หลายปีให้หลัง ประเทศไทยเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นฮับของการจัดคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะศิลปินไทยเอง หรือศิลปินต่างชาติ ทั้งเกาหลี จีน รวมถึงโซนตะวันตก ต่างก็บินมาจัดคอนเสิร์ตในบ้านเรา จนกรุงเทพฯ กลายเป็นมหานครแห่งคอนเสิร์ตเลยก็ว่าได้
ทว่าหลายครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในไทยนั้นประกอบไปด้วยความไม่พร้อม ทั้งด้านสถานที่จัดคอนเสิร์ต การขนส่งมวลชน ยังไม่รวมถึงสภาพอากาศที่ปัจจุบันแทบจะเข้าข่ายอันตรายเพราะค่าความร้อนที่พุ่งสูงขึ้น หรือปัจจัยอื่นๆ อันเนื่องมาจากทางผู้จัดที่ไม่เอื้อให้แฟนคลับได้โอกาสไปคอนเสิร์ตของศิลปินที่พวกเขารักอย่างง่ายดาย และเกือบจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าปัจจัยต่างๆ เหล่านี้สวนทางกับจำนวนคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นในบ้านเราราวฟ้ากับเหว
เสียงบ่นระงมนับครั้งไม่ถ้วนจากเหล่าผู้คนที่อยากไปดูคอนเสิร์ต แต่กลับพบเจอปัญหามากมายทั้งคอนเสิร์ตกดบัตรกระชั้นชิด ราคาบัตรแพง บอตลงตอนกด มีแต่ต่างชาติได้บัตรแถวหน้า สถานที่ไม่เหมาะสม ขนส่งมวลชนเข้าไม่ถึง โปรดักชั่นไม่สมราคา ตั้งคอนโทรลบังคนดู ผู้จัดไม่สนใจผู้บริโภค เลิกคอนเสิร์ตหารถกลับไม่ได้ กว่าจะถึงบ้านแทบลืมความสุขที่ได้เจอศิลปินคนโปรดไปเสียหมด
แต่แล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 4-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ กลับมีศิลปินคนหนึ่งยกระดับบรรทัดฐานของคอนเสิร์ตในไทยให้เหนือขึ้นไปกว่าที่เคยเป็นมา นั่นคือศิลปินเกาหลี สัญชาติไทยอย่าง ‘แบมแบม—กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ‘แบมแบม GOT7’
นับเป็นการปิดฉากเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของแบมแบมอย่างสง่างาม ในประเทศบ้านเกิด ณ สเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อย่างสนามราชมังคลากีฬาสถาน กับคอนเสิร์ต ‘BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK’ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากทั้งแบมมี่ อากาเซ่ คนที่อยากไปดูคอนเสิร์ต และคนทั่วไปเป็นอย่างดี ว่าคอนเสิร์ตนี้แบมแบมใส่ใจทุกคนมากขนาดไหน เรียกได้ว่าใส่ใจตั้งแต่เริ่มกดบัตร กระทั่งจัดคอนเสิร์ตจบเลยทีเดียว
อาจจะด้วยความรักที่อยากให้แฟนคลับได้รับแต่สิ่งดีๆ และได้รับโมเมนต์แห่งความสุขกลับไป แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืออีกระดับของการเตรียมพร้อม และคิดอย่างรอบคอบ จากการศึกษา Customer Insights เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่แฟนคลับต้องการ และพร้อมจะซัปพอร์ตแฟนคลับเท่าที่ตัวศิลปินคนหนึ่งจะทำให้ได้
วันนี้ The MATTER ขอหยิบยกเอาความใส่ใจแฟนคลับของแบมแบมบางส่วนที่น่าสนใจ ซึ่งคาดว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคอนเสิร์ตอื่นๆ เสมือนว่าเราเป็นอีกเสียงของผู้บริโภคที่สะท้อนไปถึงเหล่าผู้จัดคอนเสิร์ตต่างๆ มาให้ดูกัน
01 หยุดวงจรบัตรอัปราคา
ขึ้นชื่อว่าคอนเสิร์ต แน่นอนว่ามันต้องเป็นพื้นที่สำหรับแฟนคลับและศิลปิน เป็นโมเมนต์แห่งความทรงจำและปิดฉากวันนี้ที่รอคอย แต่ในทุกครั้ง ก็มักจะมีพวกที่หากินกับความชอบของแฟนคลับ อาศัยจังหวะชุลมุน กดบัตรคอนเสิร์ตออกมาอัปราคาขายต่อ
