ชื่อของวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง PRETZELLE อาจไม่ถึงกับโด่งดังระดับปรากฏการณ์หรือเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก
ทว่าที่แน่ๆ สมาชิกทั้งสามคนอย่าง อิ๊น–มาธวี รัตนวิจิตร, อุ๋มอิ๋ม – อัญรินทร์ ชัยอนันต์โสภณ และ เกรซ–อภิศรา ชมภูศรี มีกลุ่มแฟนคลับที่น่ารักคอยสนับสนุน และเชื่อเหลือเกินว่า ผลงานของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ต้องชอบแค่ไหน, ไม่รับความเห็นต่าง หรือเพลงล่าสุดอย่าง Red Flag จะต้องเคยผ่านหูผ่านตาใครหลายคนมาไม่มากก็น้อย
อันที่จริง PRETZELLE เป็นวงที่ถือกำเนิดในช่วงตั้งต้นของกระแสไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป ช่วงเวลาก่อนที่วงการ T–POP จะเบ่งบานเต็มตัว จนอาจเรียกได้ว่า พวกเธอคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญซึ่งช่วยขับเคลื่อนแวดวงดนตรี ณ พ.ศ. นั้น
อย่างไรก็ดี จะเพราะการมาถึงของวิกฤตโควิด-19 ที่บีบให้หลายสิ่งหยุดชะงัก การเปลี่ยนแปลงสมาชิกภายในวงซึ่งส่งผลต่อการสร้างภาพจำและความต่อเนื่อง หรือจะเพราะสาเหตุใดก็ตามแต่ ดูเหมือนว่า PRETZELLE จะยังก้าวไปไม่ถึงจุดที่จับต้องความสำเร็จได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นที่รู้จัก แต่ยังไม่ใช่ระดับที่สมาชิกในวงใฝ่ฝัน
พวกเธอส่งมอบผลงานคุณภาพมากมายมาประดับวงการ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แต่ละเพลงออกมาดีที่สุด แน่นอนว่าหลายผลลัพธ์ก็เป็นไปตามเป้า แต่ขณะเดียวกัน หลายเพลงที่ปล่อยออกมาก็ไม่เป็นที่นิยมเท่าที่หวัง นำไปสู่ความสงสัยในตัวเองที่ว่า ‘หรือพวกเรายังพยายามกันไม่มากพอ…’
เพราะเหตุนี้ รายการ 20 ยังจอย จึงชวนอิ๊น อุ๋มอิ๋ม และเกรซมาพูดคุยถึงเรื่องราว เหตุการณ์ ตลอดจนความทรงจำต่างๆ ที่เกิดขึ้นในฐานะสมาชิกของวง PRETZELLE ที่กำลังจะยุติบทบาทในระยะเวลาอันใกล้ พร้อมถามว่า บทเรียนที่ล้ำค่าที่สุดในช่วงวัย 20 ของแต่ละคนคืออะไร
นี่เป็นครั้งแรกที่รายการ 20 ยังจอยมีแขกรับเชิญมากถึง 3 คนในครั้งเดียว ทว่าก็เป็นการสนทนาที่สนุกสนานแบบคูณสามเลยทีเดียว
“แขกรับเชิญคนอื่นเคยตอบว่ายังไม่อยากโต ยังอยากเรียนรู้ ยังไม่ได้กินข้าว สำหรับ PRETZELLE จะตอบว่า… ยังอะไรดีครับ” เราชวนคุย
“Young Dumb & Broke แล้วกันค่ะ”
ทั้งสามคนตอบพร้อมกับหัวเราะ อุ๋มอิ๋ม ผู้ตั้งต้นไอเดียอธิบายว่า นี่คือสิ่งที่น่าจะเป็นความรู้สึกร่วมของคนในช่วงวัย 20 ชั่วขณะซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ ช่วงวัยที่เต็มไปด้วยความสับสน ค้นหา และดูเหมือนว่าอาจจะยังไม่เจอความมั่นคงในชีวิต
เพียงคำตอบแรก เราก็พอจะเดาได้แล้วว่า การพูดคุยในวันนี้น่าจะมีทั้งเสียงหัวเราะและหยดน้ำตาปะปนกันไป เกรซบอกต่อว่า ปกติพวกเธอจะถกเรื่องชีวิตกันเฉพาะในกลุ่ม ไม่ค่อยนำมาเล่าให้คนอื่นฟัง เราจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ถามเรื่องราวชีวิตของพวกเธอทั้งสามคน
