ใครบ้าง ฝันอยากมีร้านหนังสือ หรือ โรงหนังเล็กๆ ที่คอยฉายหนังที่ตัวเองเป็นคนคัดเลือก และคงจะดีถ้าทุกพื้นที่เต็มไปด้วยร้านหนังสือหรือโรงหนังที่ผู้คนไม่ต้องคอยเข้าหาแต่ร้านเชนใหญ่ๆ หรือมีเฉพาะแต่ในกรุงเทพ
.
‘พก’ มีโมเดลแบบนั้น โดยจุดตั้งต้นมาจาก ‘เป๊ก–ธวัชชัย ดวงนภา’ และ ‘ดา–สุดารัตน์ สาโรจน์จิตติ’ ที่หลังจากย้ายมาอยู่เชียงราย พวกเขาก็ไม่เจอร้านหนังสืออิสระ หรือโรงหนังที่จะฉายหนังที่พวกเขาอยากดู จึงตั้งใจทำร้านของตัวเองขึ้นมา โดยเป็นร้านหนังสืออและโรงหนังที่เคลื่อนที่ได้
.
ในส่วนของร้านหนังสือ พวกเขาคัดเลือกหนังสือจากความชอบของตัวเอง ทั้งหนังสือเกี่ยวกับสารคดี หนังสือที่เป็นประเด็นทางสังคม หรือหนังสือที่ช่วยทำงานกับภายในของตัวเรา โดยการขายหนังสือนี้จะหักเงินจากการขาย 5% ไปสมทบทุนสำหรับซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดอิสระ
.
ส่วนโรงหนัง พวกเขาตั้งใจพาหนังให้ไปฉายที่ไหนก็ได้ เลยออกแบบโมเดลเป็น 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับพื้นที่และข้อจำกัดต่างๆ ที่เจอ แต่ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดอะไร พวกเขาก็ปรับให้การดูหนังและสร้างโรงหนังนั้นไม่ยากเกินเอื้อม
.
เราได้ไปคุยกับ เป็ก และ ดา ถึงที่มาที่ไป คอนเซ็ปต์ ความท้าทาย และหัวใจของการทำร้านหนังสืออิสระและโรงหนังที่ชื่อ ‘พก’ ขึ้นมา
.
“จุดเริ่มต้นเราเลยคืออยากทำโรงหนังอิสระ แล้วก็ร้านหนังสืออิสระควบคู่กันไปด้วย เราเชื่อว่าสิ่งนี้มันดี แล้วก็เชื่อว่าถ้ามันส่งไปถึงผู้คน ทุกคนที่ได้รับสารน่าจะชอบแล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น เราคาดเดานะว่าเค้าอาจจะไม่มีพื้นที่ในการที่เข้าไปดู เข้าไปเห็นสิ่งแบบนี้ครับ”
.
เป๊กเราให้เราฟังถึงที่มาที่ไป จากการที่ทั้งคู่เป็นคนทำสารคดีอยู่แล้ว และชอบอ่านหนังสือ เขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คนที่ได้อ่าน ได้ดู เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน
.
“เราไปศึกษาว่าโรงหนังหรือร้านหนังสือจะอยู่รอดยังไง คือบ้านที่เราอยู่ มันอยู่ในพื้นที่ลึกลับนิดนึง เราไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แล้วก็ประกอบกับเป้าหมายที่เราต้องการให้มันเข้าถึงผู้คน สุดท้ายเราก็ต้องไปตั้งร้านที่มันอยู่ในจุดพื้นที่ที่คนจะมาได้”
.
“เราคิดว่ามันมีความคล้าย Foodtruck มากเลยนะ เพราะเราเองก็เคยคุยกับคนเหล่านี้ เค้าบอกว่าการทำ Foodtruck ลงทุนทีเดียว ถ้าตรงนี้ขายไม่ดีเราก็ย้ายไปขายตรงอื่น แล้วสุดท้ายก็จะเจอที่ทางของมัน”
.
“จุดเด่นมันคือการเข้าไปในพื้นที่ที่มันเข้าไม่ถึงด้วย เพราะว่าบางพื้นที่อย่างที่อุ้มผาง เราก็รู้สึกว่ามันก็คงไม่ต้องมีโรงหนังขนาดใหญ่ไปตั้งมั้ง แต่ว่าเค้าจะเข้าถึงโอกาสของการดูหนังมากกว่านี้ ได้อย่างทัดเทียมเมืองใหญ่ยังไงได้บ้าง ก็เลยคิดว่าการเคลื่อนย้ายของ พก มันเต็มไปด้วยหัวใจแบบนี้
.
เป็กกับดาช่วยกันอธิบายถึงคอนเซ็ปต์ของร้าน และนี่จึงเป็นหัวใจหลักของ ‘พก’ ที่พร้อมเคลื่อนที่ไปหาทุกคน โดยตอนนี้พวกเขาตั้งต้นกันที่เชียงรายก่อน และวาดฝันว่าอยากให้ ‘พก’ เกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ทั่วไทย
.
แต่อย่างที่หลายๆ คนพอจะรู้ การทำร้านหนังสือและโรงหนังอิสระเป็นเรื่องท้าทาย และมีความยากในตัวเอง แต่เป็กกับดาเชื่อว่าถ้าอยู่ให้ได้นานพอ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
.
“ทุกอย่างในชีวิตมันไม่ง่ายอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราสองคนต้องทำ คือเราก็ต้องอยู่ให้ได้นานที่สุด มันก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหายที่เราจะทดลอง”
.
นอกจากนี้สิ่งที่เป็กกับดาตั้งใจ คือการสร้างวัฒนธรรมการดูหนังที่ไม่ใช่การดูฟรี เพื่อผลักดันให้วงการหนังในไทยเกินไปข้างหน้าได้ด้วยการมีเงินทุนจากการดู สร้างคุณค่าให้กับหนังและการผลิตหนัง และเป็นพลังให้คนทำหนังในไทยยังอยู่ได้
.
“พกไม่ได้ฉายหนังฟรีครับ เราเก็บเงินเพราะเรารู้สึกว่ามันควรเป็นวัฒนธรรม เรารู้สึกว่าต้องเริ่มบอกคนดูแล้ว เพราะไม่อย่างงั้นเค้าก็จะคิดไม่ออกว่า เค้าจะจ่ายเงินเพื่อศิลปะทำไม เค้าจะจ่ายเงินเพื่อหนังทำไม จนตอนนี้วัฒนธรรมดูฟรีหรือไม่ได้ให้ค่ากับการผลิตหนังเหล่านี้มันหยั่งรากลึก จนทำให้อุตสาหกรรมทั้งสารคดี ทั้งอุตสาหกรรมหนังอ่ะ มันเดินไปไม่ได้”
.
“เราต้องการสร้างสิ่งแวดล้อมที่มันรองรับคนทำงานสารคดี ทำงานหนัง เพราะตัวเราเองก็เป็นคนทำสิ่งนั้นอยู่แล้ว ก็น่าจะเป็นหัวใจของ พก กับเราเหมือนกัน ” ดาเน้นย้ำกับเราอีกครั้งถึงหัวใจของร้าน
.
หากใครอยากติดตามว่า พก ไปอยู่ที่ไหนบ้าง สามารถเข้าไปดูได้ในเพจ พก : ร้านหนังสือและโรงหนัง ขนาดเล็ก ได้เลยนะ 🙂
.
#Brief #whatsup #TheMATTER