ประชาชนหลายคน ยังคงกังวลต่อคุณภาพ และผลข้างเคียง ของวัคซีน Sinovac รวมถึงการตั้งคำถามต่อกรณี ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงไม่ให้กับรับรองวัคซีนของ Sinovac อย่างไรก็ดี องค์การอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาไขข้อสงสัย พร้อมยืนยันว่า ไทยสามารถให้การรับรอง Sinovac ได้เอง โดยไม่ต้องผ่าน WHO
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใด วัคซีนของ Sinovac จึงยังคงไม่ได้รับการรับรอง จากทางองค์การอนามัยโลก โดย นพ.ไพศาล ชี้แจงว่า ความเข้าใจที่ว่า วัคซีนที่ถูกใช้ในแต่ละประเทศ จำเป็นจะต้องผ่านการรับรองคุณภาพ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน จากองค์การอนามัยโลกนั้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
นพ.ไพศาล กล่าวว่า ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก ได้ทำการอนุมัติวัคซีน COVID-19 ให้ใช้ในเฉพาะกรณีฉุกเฉิน หรือ WHO Emergency Use Listing Procedure (WHO EUL) เพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ สำหรับการใช้วัคซีนในโครงการ COVAX หรือโครงการจัดหาวัคซีน เพื่อความเท่าเทียมในแต่ละประเทศ อีกทั้งการรับรองในกรณีฉุกเฉิน ขององค์การอนามัยโลก จะช่วยให้ประเทศ ที่ยังไม่มีความพร้อมในการอ้างอิง การรับรองการใช้วัคซีนเพื่อกรณีฉุกเฉิน ได้ยึดมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกแทน
ในส่วนของกรณีประเทศไทยนั้น สามารถได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ด้วยระบบการรับรองแบบ WHO Prequalification (WHO PQ) โดยไม่ต้องผ่าน WHO EUL และไทยเองเป็นสมาชิก Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S) หรือมาตรฐานการรับรองการผลิตยาที่ดี ซึ่งถูกใช้และอ้างอิงในยุโรป ประเทศไทยจึงสามารถพิจารณาคุณภาพของ Sinovac ได้เอง โดยไม่ต้องผ่านการรับรองในกรณีฉุกเฉิน ขององค์การอนามัยโลก
นพ.ไพศาล ยืนยันว่า วัคซีนอย่าง Pfizer Moderna และ Johnson & Johnson ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ก็ต่างได้รับการรับรองในประเทศเอง ก่อนการได้รับการรับรองให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลกทั้งสิ้น เช่นเดียวกับกรณีของไทย ที่ให้การรับรองวัคซีนของ AstraZeneca ก่อนที่องค์การอนามัยโลก จะให้การรับรองวัคซีนดังกล่าว ในการใช้ในกรณีฉุกเฉินเช่นกัน
ทาง นพ.ไพศาล กล่าวเสริมรับรองคุณภาพวัคซีนของ Sinovac ว่า มีคุณภาพการป้องกัน COVID-19 ที่สูง โดยอ้างอิงจากการที่มีประเทศกว่า 45 ประเทศ ที่ใช้ Sinovac ฉีดให้แก่ประชาชน และมีการพบข้อมูลในไทยว่า ผู้ฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มแล้ว 1 เดือน มีภูมิต้านทานขึ้นถึง 99.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ติดเชื้อตามธรรมชาติ ที่จะมีภูมิต้านทาน 92.4 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้มั่นใจว่า Sinovac มีความปลอดภัย มีประสิทธิผล และใช้งานได้จริง ทั้งนี้ นพ.ไพศาล กล่าวเชิญชวนให้ประชาชน มารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองและประเทศ
ปัจจุบันนี้ ผู้ชำนาญการจากองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า วัคซีนของ Sinovac อาจมีประสิทธิภาพ ในการป้องกัน COVID-19 ในประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกพบว่า ยังคงมีข้อมูลเชิงคุณภาพบางอย่างของ Sinovac ที่ตกหล่นไป และอาจส่งผลต่อการประเมินผลกระทบ ในผู้ที่ได้รับวัคซีนของ Sinovac ซึ่งจะส่งผลกระทบ ถึงความปลอดภัยในการใช้ฉีดให้แก่ประชากรได้
อ้างอิงจาก
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2719233
#Brief #TheMATTER