แต่ไม่ใช่กับคอนเสิร์ตของแบมแบม เพราะในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกช่วงปลายปี 2023 นั้น ทันทีที่แบมแบมเห็นคนลงขายบัตรอัปราคา แบมแบมก็ทวีต และเมนชั่นถึง Thaiticketmajorเว็บไซต์ที่ดูแลเรื่องการกดบัตรทันทีว่า สิ่งนี้ผิดปกติ ให้ทำการตรวจสอบ จากนั้นไม่นาน บัตรที่ถูกนำมาอัปราคาก็โดนดึงกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อให้แฟนคลับได้กดอีกครั้ง และแบมแบมยังทวีตตอบกลับคนที่ขายบัตรอัปราคาอีกว่า ขอให้แฟนคลับอย่าได้สนับสนุนบัตรอัปเหล่านี้ เพราะนั่นคือการหากินบนความพยายามของคนอื่น
02 วางผังคอนเสิร์ตและโปรดักชั่นที่ใส่ใจทุกพื้นที่
สิ่งที่แฟนคลับตั้งตารอคอยทันทีที่รู้ว่าศิลปินที่เรารักจะเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ต ก็คือผังคอนฯ จะหน้าตาเป็นแบบไหน แล้วยิ่งคาดหวังมากขึ้นไปอีก เมื่อคอนเสิร์ตนั้นจัดที่สเตเดียมที่ยิ่งใหญ่อย่างราชมังฯ แฟนคลับก็อยากใกล้ชิดศิลปิน แต่ด้วยพื้นที่แสนกว้างใหญ่ ผังคอนฯ แบบไหนที่จะไปหาแฟนคลับทุกพื้นที่กันนะ
ศิลปินหนึ่งคน กับพื้นที่เท่าสนามฟุตบอล แต่แบมแบมกลับเนรมิตพื้นที่สนามฟุตบอลนั้น ให้กลายเป็นเวทีโดยรอบเพื่อไปหาแฟนๆ ทุกคนได้อย่างทั่วถึง บวกกับความพยายามตั้งราคาบัตรให้แฟนคลับเข้าถึงได้ โดยราคาบัตรเริ่มที่ 1,000 บาท ซึ่งนับว่าหาได้ยากกับราคาคอนเสิร์ตศิลปินต่างชาติในสมัยนี้ และแบมแบมยังพยายามทำให้บัตรทุกราคา ทุกที่นั่ง ได้สัมผัสประสบการณ์ของคอนเสิร์ตอย่างเท่าเทียมกัน จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง พลุ โดรน น้ำ ที่ไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหนของราชมังฯ ก็ได้รับความประทับใจเหล่านี้กลับไปอย่างแน่นอน
นอกจากโชว์ที่อลังการแล้ว สวัสดิภาพของแฟนคลับก็ยังได้รับการใส่ใจ คอนเสิร์ตนี้ มีการบริการจุดขายน้ำดื่มโดยรอบ เพื่อให้แฟนคลับสามารถซื้อน้ำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าราชมังฯ กับการเดินขึ้นที่นั่งบนดอยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะขึ้นไปถึงด้านบน ลมแทบจับ บวกกับสภาพอากาศในบ้านเรายิ่งแล้วเข้าไปใหญ่ การอนุญาตในแฟนคลับสามารถนำกระบอกน้ำเข้าคอนเสิร์ตได้ และมีพื้นที่ให้ซื้อน้ำแม้กระทั่งบนดอย เลยเป็นที่พูดถึงและได้รับคำชมในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะ ‘น้ำ’ ในคอนเสิร์ต แทบจะเปรียบได้กับโอเอซิสกลางทะเลทรายเลยจริงๆ
แถมแบมแบมยังมีพูดทิ้งท้ายในคอนเสิร์ตอีกว่า ราชมังฯ เดินขึ้นดอยลำบาก ครั้งหน้าอาจจะหาทางทำให้แฟนคลับขึ้นไปด้านบนได้สะดวกขึ้น เรียกได้ว่าไม่ได้หยุดแค่คอนเสิร์ตนี้ แต่อะไรที่ปรับได้ หรือทำเพื่อให้แฟนคลับได้มากขึ้น ในคอนเสิร์ตครั้งหน้าแบมแบมก็ยังจะทำต่อไปอีก
03 จัดการการเดินทางเพื่อคนที่มาดู และประชาชนโดยรอบราชมังฯ
เป็นที่เลื่องลือว่าราชมังฯ การสัญจรนั้นเป็นอย่างไร ลำพังในช่วงที่ไม่มีคอนเสิร์ตจัดก็ว่ารถติด เดินทางยากแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่มีคอนเสิร์ตเหมือนเอาชีวิตเกือบครึ่งไปทิ้งกับการเดินทาง จะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็ไปไม่ถึง จะขับรถไปเองก็ทั้งติด ทั้งไม่มีที่จอด