พวกเธอให้กำลังใจกันอย่างไรในวันที่ท้อ และในวันนี้ ความสำเร็จที่อิ๊น อุ๋มอิ๋ม และเกรซรอคอยมาถึงแล้วหรือยัง ร่วมรับฟังการเดินทางของเกิร์ลกรุ๊ปวัย 5 ขวบไปพร้อมกัน
วันนี้ VS วันที่อายุ 20 ครั้งแรก
เราเปิดประเด็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากให้ทั้งสามคนลองเปรียบเทียบตัวเองตอนนี้ กับตัวเองในวันที่ตบเท้าเข้าสู่วัยเลข 2 เป็นครั้งแรก
อิ๊นกับเกรซนิ่งคิด เป็นอุ๋มอิ๋มที่อาสาตอบก่อน
“ตอนนี้ต่างจากตอนนั้นมาก ตอน 20 อุ๋มเรียนมหาลัย คิดว่าตัวเองไม่มีทางที่จะได้เริ่มเส้นทางดนตรีแน่นอน กดดัน ไม่มั่นใจในตัวเอง จริงๆ ก็เหมือนเราทิ้งความฝันนี้ไปแล้ว”
ถึงอย่างนั้น ด้วยความมุ่นมั่นและจังหวะเวลา ท้ายที่สุดอุ๋มอิ๋มก็ได้เข้ามาอยู่ในเส้นทางศิลปินจนได้ เธอไม่จำเป็นต้องละทิ้งสิ่งที่ตัวเองรัก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธออยากกลับไปบอกตัวเองในวัย 20 ว่ามีความสุขกับวัยนั้นหน่อย ใจดีกับตัวเองบ้าง ไม่เป็นไร วันหนึ่งเธอจะทำได้
ถัดมาคือเกรซ สมาชิกที่เด็กที่สุดของวง เกรซเพิ่งใช้ชีวิตวัย 20 มา 4 ปี จึงไม่มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยสิ่งที่แตกต่างมากที่สุดเกิดขึ้นเพราะการเรียนจบมหาวิทยาลัย
“ตอน 20 เราไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นนักศึกษา ไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคตขนาดนั้น แต่ตอนนี้ เราเจอจุดเปลี่ยนหลายอย่าง ต้องคิดหลายเรื่อง การงาน ความรับผิดชอบ อนาคต ล่าสุดเพิ่งเห็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันแต่งงาน”
จริงอย่างที่เกรซว่า 24-25 คือช่วงอายุที่เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยน มีทางแยกมากมายที่ต้องตัดสินใจ ทั้งเรื่องงาน ความฝัน หรือกระทั่งความสัมพันธ์ส่วนตัว ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่ง่ายทั้งสิ้น อิ๊นเองก็เห็นด้วยกับเกรซ พร้อมเสริมว่า แม้วัยนี้จะต้องคิดถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงบ้าง แต่อย่างน้อยก็ยังมีความสุขในสิ่งที่ทำ
อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย
ร้อง เต้น เล่นกับคนดู
แม้การร้องเพลงจะสร้างความสุขซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ให้กับทั้งอิ๊น เกรซ และอุ๋มอิ๋ม ทว่าความสุขนี้ก็มาพร้อมกับความท้าทายสารพัด หลายอย่างเราเองก็คาดไม่ถึง
ความท้าทายแรกคือการสร้างสรรค์บทเพลง เสียงร้องและดนตรีที่กินเวลาเพียง 3-4 นาทีไม่เคยง่ายเลยไม่ว่ากับใครก็ตาม PRETZELLE และทีมต้องคิดแล้วค้นอีกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด หลายต่อหลายครั้งที่รูปแบบที่ออกมาตรงกับความปรารถนาของสมาชิกในวง แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เพราะพวกเธอและทีมต้องคิดต่อด้วยว่า คนฟังจะชอบหรือไม่ คอนเซ็ปต์เพลงแข็งแรงมากพอแล้วหรือยัง ต้องคอยหาตรงกลางที่ทั้งค่าย วง และผู้ฟังถูกใจ
