ถ้าคุณอาศัยอยู่ในรัฐ West Virginia คุณสามารถเดินไปฉีดวัคซีนสู้ COVID-19 ได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน และภาครัฐที่นี่จะไม่สัญญาอะไรในสิ่งที่ยังไม่มั่นใจ นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการกระจายวัคซีนไปยังท้องถิ่นที่ได้รับคำชื่นชมว่า จัดการเรื่องวัคซีนได้ดีที่สุดในประเทศสหรัฐฯ
วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจบทเรียนจากรัฐ West Virginia กันว่า พวกเขาทำอย่างไรถึงสามารถกระจายวัคซีนไปให้กับผู้คนได้อย่างรวดเร็ว และออกแบบกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมารัฐ West Virginia เองก็เคยมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง ประชาชนในหลายเมือง ประสบปัญหาความยากจน การเข้าไม่ถึงอาหารที่มีคุณภาพ และปัญหายาเสพติด ยิ่งเมื่อมีวิกฤต COVID-19 เข้ามา ก็ยิ่งทำให้ปัญหาที่มีอยู่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ถึงอย่างนั้นภาวะผู้นำและการตัดสินใจที่เฉียบคมจากท้องถิ่น ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รัฐนี้ลุกขึ้นสู้กับการแพร่ระบาดไวรัสได้ดีมากที่สุดรัฐหนึ่ง
สัญญาณความสำเร็จแรก เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ว่าการรัฐ West Virginia ที่ตัดสินใจไม่เอาด้วยกับนโยบายของรัฐบาลกลาง ที่เน้นการฉีดวัคซีนผ่านร้านขายยาแบรนด์ใหญ่ (และมีทุนใหญ่) อย่าง Walgreen และ CVS เพียงอย่างเดียว แต่ทาง West Virginia ได้ออกแบบทางเลือกใหม่ โดยจะให้ความสำคัญกับ ‘ร้านขายยาท้องถิ่น’ เป็นพิเศษแทน
เหตุผลหลักก็คือ รัฐ West Virginia มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาค่อนข้างเยอะ ประชาชนกระจายตัวอาศัยอยู่ในขอบนอกเมืองเป็นจำนวนมาก ถ้าหากเน้นฉีดวัคซีนผ่านร้านใหญ่ๆ แล้ว ก็จะทำให้คนที่อยู่นอกเมืองเข้าไม่ถึงได้ ในทางกลับกัน ประชาชนจำนวนไม่น้อยกลับใกล้ชิด และไว้วางใจกับร้านขายยาท้องถิ่นขนาดกลางๆ และเล็กๆ เสียมากกว่า
ภาครัฐจึงเข้าไปสร้างความร่วมมือกับร้านขายยาท้องถิ่นต่างๆ พร้อมกับนำความรู้ บุคลากรที่เชี่ยวชาญเข้าไปเติมตามพื้นที่ เพื่อทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด
การเข้าใจ ‘ความไว้วางใจ’ ของประชาชนจึงเป็นประเด็นสำคัญในเรื่องการฉีดวัคซีน และรัฐ West Virginia ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้การฉีดวัคซีนในรัฐนี้ ทำได้ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเหนือรัฐอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา
“การเป็นพาร์ทเนอร์กับท้องถิ่น มันช่วยให้คุณจัดการการกระจายวัคซีนได้ และนี่คือสิ่งที่รัฐ West Virginia ประสบความสำเร็จ” กล่าวโดย แคลร์ แฮนนาน ผู้บริหารของ Association of Immunization Managers
ปัจจัยต่อมาคือการฉลาดตัดสินใจของท้องถิ่น ที่มีนโยบายสั่งให้ ‘กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ’ (National Guard) เข้ามาทำหน้าที่เสมือนกระดูกสันหลังให้กับการกระจายวัคซีน เพื่อช่วยอุดปัญหาทั้งเรื่องการขนส่งวัคซีน
นโยบายเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะรัฐ West Virginia ได้ตั้งทีมงานพิเศษ (task force) ขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ว่าปัญหาตอนนี้คืออะไร มีระเบียบราชการตรงไหนที่เป็นอุปสรรคบ้าง เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว จึงแก้ไปทีละเรื่องเรื่อยๆ
แน่นอนว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและทุกคนหวังว่าวัคซีนคือความหวังอันสูงสุดของสถานการณ์นี้ สิ่งที่ภาครัฐของ West Virginia ทำคือการ ‘บริหารความคาดหวัง’ ของประชาชนไปพร้อมๆ กับการทำงานภาคสนาม
สิ่งที่ทางการตั้งไว้เป็นปรัชญาคือ “ไม่สัญญาในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง” กล่าวคือ ถ้าวัคซีนยังมาไม่ถึง หรือยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ พวกเขาก็จะไม่ออกมาสัญญากับประชาชนไปล่วงหน้า รวมถึงจะให้ประชาชนจองคิวฉีดวัคซีนต่อเมื่อมีวัคซีนมาถึงมือของเจ้าหน้าที่แล้วเท่านั้น
ปัจจัยนี้คือการบริหารความคาดหวังของประชาชน เพราะรู้ว่าถ้ายิ่งปล่อยให้รอนานๆ ไป ความเชื่อมั่นที่ประชาชนจะมีต่อภาครัฐก็จะยิ่งน้อยลงไปทุกวัน
ตลอดจนการถอดบทเรียนปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ West Virginia เคยเจอปัญหาที่ประชาชนโทรมาจองคิวฉีดวัคซีนกันเยอะมากๆ จนทำให้หลายๆ คนไม่พอใจรัฐที่โทรไปติดและกลัวว่าจะเข้าไม่ถึงวัคซีน ซึ่งทางการก็ไม่ได้โทษประชาชน แต่เข้าใจปัญหาว่า ที่ประชาชนหงุดหงิด และรีบร้อนที่จะฉีดวัคซีน ก็เพราะพวกเขารู้ว่า วัคซีนมันมีจำนวนไม่เยอะมาก
ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาคือ ต้องรีบหาวัคซีนมาเพิ่มให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้ความตระหนกของประชาชนลดลงไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ารัฐ West Virginia จะไม่เจอปัญหาเหมือนกับพื้นที่อื่นๆ เพราะพวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหาหลัก เช่น การมีศูนย์กระจายวัคซีนที่ค่อนข้างน้อย ทำให้การกระจายวัคซีนทำได้ช้า แต่ถึงอย่างนั้น ทางการก็แก้ปัญหาด้วยการกระจายศูนย์ฯ ลงในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
บทความจาก The New York Times อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญ เช่น การตัดสินใจที่รวดเร็ว การไม่สนใจระบบราชการ หรือลำดับขั้นการสั่งการแบบเดิมๆ คือสิ่งที่ช่วยให้ West Virginia กระจายวัคซีนไปยังประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาภาครัฐได้
หนึ่งในคำพูดที่สะท้อนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี มาจาก เคน รีด เจ้าของร้านขายยาเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมือง เขาพูดเอาไว้ว่า
“พวกเขาเป็นเพื่อนบ้านของคุณ เป็นเพื่อนคุณ เป็นพ่อแม่ของเพื่อนคุณ คุณก็แค่ปฏิบัติต่อเขาให้เหมือนกับที่คุณอยากให้เขาปฏิบัติต่อคุณ”
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2021/01/24/us/west-virginia-vaccine.html
https://www.theguardian.com/us-news/2021/feb/10/west-virginia-covid-vaccines-taskforce
#explainer #covid19 #โควิด #โควิด19 #TheMATTER