– เป็นการติดเชื้อในประเทศ 259 ราย
– ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการฯ 78 ราย
– ผู้ป่วยจากการคัดกรองเชิงรุก 181 ราย
– เดินทางมากจากต่างประเทศ และเข้ากักตัวในสถานที่กักกันของรัฐเพิ่มอีก 11 ราย ได้แก่ ปากีสถาน 2 ราย ฮังารี 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐฯ 1 ราย รัสเซีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย แคนาดา 1 ราย เยอรมนี 1 ราย และอินโดนีเซีย 1 ราย
– เดินทางมากจากต่างประเทศ แต่ไม่ได้เข้ากักตัวในสถานที่กักกันของรัฐ เพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งมาจากเมียนมา
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ดังนี้
– ผู้เสียชีวิตรายที่ 68 เป็นชายอังกฤษ อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ไทรอยด์ และมะเร็งปอด โดยเดินมาจากอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม และถึงไทยในวันที่ 7 ธันวาคม ก่อนจะเข้าสถานที่กักกันของรัฐ โดยมีอาการไข้ เสมหะ จึงเก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจ ก่อนจะพบว่าติด COVID-19 และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา
– ผู้เสียชีวิตรายที่ 69 เป็นชายไทย อายุ 53 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติระหว่างวันที่ 26-30 ธันวาคม เดินทางไปจันทบุรี ชลบุรี และเพชรบุรีโดยรถยนตร์ส่วนตัว ก่อนวันที่ 3 มกราคม เริ่มมีอาการไข้ ปวดศีรษะ และมีเสมหะ และก่อนจะเข้ารับการรักษาตัวในวันที่ 5 มกราคม ผลตรวจออกมาพบติด COVID-19 และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตในวันที่ 10 มกราคม
โดยตอนนี้ ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 11,262 ราย และผู้ที่รักษาหายแล้ว 7,660 ราย (เพิ่มขึ้น 717 ราย) และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 69 ราย และในการระบาดระลอกใหม่นี้ มีการพบผู้ติดเชื้อใน 60 จังหวัดของไทยแล้ว