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อได้เพลงที่ลงตัวแล้ว การร้อง เต้น เล่น แร็ป ก็ไม่ง่าย โดยเฉพาะการเต้นที่สามสาวเน้นเสียงว่า ถึงจะมีพื้นฐาน แต่บางเพลงถึงกับต้องซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ท่าต่างๆ ซึมเข้าไปอยู่ในร่างกาย ฝึกฝนจนกว่าจะเต้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ กล้ามเนื้อคุ้นชิน
“ตอนครูเต้น มันว้าวมาก สวย ดูดี แต่พอเราทำจริง เอ้า! ทำไมไม่สวยแบบนั้น เศร้านะ” อิ๊นเล่าไปหัวเราะไป
การจะแสดงให้ออกมาดีไม่มีทางลัด ทางเดียวที่มีคือต้องฝึกซ้อม ตั้งใจลอกเลียนแบบครู ช่วยกันดู ยกแขนองศาให้ถูกต้อง ขยับขาให้ตรงจังหวะ จนในที่สุดพวกเธอทั้งสามคนก็ทำได้
ความท้าทายอย่างสุดท้าย คือการควบคุมเวที ทักษะนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ ซ้อมเองที่หน้ากระจกคงช่วยได้บางส่วน แต่อย่างที่รู้กันว่า ความตื่นเต้นเป็นคนละเรื่องกับตอนที่อยู่บนเวที ในช่วงที่ไม่ได้ใช้เพลงสร้างความสุขให้กับผู้ชม ทั้งสามคนต้องทักทาย ชวนคุย และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมให้ได้
“มันยากนะ พอเป็นศิลปิน มันต้องคุยสนุก แต่ต้องสนุกโดยคำนึงถึงคนฟัง ต้องระวังคำพูดไม่ให้ไปกระทบกับใคร บางทีเขาอาจจะไม่ตลกกับสิ่งที่เราพูดก็ได้” เกรซเล่า พร้อมบอกต่อด้วยรอยยิ้มว่า เธอและเพื่อนๆ อีกสองคนก็หวังว่าจะควบคุมเวทีได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เพลงดัง?
“รู้สึกสะใจค่ะ”
คือคำตอบเมื่อเราถามเกรซ อุ๋มอิ๋ม และอิ๊นว่า ถ้าเพลงที่ตั้งใจทำมาหลายเดือนมีกระแสตอบรับที่ดีจะรู้สึกอย่างไร
‘สะใจ’ เป็นคำที่อธิบายความรู้สึกทั้งหมด ในเมื่อพวกเธอตั้งใจทำเพลงอย่างเต็มที่ ซ้อมเต้น ฝึกแร็ป แถมยังพัฒนาทักษะบนเวทีอยู่เสมอ ถ้าหากวันหนึ่ง เพลงดัง ผลงานปัง ก็เป็นธรรมดาที่พวกเธอจะรู้สึกสะใจ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ‘สมดั่งที่ใจคาดหวัง’
พวกเธอเล่าเรื่องนี้พร้อมรอยยิ้ม เป็นยิ้มแห่งความสุข เป็นยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ…
ทว่าความภูมิใจก็ไม่ได้ปรากฏยาวนาน เสร็จสิ้นเพลงหนึ่ง เพลงต่อไปก็มาจ่อคิวรอ อุ๋มอิ๋ม อิ๊น และเกรซต้องกลับเข้ากระบวนการใหม่ตั้งแต่ต้น ทำเพลง ฝึกฝน เพื่อให้พร้อมสำหรับการโชว์เพลงต่อไป
แต่อย่างที่ทุกคนทราบดี ไม่ใช่ทุกเพลงที่จะกลายเป็นกระแส บทเพลงมากมายได้รับเสียงตอบรับที่ย่ำแย่ ทั้งที่เนื้อร้อง ทำนอง และองค์ประกอบต่างๆ มีคุณภาพครบถ้วน ซึ่งผลตอบรับเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกของทั้งสามคนไม่น้อย
