หรือการรอคุยกับเธอในฝันกำลังจะกลายเป็นจริงได้ ? หลังทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีพูดคุยกับคนที่กำลังนอนฝันได้แบบเรียลไทม์
ว่ากันว่าความฝันเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ลึกลับ และซับซ้อนมากที่สุดเท่าที่ใครคนหนึ่ง (ที่ไม่ใช่เจ้าของความฝัน) จะเดินทางเข้าไปได้ แต่คงไม่มีอะไรจะเกินความสามารถของมนุษย์ เมื่อทีมนักวิจัยนานาชาติค้นพบวิธีที่จะสนทนากับผู้ที่กำลังนอนฝันได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งผู้ที่อยู่ในฝันก็สามารถตอบคำถาม และพูดคุยกับทีมนักวิจัยได้ด้วย
ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology เปิดเผยว่า ผู้เข้าร่วมทดสอบสามารถตอบคำถามง่ายๆ เช่น โจทย์คณิตศาสตร์ได้ ขณะที่ร่างกายกำลังอยู่ในโหมด Rapid eye movement sleep (REM sleep) ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้นอนหลับจะฝันถึงสิ่งต่างๆ
ในการทดสอบเบื้องต้น ทีมนักวิจัยได้คัดเลือกกลุ่มทดลองจำนวน 36 คน โดยให้เข้ามานอนหลับในห้องปฏิบัติการซึ่งตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ เริ่มต้น กลุ่มนักวิจัยจะทำให้พวกเขารู้ตัวว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน จากนั้นจะตรวจสอบว่ากลุ่มนักฝันเข้าสู่โหมด REM Sleep แล้วหรือยัง ด้วยการวางอิเล็กโทรดไว้ข้างบนดวงตา, หนังศีรษะ และคาง เพื่อวัดคลื่นสมอง และการเคลื่อนไหวของลูกตา
หลังกระบวนการเตรียมการเสร็จสิ้น เมื่อกลุ่มผู้ทดสองเข้าสู่โหมดพร้อมทดลองด้วยการนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจะตรวจสอบว่าให้แน่ใจว่าพวกเขาอยู่ในความฝันด้วยการถามคำถามง่ายๆ และให้ส่งสัญญาณบางอย่างที่เตรียมการไว้ก่อนหน้ากลับมา เช่น ขยับลูกตาไปทางซ้าย ซึ่งจากการทดสอบพบว่า ผู้เข้าร่วมบางคนตอบสนองต่อคำถามต่างๆ เช่น วัยรุ่นชาวสหรัฐฯ คนหนึ่ง กรอกตาเป็นตัวเลข 2 เมื่อนักวิจัยถามว่า 8 ลบ 6 เป็นเท่าไหร่
ผลการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่า มีนักฝันตอบสนองการสื่อสารได้อย่างชัดเจน และแม่นยำประมาณ 18% ขณะที่ 17% ให้คำตอบแต่ไม่มีความชัดเจน ส่วน 3% ให้คำตอบที่ไม่ถูกต้อง และที่เหลือ 60% ไม่กระตุ้นต่อการตอบสนองใดๆ
แม้ว่าความสำเร็จจากการทดลองเบื้องต้นจะยังไม่สูงเท่าไหร่นัก แต่นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของกระบวนการสื่อสารกับคนในความฝัน ซึ่งผู้ร่วมทดสอบหลายคนเปิดเผยว่า พวกเขาสามารถจดจำปฏิสัมพันธ์ต่างๆ กับนักวิจัยหลังจากตื่นนอนได้ และบางกลุ่มได้ยินเสียงนักวิจัยขณะนอนหลับ คล้ายกับเสียงคลื่นวิทยุที่ดังจากภายนอกความฝัน
กลุ่มนักวิจัยเปิดเผยว่า พวกจะไม่หยุดยั้งการทดลองไว้เพียงเท่านี้ และจะทดลองเพิ่มเติมด้วยการตรวจสอบความเป็นไปได้ในการสื่อสารกับกลุ่มนักฝันที่รู้ตัว (Lucid Dream) ต่อไป ซึ่งแม้ว่ากระบวนการเหล่านี้จะต้องผ่านการศึกษาอีกมากมาย แต่ท้ายที่สุด มันอาจนำมาซึ่งการสร้างประโยชน์อย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น อาจทำให้ทีมแพทย์สามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเจ้าชายนิทราได้
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/…/scientists-achieve-real-time…