ทุกแผ่นดินและสถานที่ที่เราเหยียบย่ำ ล้วนมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในอดีตกาล หลักฐานบางชิ้นสูญหายไปตามกาลเวลา แต่บางชิ้นก็ยังคงเป็นอนุสรณ์ให้เราเห็นจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับหอคอยกะโหลกมนุษย์ชาวแอซเท็กที่ถูกฝังอยู่กลางกรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ที่ล่าสุดเพิ่งค้นพบโครงหัวกะโหลกปริศนาเพิ่มอีกกว่า 119 ชิ้น
สถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ หรือ INAH ได้ออกมาแถลงว่ามีการขุดพบหัวกะโหลกเพิ่มเติมบริเวณหอคอยหัวกะโหลกอันโด่งดัง เป็นสัญญาณให้เห็นว่าพื้นที่นี้เคยมีคนตายมากมาย และบางส่วนก็ยังไม่ถูกค้นพบ
สำหรับหอคอยหัวกะโหลกมนุษย์แห่งนี้ ได้รับการค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการบูรณะปฏิสังขรณ์อาคารแห่งหนึ่ง เมื่อปี ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา นักโบราณคดีเชื่อว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของชั้นวางหัวกะโหลกที่วิหารเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ สงคราม และการบูชายัญ ซึ่งเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ของมนุษย์แอซเท็ก ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มชาติพันธ์ในทางตอนกลางของเม็กซิโก
สำหรับชั้นวางหัวกะโหลกอันเลื่องลือนี้ รู้จักกันในชื่อ ‘Huey Tzompantli’ ตั้งอยู่บริเวณมุมของวิหาร Huitzilopochtli ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คุ้มครองเมือง Tenochtitlan เมืองหลวงของชาวแอซเท็กในเวลานั้น จึงมีการสัญนิษฐานว่า Huey Tzompantli ถูกสร้างมาเพื่อสร้างความยำเกรงกับกับเหล่าศัตรูที่หวังเข้ามายึดครองเมือง
ที่ผ่านมานักโบราณคดีพยายามทำความเข้าใจความหมายที่อาจซุกซ่อนอยู่ในหอคอยหัวกะโลกดังกล่าว ซึ่งหลังจากมีการขุดค้นและตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า หัวกะโหลกที่ถูกนำมาประดับนั้นมีทั้งศีรษะของนักรบ ผู้หญิง และเด็ก ทำให้มีการคาดการณ์ว่า หอคอยแห่งนี้อาจเป็นสถานที่บูชายัณอย่าง ซึ่งเหล่าผู้หญิงและเด็กอาจเป็นเหยื่อของพิธีกรรมนี้
แน่นอนว่านี่ถือเป็นอีกหนึ่งการค้นพบครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าวิหาร Huitzilopochtli ยังซุกซ่อนปริศนาไว้อีกมากมายที่รอการค้นพบ และหนึ่งในปริศนานั้นอาจบอกเราได้ว่าเพราะเหตุใดเหล่าผู้บริสุทธิ์จึงกลายเครื่องรางที่ป้องกันเมืองเช่นนี้ได้
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55283313
https://www.theguardian.com/world/2020/dec/11/mexico-templo-tower-of-skulls-archaeologists-aztec
#BRIEF #TheMATTER