ประสิทธิภาพวัคซีนป้องกัน COVID-19 ยังเป็นที่จับตามองทั่วโลก โดยเฉพาะวัคซีน AstraZeneca ซึ่งล่าสุดประเทศเดนมาร์ก ได้กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศระงับใช้วัคซีนชนิดดังกล่าวอย่างถาวร เนื่องจากกังวลว่าวัคซีนมีความเชื่อมโยงกับอาการเลือดแข็งตัว
.
การประกาศระงับใช้วัคซีนของบริษัท AstraZeneca เป็นไปตามข้อมูลจากหน่วยงานด้านยาของสหภาพยุโรป (European Medicines Agency) ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาว่า วันซีนมีความเชื่อมโยงกับการเกิดลิ่มเลือดในผู้ฉีด
.
จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ฉีดวัคซีนที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวจำนวน 169 คน จากผู้ฉีดวัคซีน AstraZeneca ทั้งหมด 34 ล้านโดสในสหภาพยุโรป แม้ว่าอัตราการเกิดจะถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่หลายเคส ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
.
โซเรน โบรสตรอม (Soren Brostrom) หัวหน้าหน่วยงานด้านสุขภาพของเดนมาร์กระบุว่า จากการตรวจสอบอาการลิ่มเลือดในผู้ฉีดวัคซีน แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่มีความรุนแรง ดังนั้นเดนมาร์กจึงพิจารณาดำเนินการฉีดวัคซีนต่อไปโดยไม่มี AstraZeneca เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐของเดนมาร์กระบุว่า เดนมาร์กยังไม่ปิดกั้นโอกาสที่จะกลับมาใช้วัคซีนของ AstraZeneca อีกครั้งในอนาคต ในเงื่อนไขที่บริษัทต้องมีหลักฐานยืนยัน ว่าวัคซีนมีความปลอดภัยกับผู้ฉีดอย่างแท้จริง
.
การระงับใช้วัคซีนของ AstraZeneca ส่งผลให้โครงการฉีดวัคซีนของเดนมาร์กล่าช้าไปราวๆ 4 สัปดาห์ แต่ถึงเช่นนั้น เดนมาร์กยังมีวัคซีนของ Moderna และ Pfizer-BioNTech สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
.
ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters ระบุว่า ขณะนี้ประชาชนของเดนมาร์กราวๆ 1 ล้านจากทั้งหมด 5.8 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว โดย 77% ของประชากรได้รับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech และ 7.8% รับวัคซีนของ Moderna ขณะที่ 15.3% รับวัคซีนของ AstraZeneca
.
.
อ้างอิงจาก
https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-denmark-vaccine-idUSKBN2C118T?utm_campaign=trueAnthem%3A%20Trending%20Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=facebook&fbclid=IwAR3Jyi5rjCINJXcPFcQrXXNxmXtDwBDnlqhAB_vzAKRctVAzOvOc2sPnrao
https://www.bbc.com/news/world-europe-56744474
#Brief #TheMATTER