ในแบบสอบถามประจำรายการ อิ๊น อุ๋มอิ๋ม และเกรซเขียนว่า ‘เรื่องที่ยากที่สุดในวัย 20s คือการที่อะไรๆ ไม่เป็นดั่งใจ’ และการที่ยอดวิวของเพลงไม่เข้าเป้าก็คงถูกนับรวมอยู่ในนี้
เสียใจกี่โมง คือผลงานแรกของสมาชิก PRETZELLE ชุดปัจจุบัน ทั้งสามคนลงทุนลงแรงกับเพลงนี้มาก ยกระดับเสื้อผ้าหน้าผม ตัวเพลง ซ้อมเต้นอย่างดี พูดง่ายๆ ว่า วงทำในส่วนของตัวเองเต็มที่แล้ว ฝั่งแฟนคลับก็ถูกใจ แต่ตัวเพลงก็ยังไปไม่ไกลเท่าที่ทั้งสามคนคาดหวัง
“ทั้งสามคนรับมือกับเรื่องนี้ยังไง” เราถาม
“ก็นอยด์ แต่ไม่นานนะ เราจะกลับมานั่งคิดว่า ทำไมเพลงไม่ไปอย่างที่หวัง จุดไหนคือช่องโหว่ วิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ เพื่ออุดช่องโหว่ในเพลงหน้า” อุ๋มอิ๋มว่า
วันที่ท้อ
คุยมาถึงตรงนี้ แม้จะล้มลุกคลุกคลานกับเส้นทางศิลปินมาไม่น้อยแต่ดูเหมือนว่า ทั้งสามคนจะไม่เคยท้อแท้หรือสิ้นหวังเลย สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเธอตอบในแบบสอบถาม ‘ไม่ชอบตัวเองเวลาท้อแท้’
เราชวนทั้งสามคนคุยถึงวันที่รู้สึกท้อที่สุด สำหรับสมาชิกที่อยู่กับ PRETZELLE มาตั้งแต่วันแรกอย่างอิ๊น การเปลี่ยนสมาชิกทำให้เธอท้ออยู่หลายครั้ง มีหลายความรู้สึกปะปน เซ็ง เศร้า ผิดหวัง แต่ก็พยายามปล่อยวาง อยู่กับปัจจุบัน พร้อมกันนั้นก็เริ่มต้นทำความรู้จักสมาชิกหน้าใหม่ที่พร้อมใจไปต่อ โดยมีกำลังใจจากเพื่อนและครอบครัวช่วยปลอบประโลม
ทางฝั่งของเกรซ เธอบอกว่าตัวเองท้อตั้งแต่วันแรก เพราะหลายสิ่งที่ต้องทำล้วนเป็นเรื่องใหม่ บางอย่างเธอทำไม่เป็นเลย แต่สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวว่า ความพยายามของตัวเองจะส่งไปไม่ถึงผู้ชม
“เรากลัวว่า เราพยายามแล้ว แต่ไม่เห็นพัฒนาการ เรากลัวตัวเองจะสงสัยว่า นี่ฉันทำอะไรอยู่” เกรซเล่าเศร้าๆ
สำหรับอุ๋มอิ๋ม ความท้อของเธอมาในรูปแบบของการกดดันและดูถูกตัวเอง ไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ คิดไปแล้วว่าตัวเองไม่มีวันเก่งขึ้น
“เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะอยากเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น แต่เราไม่ควรดูถูกตัวเองว่า เราเก่งขึ้นไม่ได้” อุ๋มอิ๋มสรุป
“หลังจากได้ดูคลิปวิดีโอตัวใหม่ของมาม่าที่มาพร้อมแคมเปญ ‘อย่าเพิ่งท้อ วันที่รอจะมาถึง’ ทั้งสามคนรู้สึกยังไงบ้าง” เราสงสัย
ทั้งสามคนตอบว่ารู้สึกเชื่อมโยงกับเรื่องราวในวิดีโอ อิ๊นกับเกรซเข้าใจความรู้สึกของน้องๆ มัธยมที่เล่นดนตรี เฝ้ารอการถูกค้นพบโดยใครบางคน เพราะพวกเธอเองก็เคยไม่เป็นที่รู้จักในครั้งแรกๆ ที่ขึ้นเวที ขณะที่อุ๋มอิ๋มชื่นชอบเหตุการณ์ระหว่างลูกชายกับแม่ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่อยากทำให้แม่ของตัวเองภูมิใจ
“ไม่มีใครท้อเพราะเพื่อนไม่คืนเงินบ้างเหรอ” เรายิงมุก
