ในช่วงค่ำของวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ประชาชนชาวอาร์เจนตินากลุ่มหนึ่งโห่ร้องอย่างยินดี พลางโบกผ้าเช็ดหน้าสีเขียวสะบัดไปทั่วหน้ารัฐสภา และตะโกน “ES LEY! (มันคือกฎหมาย)” หลังจากที่วุฒิสภามีมติ 38 ต่อ 29 เสียง ผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่รองรับการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย หลังจากเคยตีตกไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2018
.
โดยแต่เดิมกฎหมายของอาร์เจนตินาอนุญาตให้ทำแท้งได้เฉพาะผู้ที่ถูกข่มขืน หรือเสี่ยงต่อชีวิตหากคลอดบุตร โดยมีบทลงโทษจำคุกสูงถึง 15 ปีสำหรับผู้ฝ่าฝืน ขณะที่กฎหมายฉบับใหม่จะอนุญาตให้ทำแท้งอย่างถูกกฎหมายได้ถึงอายุครรภ์ 14 เดือน และผู้ที่อายุระหว่าง 13-16 ปี สามารถติดต่อขอทำแท้งโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังมีอำนาจในการยับยั้งการตัดสินใจได้เช่นกัน
.
ผู้สนับสนุนกฎหมายดังกล่าวที่เรียกตัวเองว่า ‘คลื่นสีเขียว’ ต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี เพราะแม้จะไม่มีการเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง แต่กระทรวงสาธารณสุขของอาร์เจนตินาเคยประเมินไว้ว่า ในทุกๆ ปี มีชาวอาร์เจนตินาราว 371,965 – 522,000 คน ที่เข้ารับการทำแท้งอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่าง ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ได้อ้างข้อมูลของทางการอาร์เจนตินาที่ชี้ว่ามีผู้หญิง 39,025 คนที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากผลข้างเคียงของการลักลอบทำแท้ง และกว่า 6,000 คนในนั้นมีอายุระหว่าง 10-19 ปี
.
อย่างไรก็ตาม ในอาร์เจนตินาเองยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านกฎหมายดังกล่าว โดยแทนกลุ่มตัวเองด้วยการแต่งกายในชุดสีน้ำเงิน เพื่อสื่อความหมายถึง ‘รักษาทั้งสองชีวิต (Save Both Lives)’ ได้แสดงความผิดหวังกับการตัดสินใจของสมาชิกวุฒิสภา โดย Lucia Ricoveri นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ว่า ชาวอาร์เจนตินาโศกเศร้ากับการตัดสินใจครั้งนี้ และผลที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความล้มเหลวในเชิงนโยบายอย่างชัดเจน
.
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะอาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกมากกว่าร้อยละ 92 จากจำนวนประชากร 44.5 ล้านคน และหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางศาสนาในปัจจุบัน โป๊ปฟรานซิส เองก็เป็นคนอาร์เจนตินาเช่นกัน
.
โดยครั้งหนึ่ง โป๊ปฟรานซิส ได้เขียนจดหมายถึงสมาชิกรัฐสภาอาร์เจนตินา โดยมีข้อความว่า “ปัญหาของการทำแท้งไม่เกี่ยวข้องกับแต่ศาสนาเท่านั้น แต่มันคือเรื่องพื้นฐานอย่างจริยธรรมของความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาสนาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกและลำดับสูงสุด” ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา คริสตจักรแห่งอาร์เจนตินาเองก็ส่งข้อความถึงรัฐสภาว่า การทำแท้งผิดหลักทั้งในแง่ของวิทยาศาสตร์การแพทย์และกฎหมาย
.
หลายฝ่ายหวังว่าการตัดสินใจผ่านร่างกฎหมายนี้ของอาร์เจนตินาจะเป็น “สัญญาณแห่งความหวังให้แก่ประเทศอื่นในภูมิภาค” โดยจากผลสำรวจของสถาบัน Guttmacher Institute ระหว่างปี 2015-2019 ในภูมิภาคละตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียนมีการลักลอบทำแท้งผิดกฎหมายอยู่ที่ราว 5.4 ล้านครั้ง
.
โดยในภูมิภาคนี้มีเพียง คิวบา, อุรุกวัย, เฟรนช์เกียนา และกายอานาเท่านั้นที่มีกฎหมายรองรับการทำแท้ง (เม็กซิโก ซิตี้ และรัฐโอซากา ในเม็กซิโกสามารถทำได้แต่ต้องขออนุญาต) โคลอมเบีย, คอสตา ริกา, กัวเตมาลา และปานามา อนุญาตให้ทำได้หากจำเป็นต้องรักษาชีวิตของผู้ตั้งครรภ์ ขณะที่ เอลซัลวาดอร์, โดมินิกัน, เฮติ, ฮอนดูรัส, นิการากัว และซูรินาม ต่างห้ามการทำแท้งในทุกกรณี
.
*แก้ไขล่าสุดเมื่อ: 17.11 น.
.
.
อ้างอิง: