หลังจากการรายงานข่าว ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในปาเลสไตน์และอิสราเอล ล่าสุด ทั้งสองรัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมอย่างไม่มีเงื่อนไขแล้ว ช่วยให้ความรุนแรงที่ยาวนานกว่า 11 วันผ่านมายุติลงได้
ข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว มีผลตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น. ในวันนี้ (21 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 06.00 น. ตามเวลาไทย) โดย เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้การยืนยันว่า รัฐบาลอิสราเอลได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวจริงต่อ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกแถลงเรียกร้องให้มีการเจรจาหยุดยิง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 พฤษภาคม)
อย่างไรก็ดี กลุ่มฮามาสได้กล่าวกับสำนักข่าว AP ว่า การเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นชัยชนะของชาวปาเลสไตน์ และเป็นความพ่ายแพ้ของเนทันยาฮู ในขณะที่ทางฝั่งอิสราเอลกล่าวว่า พวกเขาพร้อมจะโจมตีกลับอีกครั้ง หากปาเลสไตน์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
เป็นเวลากว่า 11 วัน ที่อิสราเอลเริ่มโจมตีทางอากาศต่อปาเลสไตน์ ปัจจุบัน มีรายงานว่าชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 232 ราย เสียชีวิต ซึ่งเป็นเด็กกว่า 65 ราย และผู้หญิงอีกกว่า 100 ราย ตลอดจนผู้บาดเจ็บอีกนับพันราย โดยมีผู้ที่อยู่อาศัยในกาซาอย่างน้อย 72,000 ราย ต้องพลัดจากถิ่นที่อยู่ ในขณะที่มีรายงานจากทางฝั่งอิสราเอลว่า พวกเขาสูญเสียชาวอิสราเอลไป 12 ราย จากการโจมตีด้วยจรวดของปาเลสไตน์
การบรรลุข้อตกในครั้งนี้ ถูกขับเคลื่อนโดย อียิปต์ กาตาร์ และสหประชาชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นคนกลาง ในการเจรจาระหว่างรัฐบาลอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส ซึ่งปกครองอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา ในขณะที่วันพุธที่ผ่านมา ไบเดนได้ออกมาเรียกร้องให้เนทันยาฮู ลดระดับทางมาตรการลง เพื่อเป็นหนทางนำไปสู่การหยุดยิง ทั้งนี้ มีข้อโจมตีต่อไบเดนว่า ท่าทีของเขามีความไม่ชัดเจน ล่าช้า และเลือกข้าง
เหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ในช่วงท้าย ของเทศกาลถือศีลอดหรือเราะมะฎอน ของชาวมุสลิมในปาเลสไตน์ ที่ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาได้ จากมาตรการของรัฐบาลอิสราเอล ประกอบกับความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และดินแดน ที่มีมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง ในระลอกใหม่นี้ ที่ยาวนานมาร่วมกว่า 11 วัน ก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงลงในวันนี้
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-57195537
#Brief #TheMATTER