ในปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นปีที่ท้าทายวงการภาพยนตร์อีกครั้ง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งทำเอาโรงภาพยนตร์ต้องปิดตัวลง วงการหนังเองก็เผชิญความท้าทายจากการถ่ายทำ และการออกฉาย หนังหลายเรื่องถูกเลื่อนออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นปีที่มีหนังน่าสนใจและเต็มไปด้วยคุณภาพให้ได้รับชมอยู่ไม่น้อย
.
ในงานประกาศรางวัล ออสการ์ครั้งที่ 93 ครั้งนี้ แม้โรคระบาดจะยังไม่ได้หายไปไหน แต่ทางผู้จัดงานออสการ์ก็ประกาศว่าพวกเขาไม่ได้บังคับให้ผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากาอนามัย แต่ก็ยังคงพยายามใช้มาตรการ social distancing เป็นสำคัญ และ บรรยากาศการเดินพรมแดง (ที่เป็นสีชมพู) ในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่สถานีรถไฟ Union Station ที่ลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นพื้นที่เปิด ในขณะที่ Dolby Theatre ที่เคยจัดเป็นประจำในปีที่ผ่านๆ มานั้นถูกใช้เป็นที่สำหรับโชว์และการแสดงระหว่างการประกาศรางวัล
.
ความน่าสนใจในปีนี้คือมีภาพยนตร์ที่ถ่ายทำโดยคนผิวดำทั้งหมดได้เข้าร่วมชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นั่นก็คือ Judas and the Black Messiah (หลังออสการ์มักมีข่าวเกี่ยวกับการการเหยีดยผิวและเหยียดเพศอยู่เสมอ) นอกจากนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ภาพยนตร์เกี่ยวกับสังคมและวิถีชีวิตของคนเกาหลีได้เสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกครั้ง (Minari) รวมไปถึงในปีนี้ที่มีผู้กำกับหญิงถึงสองคนได้เสนอชื่อเข้าชิงผู้กำกับยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
.
การประกาศรางวัลในปีนี้ได้มีการเปิดเทรลเลอร์หนังเรื่องใหม่จาก Steven Spielberg ในชื่อ ‘West Side Story’ ซึ่งสร้างความน่าสนใจไม่น้อย หลังจากเทรลเลอร์ตัวนี้ต้องถูกเลื่อนการฉายออกไปเนื่องจากเขาอยากให้ทุกคนได้รับชมในบนจอกว้างๆ
.
ปีนี้มีเรื่องที่อาจถูกตั้งคำถามเล็กน้อยจากการประกาศรางวัลใหม่นั่นก็คือ สาขาเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound) ซึ่งเป็นการรวมรางวัล สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Editing) และสาขาผสมเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Mixing) เข้าด้วยกัน และอาจทำเอาผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะสองสาขานี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่ทีเดียว
.
ออสการ์ปีนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการมอบรางวัลให้กับผู้หญิงผิวดำ Mia Neal และ Jamika Wilson ในสาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม ซึ่งพวกเธอได้ขึ้นพูดถึงรางวัลในครั้งนี้ว่า “ฉันได้มายืนอยู่ตรงนี้และทลายกำแพงลงแล้ว และฉันตื่นเต้นกับอนาคตมากๆ เพราะฉันนึกภาพว่าผู้หญิงทรานส์ผิวดำอาจได้ขึ้นมาอยู่ตรงนี้ หรือแม้กระทั่งพี่น้องผู้หญิงชาวเอเชีย รวมไปถึงพี่น้องผู้หญิงชาวลาติน และผู้หญิงชนเผ่าพื้นเมือง ฉันเชื่อว่าในอนาคตมันจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หรือเป็นการทลายกำแพงใดๆ แต่มันจะกลายเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นได้”
.
Minari อีกหนึ่งภาพยนตร์โดยชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ก็ได้เข้าชิงออสกาณ์ในปีนี้ โดยมี Yuh-Jung Youn เป็นนักแสดงหญิงชาวเกาหลีคนแรกที่ได้รางวัลออสการ์ โดยเธอได้สร้างเสียงหัวเราะให้กับงานในครั้งนี้ เมื่อเธอทักทาย Bradd Pitt ว่าในที่สุดก็ได้เจอกัน นอกจากนี้เธอยังพูดต่ออีกว่า “ฉันชนะ Glenn Close ได้ยังไง?”
