คุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ไหม? คงไม่มีใครและคนใกล้ตัวของใครอยากป่วยด้วยโรคโรคนี้ แต่ล่าสุด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ลงบทความทางวิชาการ อ้างอิงถึงงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ว่า พวกเขากำลังค้นพบวิธีที่อาจจะทำนายว่าใครเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ได้ เพียงการใช้วิธี ‘การตรวจเลือด’ เท่านั้น
จากผลการทดลองที่ตีพิมพ์ลงใน JAMA เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2020 นักวิจัยพบว่าพวกเขาได้เข้าใกล้วิธีการหาโรคอัลไซเมอร์ ในบุคคลทั่วไปผ่านผลการตรวจเลือด (เช่นเดียวกันกับการตรวจเลือดเพื่อหามะเร็ง) โดยพวกเขาเรียกการตรวจเซลล์เม็ดเลือดแบบใหม่ชนิดนี้ว่า ‘p-tau217’ ซึ่งวิธีการนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเขาเห็นถึงความหวังที่จะตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยที่อาจจะมีภาวะอัลไซเมอร์ในอนาคตได้
โดยพวกเขาจะค้นหา โปรตีนเทา (tau protein) ในเซลล์เม็ดเลือดของมนุษย์ ซึ่งผู้ป่วยอัลไซเมอร์ จะมีโปรตีนเทาเหล่านี้ที่ส่งผลต่อการทำงานของสมองของพวกเขา เนื่องจากโปรตีนเทากับเบตาแอมีลอยด์ (beta-amyloid) นี่เอง ที่เป็นต้นตอของอาการอัลไซเมอร์ในผู้ป่วย
กลุ่มนักวิจัยได้แยกกลุ่มตัวอย่างที่ผ่านการตรวจเลือด p-tau217 ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์ กลุ่มคนที่ถูกวินิจฉัยว่าไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์ และกลุ่มคนที่เคยมีประวัติญาติพี่น้องที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งนำไปเปรียบเทียบกับประวัติของกลุ่มเคยที่ไม่มีญาติพี่น้องป่วยจากโรคดังกล่าว โดยผลการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,402 คน พบว่ามีผล p-tau217 ออกมาที่ค่อนข้างแม่นยำ และสอดคล้องตรงตามกับกลุ่มคนที่ถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทเอาไว้
ทั้งนี้ โรคอัลไซเมอร์ คือ อาการของโรคที่เกิดจากความเสื่อมถอยของการทำงานหรือโครงสร้างเนื้อเยื่อในสมอง โรคๆ นี้มักเกิดในผู้สูงอายุ แต่ก็มิใช่ว่าผู้สุงอายุทุกคนจะเสี่ยงต่อการป่วยลงด้วยโรคดังกล่าว โดยอาการของอัลไซเมอร์นั้น ผู้ป่วยจะมีอาการเริ่มต้นที่สูญเสียความทรงจำระยะสั้น ไปจนถึงสูญเสียการเรียนรู้ ความรู้สึกนึกคิด ภาษา และพฤติกรรม
ถึงแม้ว่าปัจจุบัน จะยังไม่มีวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาด นอกจากการรักษาประคับประคองไปตามอาการ แต่การวิจัยชิ้นนี้ อาจจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยบุคคล ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอัลไซเมอร์ในอนาคตล่วงหน้าได้กว่า 20 ปี
อ้างอิงจาก
https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/september-2018/alzheimer-disease
#Brief #TheMATTER