คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมอ่านคำวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ จะต้องพ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรีและ ส.ส.หรือไม่ ในช่วงบ่ายวันที่ 5 พ.ค.2564
น่าสนใจและสำคัญอย่างไร?
รายละเอียดคดีผ่านมาสักพักแล้ว หลายคนอาจลืมเลือนไปบ้าง The MATTER จึงขออาสาสรุปมาให้อ่านกันอีกครั้ง
1.) ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ผู้ร่างให้สมญาว่า ‘ฉบับปราบโกง’ มีการกล่าวถึง ‘ยาเสพติด’ เพียง 2 จุดเท่านั้น ทั้งหมดอยู่ในมาตรา 98 ว่าด้วย ‘คุณสมบัติต้องห้าม’ ของผู้สมัครเป็น ส.ส. หรือภาษาคนทั่วไปคือ คนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ ห้ามมาสมัครเป็น ส.ส. นั่นคือ
หนึ่ง – ห้ามติดยาเสพติดให้โทษ (มาตรา 98(1))
สอง – ห้ามเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุด กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิด ฐานเป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า (มาตรา 98(10))
รัฐธรรมนูญปราบโกงนี้ ยังเขียนไว้ว่า คนที่มีคุณสมบัติต้องห้ามเป็น ส.ส. ก็ห้ามเป็นรัฐมนตรีด้วย (มาตรา 160(6))
2.) เรื่องความเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ร.อ.ธรรมนัสก็เคยถูกโยงมาตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2562 เมื่อหนังสือพิมพ์ของออสเตรเลีย The Sydney Morning Herald (SMH) ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าตัวเคยถูกศาลตัดสินให้จำคุกคดีลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในออสเตรเลีย เมื่อปี 2536
3.) การขุดคุ้ยคดีเมื่อกว่า 30 ปีก่อนก็สนุกมากๆ เพราะ SMH เอาคำพูดที่ ร.อ.ธรรมนัสใช้แถลงข่าวและตอบโต้ฝ่ายค้านในสภาไทยว่า คดีเมื่อปี 2536 เป็นเรื่อง “โอละพ่อ” และเขาเพียงไปอยู่ “ผิดที่ ผิดเวลา” ที่สำคัญ ยังเป็นแค่พยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา/จำเลย โดยถูกคุกตัวไว้ 8 เดือน ก่อนจะไปทำงานต่อที่ฟาร์ม ไม่ได้ถูกจำคุก 4 ปี ไปสืบหาข้อเท็จจริงต่อ
ก่อนจะพบคำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับชายชื่อ Manat Bophlom พร้อมนำข้อเท็จจริงในคดีอย่างละเอียดมาเผยแพร่ ทั้งตัวละครสำคัญ เช่นคนไทยชื่อ ภา ศรศาสตร์ ไพศาล สถานที่เกิดเหตุ อย่างห้องหมายเลข 713 โรงแรม Parkroyal และห้องหมายเลข 1011 โรงแรม Palang และของกลางเป็นเฮโรอีน
4.) แต่ ร.อ.ธรรมนัสก็ยังยืนยันว่า ตนไม่เคยติดคุกเพราะคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย พร้อมส่งทนายไปดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง (รวมถึง ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่หยิบข้อมูลนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจเขา)
5.) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เคยตอบคำถามเรื่องคดียาเสพติดกับคุณสมบัติการเป็รัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัสว่า “ไม่มีผลอะไร เพราะศาลไทยไม่ใช่ผู้ตัดสิน”
6.) ระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ในเดือน ก.พ.2563 ร.อ.ธรรมนัสก็ชี้แจงข้อกล่าวหาจากฝ่ายค้านกลางสภาว่า “ผมไม่เคยมีประวัติคดีอาชญากรรมว่าต้องโดยศาลไทยแม้แต่ครั้งเดียว” และว่า “สื่งที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลียอ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม แท้จริงแล้วมันคือแป้ง!”
