เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 (ศบค.) ได้กำหนดมาตรการแบ่งพื้นที่ตามความเสี่ยงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ออกเป็น 4 รูปแบบ
.
พื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่ สมุทรสาคร กำหนดให้ทางจังหวัดต้องมีมาตรการหาผู้ติดเชื้ออย่างเร่งด่วน และเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนทั่วไป เช่น ตั้งโรงพยาบาลสนาม ให้ทางจังหวัดพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ติดเชื้อ และกำชับให้มีการใช้แอพลิเคชั่น ‘ไทยชนะ’ ควบคู่ไปกับ ‘หมอชนะ’
.
ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการบางแห่ง และห้ามเปิดสถานประกอบการบางประเภทที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด รวมถึงให้มีควบคุมการเข้า-ออกในพื้นที่ โดยเฉพาะห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายระหว่างจังหวัด และให้มีการหันมาใช้นโยบาย Work From Home อย่างเต็มขึดความสามารถ ควบคู่ไปกับการเรียนออนไลน์
.
อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการ อาทิ โรงงาน หรือการออกเรือทำประมงยังคงทำได้ เพียงแต่ให้มีมาตรการเข้มงวดขึ้น ตรวจทั้งแรงงานและอาหารสด และที่สำคัญ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มากเด็ดขาด ซึ่งรวมถึงงานวันปีใหม่และงานวันเด็ก
.
พื้นที่ควบคุม หรือพื้นที่ที่ติดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ได้แก่ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม กรุงเทพฯ โดย ศบค. กำหนดให้พื้นที่เหล่านี้ต้องมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกเช่นกัน และให้เน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดด้านอื่นๆ อย่างรัดกุม
.
แต่ในพื้นที่ควบคุม ให้เน้นไปที่การพิจารณาจากเจ้าของพื้นที่ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหลัก โดยให้พิจารณาเวลาปิด-เปิดสถานประกอบการต่างๆ ตามความเหมาะสม ให้พิจารณามาตรการทำงานและเรียนออนไลน์ตามความเหมาะสม
.
นอกจากนี้ ศบค. ยังเน้นย้ำให้พื้นที่ควบคุมประสานความร่วมมือกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบเดินทางข้ามพื้นที่ โดยเฉพาะจากแรงงานต่างด้าว และให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก แต่สามารถจัดเป็นวงเล็กๆ เหมือนงานเลี้ยงที่บ้านได้
.
พื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย และมีแนวโน้มจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ มีทั้งหมด 25 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ อ่างทอง
.
ในพื้นที่เฝ้าระวังสูง ศบค. มีมาตรการที่คล้ายคลึงกับการควบคุมในพื้นที่ควบคุม โดยยังให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อในเชิงรุก ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเวลาการเปิด-ปิดสถานประกอบการต่างๆ รวมถึงให้พิจารณานโยบายทำงานและเรียนที่บ้าน และยังกำชับว่าให้เฝ้าระวังผู้ที่อาจลักลอบเข้าจังหวัดจากพื้นที่เสี่ยงอื่น ทั้งนี้ ในพื้นที่เฝ้าระวังสูง ยังคงสามารถจัดกิจกรรมสาธารณะได้ แต่ต้องมีมาตรการลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
.
พื้นที่เฝ้าระวัง หรือพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ ได้แก่ทุกจังหวัดที่ไม่ถูกจัดในพื้นที่อื่น โดยยังคงให้มีมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อ และให้กำชับเรื่องการป้องกันโรคเบื้องต้น อาทิ สวมหน้ากากอนามัย, ใช้เจลล์ล้างมือ หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวกัน ทั้งนี้ ในพื้นที่เฝ้าระวังสามารถจัดกิจกรรมสาธารณะได้ แต่ต้องมีมาตรการลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เช่นเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวังสูง
.
.
อ้างอิง: