจากอดีตเจ้าของชาวยิวผู้นั้น ซึ่งถูกนาซีบังคับให้ขายกิจการร้านค้าแก่ชาวเยอรมัน
อีเดลแมนน์สืบหาทายาทของเจ้าของร้านชาวยิว จากประวัติการเสียภาษีให้แก่รัฐบาลนาซี จนไปพบกับประวัติของ เบนจามิน ไฮเดลเบอร์เกอร์ (Benjamin Heidelberger) เจ้าของร้านขายเคหะภัณฑ์เดิมในแบด เมอร์เกนเทียม (ฺBad Mergentheim) ทางตอนใต้ของเยอรมนี ไฮเดลเบอร์เกอร์ ถูกบังคับให้ขายร้านของตัวเองจากกฎหมายการต่อต้านยิวนูเรมเบิร์ก (Nuremberg laws) ของนาซี ที่ออกเมื่อ ค.ศ.1938 เพื่อห้ามไม่ให้ชาวยิวได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ด้วยการยึดทรัพย์ชาวยิวทั้งหมดในเยอรมนี
อีเดลแมนน์ ใช้บริการจาก MyHeritage เว็บไซต์การจัดผังครอบครัวและบรรพบุรุษ เพียงแค่ 2 สัปดาห์ เขาได้รับหลักฐานสำคัญสองประการ คือ หลักฐานการโอนสัญชาติของไฮเดลเบอร์เกอร์ จากเขตการปกครองบริติชปาเลสไตน์ และภาพหลุมศพของไฮเดลเบอร์เกอร์กับ เอมมา (Emma) ภรรยาของเขา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของอิสราเอล ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้พบกับประวัติของหลานสาวที่ยังมีชีวิตของไฮเดลเบอร์เกอร์อีกด้วย
อีเดลแมนน์ รีบเขียนจดหมายในภาษาอังกฤษ โดยที่ไม่ได้ตระหนักว่า ฮานนา อีเรนไรช์ (Hanna Ehrenreich) หลานสาวของไฮเดลเบอร์เกอร์ ก็รู้ภาษาเยอรมันเหมือนกัน โดยปัจจุบัน อีเรนไรช์เป็นครูเกษียณอายุ ในวัย 83 ปี ซึ่งเธอยังคงจำทุกรายละเอียดเกี่ยวกับร้านเคหะภัณฑ์ของปู่เธอ โดยที่เธอยังคงแขวนรูปหน้าร้านของปู่เธอเอาไว้ที่กำแพงบ้านในอิสราเอล ที่อยู่ ณ ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าร้านค้าในปัจจุบัน จะไม่ได้ขายเคหะภัณฑ์แล้วก็ตาม
ทั้งสองเขียนข้อความตอบกลับกัน โดย อีเดลแมนน์ เขียนกล่าวขอโทษต่อ อีเรนไรช์ ว่า “ปู่ของผมมาเช่าอาคารต่ออีกที โดยถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกพรรคนาซี แต่เขาเป็นคนดี และไม่ได้มีแนวคิดต่อต้านคนยิว” โดย อีเรนไรช์เอง เคยเดินทางมายังเยอรมนี และเดินมาย้อนรำลึกถึงร้านค้าของผู้เป็นปู่ของเธอมาแล้ว ในช่วงทศวรรษที่ 1980 เธอให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า “ฉันรู้ว่าอีเดลแมนน์เป็นคนดีคนหนึ่ง ที่ได้ซื้อร้านค้าไป ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนดี ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเป็นสมาชิกพรรคนาซีก็ตาม” ทั้งสองได้มีโอกาสพูดคุยผ่านโทรศัพท์ อีเดลแมนน์ กล่าวกับ อีเรนไรช์ ว่า เขาจะไปเยี่ยมเธอที่อิสราเอลสักวัน
รอย แมนเดล (Roi Mandel) หัวหน้านักวิจัยของ MyHeritage ให้สัมภาษณ์แก่ CNN เพิ่มเติมว่า ทางบริษัทได้ฝึกอบรมทีมงานของพวกเขา เพื่อที่จะลงมาทำงานในกรณีที่สุดแสนพิเศษเหล่านี้ เขากล่าวเสริมอีกว่า “ถึงแม้พวกเราจะได้เพียงแค่ชื่อของ ‘เบนจามิน ไฮเดลเบอร์เกอร์’ มาอย่างเดียว แต่เราก็ทำงานอย่างหนักเพื่อการสืบค้นดังกล่าว… เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้มีส่วนร่วมในการกลับมาพบเจอของทั้งสองในครั้งนี้”
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2020/11/14/europe/nazi-grandfather-store-scli-intl-grm/index.html
#Brief #TheMATTER