ในวันนี้เป็นวันที่สองที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยภาพรวมของวันนี้คือฝ่ายค้านมีเวลาอภิปรายเหลือทั้งหมดราว 32 ชั่วโมง
1.ในช่วงเช้า จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวถึงประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และคณะรัฐบาลได้ตกลงหลังม่านกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทอัคราให้ยอมความในคดีที่ฟ้องร้องประเทศไทย โดยแลกกับการอนุญาตให้สำรวจทองคำบนพื้นที่กว่า 44 แปลง (200,000 – 400,000 ไร่) ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาล คสช. เคยใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อระงับการทำเหมืองทั่วประเทศ โดยให้เหตุผลเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทคิงส์เกตก็ได้ยื่นฟ้องประเทศไทยและหากประเทศไทยแพ้อาจถูกปรับมากถึง 22,500 ล้านบาท
2.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นพูดและเรียกเสียงฮือฮาทั้งจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน และเสียง ‘ท่านประธานครับ’ จากฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล โดยเขาได้พูดถึงการจัดหาวัคซีนของ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดความใส่ใจ นำชีวิตของประชาชนไปเสี่ยงดวงกับบริษัทสยามไบโอเซนส์ ที่ไม่มีความรู้ในการผลิตวัคซีนมาก่อน และอ้างสถาบันกษัตริย์เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังในการบริหารที่ผิดพลาดของตัวเอง
อ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจของวิโรจน์ได้ที่:
https://www.facebook.com/…/a.17358760…/2819727481575969/
3.ตลอดระยะเวลาที่วิโรจน์อภิปราย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลต่างออกมาผลัดกันยกมือประท้วงและเรียกร้องให้ถอนคำพูด ทั้งในแง่การใช้คำของวิโรจน์ การพาดผิงอ้างอิงถึงนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุขด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ รวมถึงมีการอ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
4.นายกฯ ได้ลุกขึ้นตอบในประเด็นที่วิโรจน์อภิปราย โดยชี้ว่าอันที่จริงประเทศไทยก็รีบมือสถานการณ์แพร่ระบาดได้ดีกว่าหลายประเทศ ส่วนทางด้านเรื่องเศรษฐกิจที่รายได้จากภาคการท่องเที่ยวลดลง รัฐบาลเองก็ตระหนักดีและพยายามเพิ่มรายได้จากการส่งออกและภาคการเกษตรกรรมให้มากขึ้น พร้อมกล่าวว่า “ผมทำเท่าที่ผมทำได้ ถ้าสถานการณ์ปกติผมอาจทำได้ดีกว่านี้อีก”
5.ทางด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ตั้งแต่มี Covid-19 มา คำต่อไปในหัวของผมคือวัคซีน” โดยเขาอธิบายว่าในขณะนี้ประเทศไทยกำลังจะมีวัคซีนเข้ามาล็อคแรกเดือน ก.พ. จำนวน 200,000 โดส และเข้ามาอีก 800,000 โดสและ 1,000,000 โดสในเดือนต่อมา และจะเริ่มผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาในประเทศได้ในปลายเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายนนี้ ซึ่งการผลิตวัคซีนภายในประเทศจะทำให้ไทยกลายเป็น Hub ด้านวัคซีนในภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องน่าภูมิใจสำหรับคนไทย
6.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหา Covid-19 โดยเฉพาะในการระบาดรอบล่าสุดที่มีปัญหามาจากกระบวนการลักลอบแรงงานข้ามชาติ โดยชลน่านชี้ว่า นับตั้งแต่ปี 2557 คสช. ได้ยกเลิก พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำงานของคนต่าวด้าว พ.ศ. 2551 และประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ทำให้คนต่างด้าวเข้ามาในประเทศเยอะขึ้น และกระบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติที่ชลน่านอธิบายว่าเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจและอาจมีการลักลอบแรงงานผิดกฎหมายมากว่า 2 ล้านคนแล้ว
7.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ปีกแรงงาน ได้เปิดประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยชี้ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ออกโครงการเพื่อแก้ปัญหาว่างงานหลายโครงการแต่กลับไม่มีประสิทธิภาพและผิดกฎหมาย อาทิ โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งประกาศรับสมัครแรงงานทั้งหมด 15,548 อัตรา แต่กลับมีค่าแรงให้เพียง 5,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง 20 วัน/เดือน ซึ่งถือว่าไม่สอดรับกับกฎหมายแรงงาน นอกจากนี้ วรรณวิภายังชี้ถึงนโยบายลดเงินอุดหนุนประกันสังคมของภาครัฐ ซึ่งมาถึงขณะนี้ ในปีงบประมาณ 64 รัฐค้างงบประกันสังคมสูงถึง 87,978 ล้านบาท ซึ่งอาจกระทบต่อผู้จ่ายเงินประกันสังคมในอนาคตต่อไป
8.วรรณวิภายังได้เปิดเผยข้อมูลในเวลานี้ว่า ขณะนี้ทุกภาคเศราษฐกิจกำลังขาดแรงงาน เพราะแรงงานข้ามชาติถูกส่งตัวกลับหมด โดยเธอยกข้อมูลที่ชี้ว่าปัจจุบันการนำเข้าแรงงานข้ามชาติอย่างถูกกฎหมายมีต้นทุนสูงถึง 19,580-28,180 บาท ขณะที่แรงงานผิดกฎหมายต้นทุนแค่ 13,000 บาท ดังนั้น จึงไม่แปลกว่าทำไมปัญหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายถึงยังมีอยู่ เพราะทั้งถูกกว่า เร็วกว่า และมีผู้มีอำนาจได้ประโยชน์ในโครงการดังกล่าว
9.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ลุกขึ้นตอบประเด็นการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวว่า ขณะนี้ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ และจะเร่งติดตามและแก้ไขปัญหาต่อไป
10.ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ก็ยืนยันว่าขณะนี้กำลังดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบอยู่ ส่วนเรื่องที่บอกว่ากลุ่ม 3 ป. (ประวิทย์, ประยุทธ์, อนุพงศ์) รับเงินผิดกฎหมายนั้น ยืนยันว่าไม่มี เพราะรังเกียจคนทำผิดกฎหมายและเงินชั่วๆ
11.สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ตอบฝ่ายค้านว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลเดียวที่มีการจ่ายคืนหนี้ประกันสังคม โดยลดจากนับแสนล้านบาท จนเหลือ 66,000 ล้านบาท ก่อนยืนยันว่าโครงการจัดหางานของภาครัฐรวมถึงที่ร่วมกับภาคเอกชนในงบประมาณ 19,000 ล้านบาทตามความเป็นจริง ส่วนเรื่องแรงงานต่างด้าวยืนยันว่ามีการจัดทีมแพทย์ลงไปดูแลและคัดกรองตรวจโรคอย่างดี
12.ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้พูดถึงเรื่องการใช้อำนาจ ม.44 เพื่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้แก่บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป จำกัด ถึงปี 2602 เพื่อแลกกับหนี้จำนวนเกือบ 12,000 ล้านบาทของ กทม. ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีมติคณะรัฐมนตรี 26 พฤศจิกายน 2561 ให้ กทม. กู้เงินจากรัฐบาลเพื่อชำระหนี้บีทีเอสก่อน แล้วเปิดให้มีการประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน อย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปฏิบัติตาม ซ้ำยังมีการออกคำสั่ง คสช. 3/2562 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 (หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562) เพื่อนิรโทษกรรมความผิดของกรุงเทพฯ และหลบเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562
ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา: 21.00 น. ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564
#Recap #TheMATTER #อภิปรายไม่ไว้วางใจ