.
ในการประกาศรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ Fight For You จากภาพยนตร์ Judas and the Black Messiah และขับร้องโดย H.E.R นั้น เธอได้กล่าวพูดระหว่างการรับรางวัลว่า “ฉันแค่อยากจะพูดอย่างนี้กับไม่ว่าจะนักดนตรี หรือคนทำหนัง ฉันเชื่อว่าพวกเรามีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องเล่าความจริง และเขียนประวัติศาสตร์ในแบบที่มันเกิดขึ้นและเชื่อมโยงกับพวกเราในวันนี้ รวมไปถึงสิ่งที่โลกกำลังเผชิญในวันนี้” นอกจากนี้เธอยังพูดต่อไปอีกว่า “ดนตรีคือพลังอำนาจ และฉันจะสู้เพื่อคนของฉัน”
.
สำหรับภาพยนตร์ Mank โดย David Fincher ที่เข้าฉายใน Netflix ก็ได้รับการเสนอเข้าชิงมากที่สุดคือ 10 รางวัล และได้รางวัลกลับไปสองรางวัล
.
Nomadland ตัวเก็งในปีนี้คว้าไปสามสามรางวัลสำคัญคือ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) และ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) ซึ่ง Chloé Zhao เป็นหญิงชาวจีนคนแรกที่ได้รางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (ตอนประกาศนั้น Bong Joon Ho ได้ทำหน้าที่เป็นผู็ประกาศด้วย) และเป็นผู้กำกับหญิงคนที่สองที่ได้รางวัลนี้ไป (จากการประกาศผลรางวัลออสการ์ 93 ครั้งที่ผ่านมา) โดยเธอได้ขึ้นพูดว่า “รางวัลนี้สำหรับคนที่ศรัทธาและยึดมั่น รวมถึงมีความกล้าในการรักษาความดีในตัวพวกเขา ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน และรางวัลนี้เป็นของคุณ คุณทำให้ฉันเดินหน้าต่อไปได้”
.
ในขณะที่ Anthony Hopkins ได้รางวัลคว้าสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) จาก The Father หลังจากหลายคนคาดว่า Chadwick Boseman จะได้รับรางวัลนี้ไปหลังจากเขาได้รางวัล Golden Globe ไปก่อนหน้านี้
.
สามารถดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลออสการ์ในคืนนี้ทั้งหมดอยู่ในรายละเอียดด้านล่างนี้นะ
.
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
– Nomadland
สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
– Chloé Zhao จากภาพยนตร์ Nomadland
สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
– Anthony Hopkins จาก The Father
สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
– Frances McDormand จาก Nomadland
สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
– Daniel Kaluuya จากภาพยนตร์ Judas and the Black Messiah
สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
– Yuh-Jung Youn จากภาพยนตร์ Minari
สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
– Emerald Fennell จากภาพยนตร์ Promising Young Woman
สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
– Christopher Hampton and Florian Zeller จากภาพยนตร์ The Father
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)
– Soul
สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Language Film)
– Another Round
สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary – Feature)
– My Octopus Teacher
สาขาสารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary – Short Subject)
– Colette
สาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short Film)
– Two Distant Strangers
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film)
– If Anything Happens I Love You
สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
– Trent Reznor, Atticus Ross and Jon Batiste จาก Soul
สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
– Fight for You จากภาพยนตร์ Judas and the Black Messiah
สาขาเสียงยอดเยี่ยม (Best sound)
– Sound of Metal
สาขาออกแบบการถ่ายทำยอดเยี่ยม (Best Production Design)
– Mank
สาขากำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
– Erik Messerschmidt จาก Mank
สาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
– Ma Rainey’s Black Bottom
สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
– Ma Rainey’s Black Bottom
สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
– Sound of Metal
สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
– Tenet
.
อ้างอิงข้อมูลจาก
.