7.) คำว่า “มันคือแป้ง” ไม่เพียงกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ยังถูกสื่อรัฐสภาตั้งเป็น ‘วาทะแห่งปี’ ของปี 2563 ด้วย
8.) เดือน พ.ค.2563 ส.ส.พรรคก้าวไกล 54 คน ร่วมกันยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส และนำมาสู่การนัดอ่านคำตัดสินในวันนี้
9.) สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เกิดปี 2508 จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 36
บีบีซีไทยรายงานว่า เขาเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง จากยุทธภูมิ โบพรหม มาเป็น พชร, มนัส และธรรมนัส พรหมเผ่า เคยถูกปลดออกจากราชการมาแล้ว 2 ครั้ง และได้กลับเข้ารับราชการทั้ง 2 ครั้ง
ซึ่งด้วย พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ที่ออกมาในปี 2539 และปี 2550 ทำให้อดีตนายทหารประจำกองบัญชาการทหารสูงสุดคนนี้ ยังสามารถใช้ยศ ‘ร้อยเอก’ ได้จนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ เขายังทำธุรกิจเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย และเป็นผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
10.) ตอนที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เราถึงได้รู้ว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยมีอีกชื่อว่า ‘ธรรมนัสว์’
โดยเขายื่นบัญชีทรัพย์สินพร้อมกับภรรยาจดทะเบียน-อริศรา พรหมเผ่า และผู้อยู่กินฉันสามีภรรยา-ธนพร ศรีวิราช พร้อมกับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยมีทรัพย์สินรวมกัน 839.32 ล้านบาท มีหนี้สิน 72.96 ล้านบาท
11.) ร.อ.ธรรมนัสเคยถูกระบุว่า อยู่ขั้วพรรคไทยรักไทยมาก่อน จากการเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธ.ไอซ์ อดีตที่ปรึกษาของทักษิณ ชินวัตร เขาเคยลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งปี 2557 ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เป็นโมฆะ
หลังรัฐประหารปี 2557 ร.อ.ธรรมนัสถูก คสช.เรียกให้มารายงานตัว ก่อนจะมา ‘พลิกขั้ว’ ในการเลือกตั้งปี 2562 เมื่อสมัครเป็นสมาชิกและลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมกับรับดูแลพื้นที่ภาคเหนือ และพา ส.ส.เขตเข้าสภาได้ถึง 25 คน จากทั้งหมด 61 คน
หลังเลือกตั้งจบ เขาร่วมคณะไปส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้เข้าร่วมรัฐบาล
12.) ร.อ.ธรรมนัสยังเป็น ‘มือประสานกับ 10 พรรคเล็ก’ ที่ได้เก้าอี้ ส.ส.ด้วยสูตรคำนวณของ กกต. โดยเปรียบตัวเองเป็น ‘คนเลี้ยงลิง’ ที่ต้องให้กล้วยกินตลอดเวลา จนคำว่า ‘กล้วย’ กลายเป็นศัพท์การเมืองใหม่ในยุคของรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ
13.) ตอนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ช่วงต้นปีนี้ ร.อ.ธรรมนัสก็ช่วยให้ผู้สมัครจาก พปชร. โค่นผู้สมัครจากพรรคที่เป็นเจ้าของพื้นที่ยาวนานอย่าง ปชป. ลงได้สำเร็จ
เมื่อมีคำสั่งแบ่งงานดูแลพื้นที่ในโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสได้รับมอบหมายให้ดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต แกนนำ ปชป.ซึ่งมีฐานเสียงสำคัญอยู่ในภาคใต้ถึงกับต้องรีบส่งคนมาเคลียร์
14.) ร.อ.ธรรมนัสเคยให้นิยามความสำคัญของตัวเองไว้ ครั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะกรณีคดียาเสพติดว่า
“เขารู้ว่าผมเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่จะเอาเลือดไปหล่อเลี้ยงในหัวใจของรัฐบาล จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อล้มผม”
15.) ชะตากรรมของเส้นเลือดใหญ่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.thairath.co.th/news/politic/2082548
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF
https://workpointtoday.com/sydney-morning-herald-on-thammanat5/
https://www.matichon.co.th/politics/news_1575727
https://www.dailynews.co.th/politics/815289
https://futureforwardparty.org
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/010/65.PDF
https://www.posttoday.com/politic/news/296637
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2868125
https://www.prachachat.net/politics/news-657337
https://news.thaipbs.or.th/content/281649
#explainer #ธรรมนัส #TheMATTER