ทั้งสามตอบอย่างพร้อมเพรียง “ไม่มีให้ยืม ไปยืมคนอื่นเลยจ้า”
วันที่รอ
ถึงจะท้อและพบเจออุปสรรคมากมาย แต่ทั้งอุ๋มอิ๋ม เกรซ และอิ๊นก็เชื่อว่า วันที่พวกเธอรอจะมาถึง จังหวะชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน
ระหว่างที่รอความสำเร็จผลิบาน พวกเธอผลัดกันชม คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน กระทั่งวันที่รอมาถึง ผลลัพธ์หลายอย่างก็คุ้มค่ากับความพยายาม ความสำเร็จทั้งเล็กและใหญ่ช่วยให้สามสาวรู้ว่า ตัวเองก็พอมีความเก่งอยู่เหมือนกัน
จากเด็กไม่มั่นใจ ร้องไห้หลังจากร้องเพลงเพี้ยนบนเวทีประกวด ตัวสั่นทุกครั้งที่ต้องพูดหน้าชั้น ทุกวันนี้อิ๊นมีความสุขที่ได้ร้องเพลงให้คนหลักพันรับฟัง
ขณะที่เกรซ เธอรู้สึกขอบคุณทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต สิ่งเหล่านั้นช่วยให้เธอเรียนรู้และเติบโต เธอกลายเป็นเธอทุกวันนี้ได้เพราะทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา
จากคนที่ไม่แม้กระทั่งเชื่อมั่นในตัวเอง อุ๋มอิ๋มพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอทำได้ วันนี้ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่รักและพอใจในตัวเอง เพราะคนรอบข้าง ทั้งครอบครัว เพื่อน และแฟนคลับต่างก็ชื่นชมในตัวเธอเช่นเดียวกัน
ดังนั้น สามสาว PRETZELLE จึงอยากให้ทุกคนที่กำลังท้อสู้ต่อไป วันที่รอจะมาถึง ยังไงก็ต้องเป็นวันของเราในสักวัน สิ่งที่พยายามวันนี้จะผลิดอกออกผลในอนาคต ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาจจะไม่ได้เห็นผลในวันนี้พรุ่งนี้ แต่ความพยายามเหล่านั้นจะไม่สูญเปล่าแน่นอน
“ถ้าได้เจอตัวเองในวัย 20 คิดว่า เราตอนนี้กับเราตอนนั้นคุยกันเรื่องอะไร” เราถามทิ้งท้าย
อิ๊น: เขาจะรู้สึกภูมิใจและมีเราเป็นแบบอย่าง และเราคงบอกเขาว่า ถ้าร้องเพลงเพี้ยนก็ไม่ต้องเครียด โตมาร้องเพี้ยนกว่าเดิมอีก ล้อเล่น (หัวเราะ)
เกรซ: เขาคงงงว่า เรามาเป็นศิลปินได้ยังไง ส่วนเรา ณ วัยนี้อยากส่งกำลังใจให้เขา อยากให้เขามีความสุข ไม่ต้องกังวล
อุ๋มอิ๋ม: เขาจะกรี๊ด เพราะนี่คือสิ่งที่เขาอยากทำ เขาชอบไปดูคอนเสิร์ต แล้วก็ชอบคิดอยู่ตลอดว่า ถ้าเขาได้ยืนอยู่บนเวที เขาจะคิดอะไร รู้สึกอะไร พูดอะไร ซึ่งวันนี้ เขาคนนั้นกลายมาเป็นเราที่ได้ทำสิ่งนี้แล้ว
เมื่อบรรลุเป้าหมาย ย่อมเป็นธรรมดาที่เป้าหมายใหม่จะปรากฏขึ้นในความคิด อิ๊น เกรซ และอุ๋มอิ๋ม แม้ได้ทำในสิ่งที่รักแล้ว เดินทางถึงวันที่รอแล้ว ทว่ายังมีปลายทางถัดไปที่กำลังมุ่งหน้า มีซิงเกิลสุดท้ายรอปล่อย มีความฝันอื่นๆ ที่สนใจเฉกเช่นมนุษย์ทุกคนที่ไม่จำเป็นต้องมีเพียงความฝันเดียว
วันที่พวกเธอรอในฐานะศิลปินมาถึงแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่า สิ่งที่เธอรออยู่ข้างหน้าคืออะไร มันคงไม่ง่าย แต่มันจะมาถึงในสักวัน…