หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ลุ้นระทึกของนักวิทยาศาสตร์และผู้ติดตามเรื่องจักรวาลและอวกาศ ล่าสุดทางการจีนยืนยันว่าเศษขยะจากจรวดสัญชาติจีนตกลงมาบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับหมู่เกาะมัลดีฟส์แล้ว
ทางการจีนรายงานว่า เศษขยะจากจรวด Long March 5b ได้เข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศโลกบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนลอยไปเหนือพื้นที่ตะวันออกกลาง และตกลงสู่บริเวณหมู่เกาะมัลดีฟส์ มหาสมุทรอินเดีย เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 8 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าตกลงสู่มหาสมุทร หรือพื้นที่ใด ภายในหมู่เกาะ 1,192 เกาะของมัลดีฟส์
โดย Long March 5b ได้ถูกปล่อยจากแท่นในเกาะไห่หนาน เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา โดยมันมีขนาดใหญ่ 108 ฟุต และน้ำหนักเกือบ 22 ตัน เพื่อขึ้นไปปฏิบัติการสร้างสถานีอวกาศ Tiangong ซึ่งมีแผนจะเปิดทำการในปี 2022 ก่อนพลังงานหมด และถูกแรงดึงดูดดึงสู่พื้นโลก
“ชิ้นส่วนส่วนมากถูกเผาและทำลายระหว่างที่กำลังเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก” ทางการจีนระบุ พร้อมชี้พิกัดการตกว่าอยู่ที่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงมาเล่ ประเทศมัลดีฟส์ หรือบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ที่ติดตามการตกของจรวดทวีตข้อความว่า “ทุกคนที่ติดตาม #LongMarch5B สามารถวางใจได้ ตอนนี้จรวดตกแล้ว”
ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าความเสี่ยงจะเศษจรวดจะสร้างความเสียหายมีน้อยมาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่มึ ทำให้ทางการจีนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เตรียมพร้อมพอสำหรับการคำนวณให้เศษขยะจากจรวดตกลงสู่พื้นที่ไร้ความเสี่ยงและไม่มีประชากรโลกอยู่
โดย European Space Agency คาดเดาพื้นที่เสี่ยงที่เศษขยะจากยานจะตกลงมา ได้แก่ เกือบทุกพื้นที่ของสหรัฐฯ, ทวีปแอฟริกาและออสเตรเลีย, บางส่วนของทวีปเอเชีย และบางส่วนของทวีปยุโรป เช่น อิตาลีและกรีซ
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เศษขยะจากจรวดเผาไหม้ไม่หมดและตกลงมาสู่ผืนโลก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชิ้นส่วนจรวดจาก Space-x ก็ตกลงมาบริเวณที่ดินของชาวนาในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และถ้าย้อนกลับไปไกลกว่านั้น จรวด Skylab สัญชาติสหรัฐฯ ที่เคยปฏิบัติการระหว่างปี 1973-1974 ก็เคยตกลงมาบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และทั่วพื้นที่ออสเตรเลียตะวันตกเช่นกัน
ทั้งนี้ การศึกษาอวกาศอยู่ภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ ระบุถึงแนวทางปฏิบัติและบทลงโทษสำหรับการสำรวจอวกาศ โดยครั้งหนึ่งในปี 1978 ทางการแคนาดาก็เคยเรียกเก็บค่าเสียหายและค่าทำความสะอาดกัมมันตรังสีจากดาวเทียม Cosmos 1954 ของรัสเซียมาแล้ว
ในปีนี้และปีที่ผ่านมา ประเทศจีนเริ่มก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าของการสำรวจอวกาศอย่างเต็มตัว เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พวกเขาประสบความสำเร็จในการส่งยาน Tianwen-1 ขึ้นไปโคจรรอบดาวอังคาร เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา พวกเขาสามารถนำหินจากดวงจันทร์ลงมาศึกษาบนโลก
และในอีก 1-2 เดือนที่จะถึงนี้ ทางการจีนมีแผนจะส่งรถหุ่นยนต์ Zhurong ขึ้นไปสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร ซึ่งถ้าสำเร็จจะนับเป็นชาติที่สอง ตามจากสหรัฐฯ
อ้างอิง:
https://www.washingtonpost.com/…/08/china-rocket-landing/
https://www.nytimes.com/…/china-rocket-reentry-falling…
#BRIEF #TheMATTER #LongMarch5B