แต่สำหรับของคอนเสิร์ตของแบมแบมในครั้งนี้ เรียกว่ามีเซอร์วิสที่แสนประทับใจ เพราะมีจุดบริการที่จอดรถให้ฟรีกว่า 200 คัน ตั้งแต่ 09.00 – 00.00 น. นอกจากจะบริการผู้ที่มาชมคอนเสิร์ตแล้ว คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังใส่ใจประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ราชมังฯ อีกด้วย เพราะงานจราจร สน.หัวหมาก ได้ติดป้ายประกาศหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจร ตั้งแต่ก่อนจัดคอนเสิร์ตราว 1 สัปดาห์ เป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะแบมแบมคิดมาแล้ว และสำรวจมาแล้วจริงๆ ว่าการจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ นั้นควรตระหนักถึงอะไรบ้าง แค่ประกาศหลีกเลี่ยงเส้นทาง กับมีจุดจอดรถฟรีให้อาจจะยังแก้ปัญหาได้ไม่มากพอ ก็เลยแบ่งการเลิกคอนเสิร์ตออกเป็น 3 ช่วง เพื่อทยอยส่งแฟนคลับกลับบ้านอย่างไม่กระทบการสัญจรของประชาชนทั่วไป และเพื่อให้แฟนคลับไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางออกจากสนามนาน จนได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั่วไปที่เดินทางโดยใช้เส้นทางนั้น และแฟนคลับที่ไปชมคอนเสิร์ตอย่างล้นหลาม
04 ดูแลศิลปินและแฟนคลับของเกสต์ที่เชิญมาเป็นอย่างดี
นอกจากจะคิดมาอย่างรอบคอบแล้วทั้งการจัดคอนเสิร์ต และเรื่องราวยิบย่อยอย่างการเดินทางและน้ำดื่ม แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับเสียงชื่นชมไม่ขาดสายสำหรับคอนเสิร์ตนี้คือการให้เกียรติ ‘ซึลกิ’ ศิลปินที่เป็นแขกรับเชิญของงาน และให้เกียรติแฟนคลับของซึลกิที่ไปดูคอนเสิร์ตนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งมีกล่องรับจดหมายด้านหน้าคอนเสิร์ตให้ซึลกิ ตั้งอยู่คู่กับกล่องรับจดหมายของเจ้าของคอนเสิร์ตอย่างแบมแบม บนเวทีก็ยังให้เกียรติซึลกิได้แสดงโชว์ของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำเอาลัฟวี่ที่ตั้งใจไปคอนเสิร์ต พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอ และอยากขอบคุณแบมแบมที่ให้เกียรติศิลปินของพวกเขาจากใจ นี่ยังไม่นับรวมถึงแบมแบมที่รับบทเป็นล่ามจากหลังเวที คอยแปลสิ่งที่ซึลกิพูดเป็นภาษาไทยให้ทุกคนในคอนเสิร์ตอีกด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความตั้งใจของแบมแบมที่เรารวบรวมมา เพราะในคอนเสิร์ตนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่แบมแบมตั้งใจทำให้แฟนคลับ แม้มันอาจจะไม่ได้ 100% ไม่ได้แก้ปัญหาที่ไปถึงระดับโครงสร้าง แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการจัดคอนเสิร์ตในไทย และเป็นการจัดคอนเสิร์ตที่ยึดเอาผู้บริโภคเป็นหลักจริงๆ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะทำให้คนเป็นแฟนคลับยิ้มออกมาได้ สร้างความประทับใจให้ผู้คนแล้ว มันยังเป็นการตอกย้ำว่าแฟนคลับก็คือผู้บริโภคที่ควรได้รับสิ่งที่คุ้มค่ากับเงินตราที่จ่ายไป และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้จัดสนใจฟังเสียงของแฟนคลับจริงๆ เสียงชมเชยก็จะดังสะท้อนกลับไปหาพวกเขาด้วยเช่นกัน
และในวันนี้ก็มีเสียงยืนยันมากมายแล้วว่า ‘แบมแบม’ คือศิลปินอีกหนึ่งคนที่ใส่ใจและพยายามเพื่อแฟนคลับของเขามากขนาดไหน