แรงดีไม่มีตก สำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นแห่งปีอย่าง Demon Slayer ที่ล่าสุด มีรายงานว่า Demon Slayer กำลังจะขึ้นแท่นเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล แซงหน้า Spirited Away ซึ่งเกาะตำแหน่งนี้อยู่นาน และเคยกวาดรางวัลระดับออสการ์มาแล้ว
Demon Slayer บอกเล่าเรื่องราวของ ทันจิโร่ เด็กหนุ่มผู้สูญเสียครอบครัวเกือบทั้งหมดจากการอาละวาดของพวกอสูร เขาเหลือเพียง ‘เนซึโกะ’ น้องสาวคนเล็กเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตรอด แต่ทันจิโร่กลับพบว่าน้องสาวของเธอกำลังค่อยๆ กลายร่างเป็นอสูร เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนน้องสาวสุดที่รักให้กลับมาเป็นมนุษย์ปกติอีกครั้ง
เรื่องราวอันแสนกล้าหาญของพี่ชายที่แสนดีได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆ คน ตั้งแต่สมัยจะเป็นการ์ตูนมังงะ จนถูกนำมาทำภาพยนตร์ก็สามารถทำรายได้ไปอย่างถล่มทลาย หลังจากเข้าฉายครั้งแรกในญี่ปุ่น จนถึงตอนนี้รวม 60 วัน มียอดผู้ชมภาพยนตร์แล้วกว่า 22 ล้านคน และทำรายได้ไปสูงถึง 30.28 พันล้านเยน ขาดอีกเพียง 520 ล้านเยน ก็จะแซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Spirited Away ซึ่งทำสถิติไว้ที่ 30.80 พันล้านเยน
สำหรับตัวเลขรายได้ในไทยก็ไม่น้อยหน้าทีเดียว Demon Slayer ทำรายได้ในสัปดาห์แรกหลังเปิดตัวฉายไปถึง 32.28 ล้านบาท และขณะนี้ก็ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ทำรายได้เปิดตัวเป็นอันดับ 1 สูงสุดในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว
ภาพยนตร์ Demon Slayer ไม่เพียงแค่มีคุณค่าในแง่ของของชิ้นงาน แต่มันยังสร้างแรงกระเพื่อมให้เศรษฐกิจที่ซบเซาลงของญี่ปุ่นตื่นตัวขึ้นมาได้ โทชิฮิโระ นากาฮามะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสถาบันวิจัยชีวิตได-อิจิ (Dai-Ichi Life Research Institute) กล่าวว่า หลังจากประเมินตัวเลขต่างๆ Demon Slayer สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นมากถึง 270,000 ล้านเยน จากการขายของที่ระลึก รวมถึงการนำลิขสิทธิ์ไปทำแฟรนไชส์สินค้าอื่นๆ
แบรนด์กาแฟชื่อดังจาก Dydo Group Holdings ก็ออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่เปลี่ยนกระป๋องกาแฟมาเป็นธีม Demon Slayer กาแฟก็ได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดว่าปีนี้จะทำกำไรได้ถึง 2.5 พันล้านเยน จากเดิมอยู่ที่ 500 ล้านเยน
ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม รัฐบาลให้การส่งเสริมการแผ่ขยายวัฒนธรรมออกสู่ต่างประเทศด้วยวิธีถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ การ์ตูนอนิเมชั่น รวมถึงเพลง Demon Slayer ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงของญี่ปุ่นที่นอกจากจะช่วงส่งเสริมวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ออกไปสู่สายตาโลกแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล
อ้างอิงจาก
#BRIEF #TheMATTER