เป็นเวลากว่า 1 เดือนที่กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของประเทศไทย หลังเกิดการติดเชื้อในคลัสเตอร์สถานบันเทิง และล่าสุด หนึ่งในพื้นที่ที่มีการยืนยันผู้ติดเชื้อมากที่สุด และน่าเป็นห่วงมากที่สุดคือชุมชนคลองเตย ชุมชนที่หลายคนมองว่าถูก กทม. ทอดทิ้งในช่วงที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ชุมชนคลองเตยมีประชาชนอาศัยอยู่ราวๆ 8-9 หมื่นคน ที่ทำงานกระจายอยู่รอบพื้นที่กรุงเทพฯ และนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในระลอกเดือนเมษายน พบผู้ป่วย COVID-19 ในเขตคลองเตยแล้วกว่า 304 คน แบ่งเป็นผู้อาศัยในแหล่งชุมชนแออัด 193 ราย ส่วนอีก 111 ราย อาศัยอยู่ในแหล่งอื่นๆ เช่น คอนโด หอพัก เป็นต้น
จากการเร่งตรวจเชิงรุก พบว่า ผู้ป่วยจากคลองเตยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลจุฬาฯ ประมาณ 5-10% มีอาการปอดอักเสบ ดังนั้น ภาครัฐจึงเร่งควบคุมการระบาดในพื้นที่ดังกล่าว โดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ชุมชนคลองเตยมีสภาพความเป็นอยู่แออัด ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีพื้นที่สำหรับแยกกักตัว ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย ยิ่งกว่านั้นชาวคลองเตยยังทำอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานแบบ Work From Home ได้ และต้องเดินทางไปทำงานทั่วพื้นที่ กทม. ดังนั้น หากไม่สามารถควบคุมดูแลพื้นที่นี้ อาจส่งผลให้สถานการณ์แพร่ระบาดทั่ว กทม. แย่ลงอีก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติด COVID-19 ที่วัดสะพาน ระหว่างรอนำผู้ป่วยส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม โดยศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติด COVID-19 จะทำหน้าที่แยกผู้ติดเชื้อ และดูแลผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้อยู่ในการควบคุมของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในคลองเตยเอง และความปลอดภัยของชาว กทม. คนอื่นๆ
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังส่งหนังสือไปยังการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้พิจารณาจัดตั้งโรงพยาบาลสนามคลองเตย โดยระบุว่า คลองเตยรวมถึงชุมชนใกล้เคียงเป็นพื้นที่ใหญ่ และมีจำนวนประชากรมาก ดังนั้นหากไม่สามารถลำเลียงผู้ป่วยเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้ทันเวลา อาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ จนเกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข ดังนั้นจึงขอใช้อาคารโกดังสเตเดียมของการท่าเรือฯ สำหรับจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม
และเพื่อรองรับการแพร่ระบาดที่เพิ่มมากขึ้น ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. เตรียมขอวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการควบคุมการระบาดในพื้นที่คลองเตยอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้น จะมีการฉีดให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่นเดียวกับที่เคยใช้วัคซีนควบคุมการระบาดในคลัสเตอร์ตลาดบางแค
อ้างอิงจาก
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/935784
https://www.matichon.co.th/politics/news_2703600