ศบค. เผยยอดผู้ป่วย COVID-19 สะสมในไทย ทะลุ 10,000 ราย
.
นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ COVID-19 ไทยก็กลับมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด ศบค.ประกาศว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมรวมของประเทศไทย ทะลุ 10,000 รายแล้ว
.
สำหรับวันนี้ (9 มกราคม) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันที่ 9 มกราคม พบผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 212 ราย โดยแบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 187 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 6 ราย และผู้เดินทางจากต่างประเทศ 19 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 10,053 ราย
.
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมกว่าหมื่นรายนี้ แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 7,933 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาคัดกรองเชิงรุก 2,748 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,120 ราย ผู้ป่วยจากในสถานที่กักกัน 1,573 ราย ขณะที่ ผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก ขณะเดียวกัน มีผู้ที่หายป่วยแล้ว 5,546 ราย เพิ่มขึ้น 291 ราย โดยวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 67 ราย
.
อีกทั้ง รายงานวันนี้ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยที่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค มีทั้งหมด 29 ราย โดยอยู่ในจังหวัดตาก 1 ราย, สิงห์บุรี 4 ราย, สมุทรปราการ 5 ราย, ชลบุรี 14 ราย, ระยอง 2 ราย และจันทบุรี 3 ราย
.
ขณะเดียวกัน ยังมีประกาศมาตรการสำหรับพื้นที่ใน 5 จังหวัดที่ต้องควบคุมอย่างหนัก ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยกำหนดมาตรการ 3 ข้อ สำหรับการเดินทางเข้าออก 5 จังหวัด ได้แก่ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ และสังเกตอาการ ต้องมีการตรวจแอพพลิเคชัน ‘หมอชนะ’ รวมถึง มีเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง
.
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยกราฟรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศ โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ เส้นกราฟของประเทศไทยอยู่ในแนวราบมาโดยตลอด แต่นับตั้งแต่ปลายเดือนก่อนถึงปัจจุบัน เส้นกราฟของประเทศไทยตั้งชันขึ้นมาจนเกือบจะเป็นแนวตั้ง และนพ.ทวีศิลป์ ยังคาดอีกว่า เส้นกราฟผู้ติดเชื้อของประเทศไทยจะยังไม่กลับไปเป็นแนวราบในเร็ววันนี้
.
ขณะที่ บริษัท Wisesight ได้ใช้เครื่องมือ ZOCIAL EYE วิเคราะห์ข้อมูลการแพร่ระบาด COVID-19 ตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อคนแรกในวันที่ 18 ธ.ค. 2563 ถึง 5 ม.ค. 2564 พบว่า ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตพูดถึงมาตรการรับมือ COVID-19 ของรัฐบาลมากที่สุด (810,985 เอ็นเกจเมนต์) โดยประชาชนให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและรับมือกับสถานการณ์ให้เร็วที่สุด รวมถึงอยากให้เข้าไปเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้ผลกระทบให้ได้เร็วที่สุดเช่นกัน
.
.