“การที่ส่งทั้งสี่คนไปฝากขังเหมือนการเปิดวอร์ วันนี้เรามีม็อบ พรุ่งนี้เรามีม็อบ และวันถัดๆ ไปก็จะมีม็อบอีกเหมือนกัน เราอยากให้ทุกคนออกมาก่อนที่ศักดินาจะได้ใจมากกว่านี้”
หลังจากที่ศาลมีคำสั่งรับฝากขัง 4 แกนนำคณะราษฎรในข้อหามาตรา 112 รุ้ง – ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร ได้นัดหมายรวมตัวบริเวณสกายวอร์กสี่แยกประทุมวัน
ปนัสยา กล่าวว่า เธอรู้สึกสะเทือนใจมากต่อคำตัดสินของศาล แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงไม่ผิดจากที่ทางกลุ่มคาดไว้นัก ดังนั้น จึงได้มีการเตรียมพร้อม ทั้งคนที่มาแทนและการวางแผนด้านอื่นๆ ไว้แล้ว
“เรามองว่าศาลถูกกดดัน เพราะมันมีสัญญาณก่อนหน้านี้จาก ม.ล.จุลเจิม ยุคล รวมถึงข่าวจากพี่อานนท์ (อานนท์ นำภา) ด้วยว่า ศาลรับแรงกกดดันไม่ไหวแล้ว แต่ทีแรกเขาบอกว่าจะยื้อให้ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่พวกเรา รวมถึงรุ้งมีนัดส่งตัวอัยการ” เธอกล่าวต่อถึงอนาคตการต่อสู้คดีของตัวเองว่า “คิดว่าน่าจะได้กลับเข้าไปอีกรอบในวันนั้น”
เธอกล่าวถึงท่าทีของภาครัฐว่า “นี่ไม่ใช่ท่าทีประนีประนอม ก่อนหน้านี้เรามองแบบนั้น มันอาจเป็นเพียงการดึงเกมให้มาอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้คนออกมาไม่ได้ อย่างปกติ ถ้าเรานัดรวมพลอาจจะได้คนเต็มสกายวอล์คในเวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมง แต่วันนี้มันไม่ใช่เพราะสถานการณ์ COVID-19 บานปลายจนคนไม่กล้าออกมา ทุกคนกลัวตาย กลัวโรค เราเข้าใจทุกคน”
“การที่ส่งทั้งสี่คนไปฝากขังมันเหมือนการเปิดวอร์ เมื่อวันนี้เรามีม็อบ พรุ่งนี้เรามีม็อบ และวันถัดๆ ไปก็จะมีม็อบอีกเหมือนกัน เราอยากให้ทุกคนออกมาก่อนที่ศักดินาจะได้ใจมากกว่านี้” เธอกล่าวถึงการเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นในวันต่อๆ ไป
#Quote #TheMATTER #คณะราษฎร
